การมีบ้านสักหลัง อาจเป็นความฝันหรือความจำเป็นของทุกๆคน “บ้าน” คือชีวิต คือสถานที่ที่ทุกคนจะสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุขที่สุด
พื้นที่ดินเปล่าบริเวณชานเมืองแห่งหนึ่งในจังหวัดมีนบุรี เป็นที่ตั้งของบ้านหลังนี้ บ้านที่มีสภาพแวดล้อมซึ่งยังคงความเป็นธรรมชาติอยู่ ลองนึกภาพของพื้นที่ชานเมืองที่ยังไม่มีบ้านเรือนอยู่หนาแน่น หากแต่เป็นพื้นที่สีเขียวและต้นไม้อยู่รอบๆบริเวณบ้าน การออกแบบจึงต้องคำนึงถึงมุมมองที่สวยงามน่ามองเหล่านี้ และสามารถซึมซับบรรยากาศรอบตัวให้ได้มากที่สุด
โจทย์ในการออกแบบเป็นการกลับมาอยู่ร่วมกันของพี่น้องสองคน คนน้องเป็นผู้หญิงที่เพิ่งเริ่มทำงาน ความทันสมัยและความต้องการความเป็นส่วนตัวเป็นประเด็นหลักในการออกแบบ ส่วนคนพี่นั้นเป็นผู้ชาย แต่มีครอบครัวแล้ว และอยู่กับภรรยาหนึ่งคน ทั้งสองอยู่ด้วยกันอย่างเอื้ออาทร เพราะพ่อและแม่นั้นได้จากไปนานแล้ว การดูแลซึ่งกันและกันจึงเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด บ้านหลังนี้จึงเกิดขึ้นภายใต้ความต้องการของคน 2 ครอบครัวในบ้านที่อบอุ่น
ความต้องการทั้งหมดถ่ายทอดจากเจ้าของบ้านสู่ผม ผู้ซึ่งเป็นสถาปนิกออกแบบบ้านหลังนี้ อันดับแรกผมจึงคิดถึงเรื่องของความต้องการเบื้องต้นที่ทั้ง 2 ครอบครัวต้องการเหมือนกันสิ่งนี้คือจุดร่วม จุดที่สามารถนำมาเชื่อมและผสมผสานเป็นก้อนเดียวได้โดยใช้งานร่วมกัน นั่นก็คือส่วนห้องนั่งเล่น ห้องรับแขก ห้องรับประทานอาหาร และห้องครัว ส่วนห้องนอนและห้องน้ำเป็นพื้นที่ส่วนตัว จึงต้องแยกออกมาเป็น 2 ส่วนตามเดิม
โดยแนวทางในการจัดวางห้องนั้น เหมือนกับการที่เรานำ 2 ก้อนของ 2 ครอบครัวมาประกบกันแล้วทำการยกและบิดบางส่วนเพื่อให้เกิดมุมมองที่น่าสนใจของทั้ง 2 ครอบครัว (ดูรูปภาพแสดงการจัดวางห้องประกอบ) สิ่งที่ได้คือการมีห้องนอนที่ไม่ซ้อนทับกันและอากาศก็ถ่ายเทได้สะดวก ส่วนทางเข้านั้นก็สามารถเข้าถึงได้ร่วมกัน มีพื้นที่ส่วนกลางที่ยังเป็นที่ที่ได้พบกันของทั้ง 2 ครอบครัว ก่อนที่จะแยกย้ายเข้าห้องของตัวเอง
ผมหวังว่าบ้านหลังนี้จะเป็นบ้านที่สามารถรับวิวสวยงามและถ่ายเทอากาศได้ดีจากทั้งสองชั้น หวังว่าจะเป็นบ้านที่มีพื้นที่ส่วนกลางที่น่ารักอบอุ่น และหวังว่าทั้งสองครอบครัวจะอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขตลอดไป
ไดอะแกรมแสดงการจัดวางห้องต่างๆ
หลังคาบางส่วนยังสามารถออกแบบให้เป็นสวนสำหรับพักผ่อนได้ โดยเข้าถึงสวนนี้ได้จากห้องนอนชั้น 2 นั่นเอง
หลังคาคอนกรีตที่วิ่งเฉียงลงมากลายเป็นที่บังแดด ช่วยเพิ่มร่มเงาให้กับระเบียงไม้ชั้น 2
ส่วนโครงสร้างที่ใช้นั้นก็เป็นโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก เสาที่เป็นเสาลอย (เสาลอยหมายถึงเสาที่โดดออกมาเดี่ยวๆ ไม่มีผนังมาต่อชน) จะทำเป็นเสากลม ทั้งเสา ผนัง ทาสีขาวเพื่อความบางสบายตา พื้นบางส่วนมีการปูไม้สักเพื่อความรู้สึกอบอุ่นน่าอยู่มากขึ้นเช่นในส่วนของห้องรับแขกและห้องรับประทานอาหาร
การตกแต่งภายในเป็นแบบเรียบง่าย ใช้โทนสีขาว และสีน้ำตาลของไม้จริง ที่บันไดทางขึ้นออกแบบให้มีบางส่วนยื่นออกมาเป็นที่นั่งได้ด้วย เวลาที่มีกิจกรรมหรือสามารถมานั่งเล่นเปลี่ยนบรรยากาศได้ด้วย
ออกแบบให้ใช้ผนังกระจกใสที่ยาวตลอดแนวของตัวบ้าน ส่วนที่อยู่ในห้องนอนและห้องรับแขกก็ใช้เป็นประตูหน้าต่างบานเลื่อนเพื่อระบายอากาศ