OPENING HOURS: MONDAY – SUNDAY: 10.00 AM TO 8.00 PM

info@sitename.com | 987654321

Design Makes A Better Life.

Design Makes A Better Life.

ตึกแถว เอามาทำเป็นโรงแรม ผิดกฎหมายหรือไม่… ?

สวัสดีค่ะ DsignSomething

ดิฉันมีเรื่องจะปรึกษาเกี่ยวกับอาคารประเภทตึกแถวค่ะ คือดิฉันไปซื้อตึกแถวมา 4 คูหาติดกัน ตั้งใจจะปรับปรุงแล้วทำเป็นโรงแรมเล็กๆ ซึ่งตอนนี้คำนิยมทำกันเยอะ แต่ดิฉันมีข้อสงสัยว่าการปรับปรุงดังกล่าวจะเป็นการผิดกฎหมายหรือไม่ เพราะมีการเปลี่ยนการใช้งานเป็นโรงแรม หากไม่ผิดกฎหมายและสามารถทำได้ มีเรื่องอะไรบ้างที่ต้องคำนึงถึงก่อนออกแบบหรือก่อสร้างค่ะ

ขอบคุณมากค่ะ

อัจฉรา

 

สวัสดีครับ คุณอัจฉรา

เรื่องของการปรับปรุงตึกแถวให้เป็นโรงแรมนั้นสามารถทำได้ ไม่มีกฎหมายตัวใดที่ห้ามกระทำ หากแต่ต้องไม่ผิดกฎหมายควบคุมอาคารทั้งเรื่องการต่อเติม ระยะร่น รวมไปถึงวัสดุที่ต้องกันทนไฟ และยังมีกฎหมายโรงแรมในเรื่องของที่จอดรถ ทางหนีไฟ กฎหมายสิ่งแวดล้อม การอนุรักษ์พลังงาน เป็นต้น ซึ่งต้องดูรายละเอียดกันอีกทีก่อนออกแบบและก่อสร้าง ควรจะมีสถาปนิก มัณฑนากร หรือวิศวกรคู่ตัวคอยช่วยดูแล คิด และคำนวณความปลอดภัยของโครงสร้างเป็นสำคัญ

โดยผนังของตึกแถวต้องสร้างด้วยวัสดุทนไฟเสมอ กฎหมายระบุว่าผนังของตึกแถว ต้องทำด้วยวัสดุทนไฟ (วัสดุทนไฟหมายถึงวัสดุที่ไม่เป็นเชื้อเพลิง) แต่ถ้าก่อด้วยอิฐธรรมดาหรือคอนกรีตไม่เสริมเหล็ก ผนังนี้ต้องหนาไม่น้อยกว่า 8 เซนติเมตร ต้องสร้างผนังทนไฟทุกๆระยะไม่เกิน 5 คูหา ต่อเนื่องจากพื้นดินถึงระดับดาดฟ้า และในกรณีที่หลังคาเป็นวัสดุไม่ทนไฟ ต้องทำผนังกันไฟสูงเหนือหลังคาไม่น้อยกว่า 30 เซนติเมตรตามความลาดของหลังคา ส่วนการต่อเติมเพิ่มจากส่วนเดิมของอาคาร ก็ควรมีการแยกโครงสร้างออกจากกัน เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาของการทรุดตัวที่ต่างกัน

ๆหก

Tip

ห้องแถว ตึกแถว ต่างกันอย่างไร ?

ห้องแถว หมายถึงอาคารที่ สร้างด้วยไม้หรือวัสดุที่ไม่ทนไฟ สร้างติดกันเป็นแถวยาวๆ แล้วก็แบ่งออกเป็นคูหา ตั้งแต่ ๒ คูหาเป็นต้นไป ตึกแถว เหมือนกับห้องแถวทุกอย่าง แต่สร้างด้วยวัสดุทนไฟเป็นส่วนใหญ่

DsignSomething Team

มีคำถามเรื่องการออกแบบ เรื่องบ้าน ส่งมาได้ที่ dsignsomething@gmail.com หรือที่https://www.facebook.com/DsignSomething ครับ เรายินดีหาคำตอบมาให้

Discover more from Design Makes A Better Life.

Subscribe now to keep reading and get access to the full archive.

Continue reading