หากจะพูดถึงการปรับปรุงอาคารเพื่อเปลี่ยนการใช้งาน หรือเพื่อให้สามารถใช้งานได้ดีขึ้น ถือเป็นแนวทางที่เจ้าของบ้านหรือเจ้าของอาคารให้ความสนใจเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นภายในประเทศไทยเราเองหรือต่างประเทศ การปรับปรุงอาคารเป็นที่นิยมและมีงานประเภทนี้มากขึ้น เหตุผลหนึ่งของการทำการปรับปรุงอาคารแทนการสร้างใหม่คือ ความรวดเร็วในการก่อสร้างเพราะมีโครงสร้างเดิมอยู่ และเสน่ห์ของโครงสร้างอาคารเดิม หากเป็นอาคารเก่าที่มีเรื่องราว ก็จะยิ่งสร้างความน่าสนใจให้กับอาคารนั้นมากขึ้น เช่นเดียวกับโรงแรมแห่งนี้ที่ประเภทมาเลเซีย ที่ของเก่าและใหม่ได้ผสานกันอย่างลงตัว
โรงแรมแห่งนี้มีชื่อว่า SEKEPING SIN CHEW KEE ตั้งอยู่ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย โรงแรมในซีรีย์ SEKEPING นี้ได้เปิดตัวขึ้นหลายที่แล้ว ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากการปรับปรุงอาคารเก่าทั่วกรุงกัวลาลัมเปอร์ นำมาทำเป็นโรงแรมที่มีแนวคิดในการสร้างสิ่งใหม่ ผสานกับเรื่องราวและส่วนประกอบของาคารเดิมไว้อย่างลงตัว โรงแรมเท่นี้มีเจ้าของและผู้ออกแบบเป็นคนเดียวกัน คือ NG SEK SAN จาก Seksan Design Landscape Architecture And Planning นั่นเอง
อาคาร 2 ชั้น พร้อมดาดฟ้าลักษณะคล้ายอาคารตึกแถวบ้านเรา โครงสร้างทั้งหมดเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก โดยผู้ออกแบบนั้นเลือกที่จะไม่ทำการต่อเติมที่เป็นการเพิ่มน้ำหนักให้อาคาร และใช้การจะพื้นที่ใช้งานใหม่ เพิ่มเพียงพื้นที่ชั้นลอยซึ่งอยู่ที่ชั้น 2 ของโรงแรมแห่งนี้ ส่วนพื้นที่ชั้นล่างนั้นทำเป็นร้านกาแฟ พื้นที่พักอาศัยจึงอยู่ที่ชั้น 2 และชึ้นลอยเท่านั้น
ลักษณะอาคารที่เป็นตึกแถว จึงมีทางถนนเข้าถึงทั้งด้านหน้าและด้านหลังของอาคาร โดยทางเข้าหลักที่ด้านหน้า จะมีพื้นที่ก่อนเข้าอาคารเป็นพื้นที่จัดสวนขนาดเล็ก มีกำแพงที่สูงไม่มากนักปิดล้อมเพื่อให้เกิดความเป็นส่วนตัว ที่ทางเข้านั้นมียันไดเหล็กพาดขึ้นไปสู่ห้องพักที่อยู่ด้านบนโดยตรง ไม่ต้องเดินขึ้นไปจากภายในบ้าน เมื่อขึ้นมาถึงที่ชั้น 2 นี้ก็จะพบพื้นที่ห้องนั่งเล่นที่มีฝ้าสูง ให้ความรู้สึกโปร่งสบายและเปิดรับแขกทุกคนอย่างอบอุ่น ต่อเนื่องเข้าไปเล็กน้อยเป็นส่วนครัวเล็กๆสำหรับแขกที่มาพัก และเมื่อเดินเข้าไปด้านในสุดก็จะเจอกับห้องน้ำ และห้องนอนอีก 2 ห้อง 
