ผมเชื่อว่าการท่องเที่ยวหรือการได้ไปพักผ่อนในที่ที่ไม่เคยไป คือการสร้างประสบการณ์ที่ดี ที่จะเติมเต็มให้ชีวิตได้เดินหน้าต่อไปอย่างสมดุล ชีวิตที่ทำงานอย่างเดียวหรือเคร่งเครียดเกินไป ย่อมไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ทริปนี้ผมรู้สึกว่าโชคดีจริงๆที่ได้มีโอกาสมาเยือนโรงแรมระดับ 6 ดาวนี้ ดินแดนในฝันนี้คือ Soneva Kiri เกาะกูด จังหวัดตาก โรงแรมในเครือ Six Senses ที่ได้ชื่อว่าดินแดนในฝันก็เพราะว่าที่นี่เต็มไปด้วยธรรมชาติที่สมบูรณ์สวยงาม และสถาปัตยกรรม การตกแต่งที่เอื้อให้เกิดการพักผ่อนที่ดีมากๆ
ความรู้สึกที่ต่างออกไปจากที่พักแห่งอื่น เริ่มตั้งแต่การเดินทางไปยังเกาะกูดแห่งนี้ เราต้องเดินทางด้วยเครื่องบินส่วนตัวของทางโรงแรม เป็นเครื่อง Cessna Grand Caravan แบบ 8 ที่นั่ง และสามารถใช้บริการของ lounge การบินไทยในส่วน Garden zone ขึ้นเครื่องจากสนามบินสุวรรณภูมิมุ่งตรงสู่เกาะกูดจังหวัดตราด ประมาณชั่วโมงเดียวก็มาถึงเกาะกูด ทางรีสอร์ทมีสนามบินส่วนตัวที่เกาะใกล้ๆเกาะกูด ต้องนั่งเรือต่อมาอีกที ใช้เวลานั่งเรือแป๊บเดียวครับ ประมาณ 10 นาที การต้อนรับที่อบอุ่นเป็นกันเองพร้อมพาเดินชมรอบๆโครงการซึ่งมีพื้นที่กว้างใหญ่มาก เราต้องเดินทางภายในโครงการด้วยรถกอล์ฟ (รถขนาดเล็กที่ใช้ในพื้นที่โรงแรม) ท่ามกลางธรรมชาติที่เขียวครึ้ม เรารู้สึกได้ถึงออกซิเจนที่ลอยอยู่ในอากาศ
เมื่อดินเข้ามาในส่วนของโรงแรม ที่นี่มีแนวคิดว่า NO NEWS NO SHOES ให้ผู้เข้าพักทุกคนถอดรองเท้าและเดินเท้าเปล่าภายในโครงการ พื้นผิวทั้งหมดของโครงการออกแบบมาเพื่อการเดินเท้าเปล่า ไม่รู้สึกว่าเจ็บเท้าเลย และแปลกมากที่ความรู้สึกผ่อนคลายก็เกิดขึ้นทันทีที่เดินเท้าเปล่าและได้สัมผัสพื้นดินพื้นไม้จริงๆ
ห้องพักที่ได้พักคือ Cliff Villa Pool Suite (2 bedrooms) สถาปัตยกรรมที่ตกแต่งด้วยไม้ไผ่ดูเป็นธรรมชาติมากๆ ตัวอาคารถูกแบ่งออกเป็น 3 หลังย่อย เชื่อมกันด้วยชานและระเบียง สระว่ายน้ำรูปทรงอิสระขอบอกว่าเล่นน้ำกันเพลินมากๆ
ทั้งส่วนห้องพักและส่วนประกอบทั้งหมดใช้วัสดุธรรมชาติอย่างไม้และไม้ไผ่ และรายละเอียดต่างๆก็ดูเป็นธรรมชาติดี
การเดินทางภายในต้องใช้รถกอล์ฟ เส้นทางธรรมชาติมากๆ
ทุกรายละเอียดมีการซ่อนแอบบสิ่งที่ดูแล้วไม่เป็นธรรมชาติได้เป็นอย่างดี
การเลือกใช้ไม้จริงทำให้ที่นี่ต่างจากที่อื่นอย่างสุดขั้น ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่ทนทานเพราะสิ่งที่ได้กลับมาคือความรู้สึกของผู้เข้าพักที่จะประทับใจไม่มีวันลืม
แม้แต่ท่อระบายน้ำฝนยังใช้ไม้จริงปิดทับเพื่อความไม่ขัดสายตา
Hill Pool Villa Suite ที่มีการเล่นระดับที่น่าสนใจ เปิดโล่งสู่ป่าเขาและถัดไปคือท้องทะเลสีคราม
อยู่ท่ามกลางธรรมชาติแบบนี้ การได้อาบน้ำกลางแจ้งถือเป็นประสบการณืที่ดีมากไม้ที่ใช้ส่วนใหญ่เป็นไม้โอ๊ค ไม้บีช สีอจะอ่อนกว่าไม้สักหรือไม้มะค่าที่นิยมใช้กัน ไม้สีอ่อนทำให้รู้สึกเบาสบายดี
บรรยากาศภายในห้องพักทุกห้องนั้นเน้นมุมมองที่สามารถมองออกไปได้ทุกมุมมอง บานเฟี้ยมเปิดได้กว้างที่สุด แถมมีมุ้งให้กางหากไม่อยากนอนเปิดแอร์ด้วย
ส่วนที่ชอบมากอีกส่วนหนึ่งคือ Main Facilities ที่นี่ประกอบด้วยสระว่ายน้ำกลาง ห้องอาหาร ห้องขนมหวาน (มีช็อคโกแลตให้ทานตลอดทั้งวัน) ห้องสมุด Gallery หอดูดาว ทั้งหมดถูกเชื่อมต่อด้วยระเบียงและชาน ทั้งหมดดูเข้ากันด้วยการตกแต่งด้วยไม้
ส่วนนี้เป็นอาคารสำหรับให้เด็กๆมาเล่นและพักผ่อน ภายในประกอบด้วยขอเล่นและเครื่องเล่นมากมาย แต่ผมว่าผู้ใหญ่ก็เล่นสนุกได้ไม่ยากนะ
ทางเดินสู่ท่าเรือที่มีชื่อว่า Dragon Jetty ทำเป็นสะพานและหลังคาทรงแปลกตาเป็นเอกลักษณ์หนึ่งของรีสอร์ทแห่งนี้
รับรองจริงๆว่าถ้าได้ไปพักที่นี่แล้วคุณจะอยากกลับไปอีก ทั้งบริการและภาพรวมของรีสอร์ท ทำให้เราลืมความวุ่นวายในเมืองไปได้อย่างหมดจด
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมของโรงแรมได้ที่ http://www.soneva.com/soneva-kiri/home เพราะมีอีกหลายส่วนที่เรายังไม่ได้พูดถึง เพราะความประทับใจนั้นมากมายจริงๆ ขอให้มีความสุขกับการพักผ่อนครับ