ที่โถงนั่งเล่นนี้เป็นตำแหน่งของบันไดที่จะขึ้นไปสู่ชั้นลอย และดาดฟ้าได้ โครงสร้างชั้นลอยนี้ทำขึ้นมาใหม่ โดยทำการเปิดฝ้าเดิมทั้งหมด และทำฝ้าใหม่ให้ลาดเอียงตามองศาของหลังคาเพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้งานให้มากขึ้น บรรยากาศโดยรวมทั้งหมดนั้นเป็นความรู้สึกที่ผสมผสานระหว่างของเก่าและใหม่ ไม่ว่าจะเป็นผนังบริเวณห้องนั่งเล่น ใช้ลูกเล่นการสกัดผนังเอาปูนที่ฉาบออกเป็นวงกลม เผยให้เห็นอิฐที่ก่อเรียงกันอย่างสวยงามและเรียบง่าย หรือจะเป็นบานหน้าต่างที่เดิมอยู่ภายนอกบ้าน ปัจจุบันก็นำมาตกแต่งภายในได้ความรู้สึกที่อบอุ่นน่าอยู่ หรือพื้นไม้ที่ยังคงใช้งานได้ดีก็นำมาทำสีใหม่ แต่ยังคงดูเข้ากันกับภาพรวมทั้งหมด
ไม่เพียงการออกแบบเรื่องวัสดุ ของตกแต่งภายในรวมถึงเฟอร์นิเจอร์ ก็มีความดิบ เข้ากับการออกแบบได้เป็นอย่างดี เช่นเตียงที่นี่ จะวางฟูกลงบนตะแกรงเหล็กซึ่งสานกันเป็นเตียงแทนโครงไม้เรียบหรู เช่นเดียวกับโซฟา ส่วน รวมถึงข้างของเครื่องใช้อย่างกาน้ำร้อนก็เป็นแบบโบราณ เก้าอี้สังกะสี และถ้วยชามเซรามิคดูมีอายุ แถมมีมุ้งให้กางเวลานอนด้วย 
งานลักษณะนี้ต้องเป็นการออกแบบควบคู่ไปกับการก่อสร้าง เพราะภาพสุดท้ายที่ออกแบบไว้ในกระดาษ อาจมีสิ่งที่ไม่ตรงกับความเป็นจริง ต่างจากอาคารที่สร้างขึ้นมาใหม่ทั้งหมดที่เราสามารถกำหนดสิ่งต่างๆได้เอง แต่กับการปรับปรุงอาคารเก่า การลองรื้อ ลองทุบ และสำรวจ อาจทำให้ภาพในจินตนาการนั้นต้องเปลี่ยนไป ในรายละเอียดของแบบที่จะต้องปรับตามหน้างาน เพื่อให้เกิดความลงตัวมากที่สุด
ระหว่างที่เดินอยู่ภายในโรงแรมแห่งนี้ เรารู้สึกได้ถึงความไม่ตั้งใจที่ตั้งใจ ความไม่เรียบและเนียนจนเกินไป คือสเน่ห์อย่างหนึ่งของงานสถาปัตยกรรมและการตกแต่ง มองอีกแง่หนึ่งมันอาจเป็นการแก้ปัญหาหน้างาน ที่มีข้อจำกัดมากมาย เช่นการเดินสายไฟและดวงไปลอยแทนการเจาะผนังที่ผนัง ทั้งง่ายต่อการติดตั้ง บำรุงรักษา และยังดูดิบเท่ดี หรือจะเป็นการคงผนังอิฐ โชว์ท้องพื้นคอนกรีต หรือการไม่ฉาบทับผนังที่ไม่เรียบนัก ล้วนเป็นความตั้งใจทั้งสิ้น สิ่งเหล่านีเอาจเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า การเปลือย “สัจจะวัสดุ” ให้เห็นอย่างตรงไปตรงมา ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นความชอบและแนวทางของผู้ออกแบบ ซึ่งหลายคนอาจคิดว่ามันเหมือนงานก่อสร้างที่ยังไม่เสร็จ แต่หากมองลึกลงไป มันคือความตั้งใจที่จะแสดงตัวตนบางอย่างของอาคารที่เราได้สัมผัสนั่นเอง
SEKEPING SIN CHEW KEE
No. 3 Jalan Sin Chew Kee 50150 Kuala Lumpur Malaysia