เพราะองค์ประกอบหลักที่เป็นหัวใจสำคัญของบ้าน คือสมาชิกที่อยู่ในบ้านที่จะช่วยเติมเต็มให้คำว่าบ้านนั้นสมบูรณ์ การออกแบบบ้านหลังนี้จึงเน้นไปที่ฟังก์ชั่นการใช้สอย เพื่อตอบรับกับความต้องการของทุกคนในบ้าน
THE JUNCTION BOX
Location :Lat Krabangb, Bangkok
Owner : คุณ ชนินทร์ ชินรังสิกุล
Area : 80 Sq.m
Architect : Octane Architect & Design
Category : Private Residence (Extension)
คงปฏิเสธไม่ได้ว่าในบ้านหลังเดิมที่เราอาศัยอยู่ ย่อมมีการเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา ทั้งสภาพตัวบ้าน วิถีชีวิตความเป็นอยู่ รวมถึงจำนวนสมาชิกในบ้าน คำถามคือ แล้วจะทำอย่างไรให้สมาชิกแต่ละช่วงวัยอยู่ร่วมกันได้อย่างลงตัว หนึ่งวิธีในการปรับปรุงบ้านคือ การเพิ่มพื้นที่ใช้สอยให้ตอบรับกับความต้องการของแต่ละคน ดังเช่น The Junction Box ซึ่งเป็นส่วนต่อขยายในบ้านคุณชนินทร์ ชินรังสิกุล ที่เกิดจากความต้องการขยับขยายพื้นที่ใช้สอยให้เพียงพอกับความต้องการและวิถีที่เปลี่ยนไป จนเรียกได้ว่าเป็นบ้านที่ต่อเติมขึ้นเพื่อเชื่อมต่ออดีต ปัจจุบัน และอนาคตเข้าไว้ด้วยกัน
ขยับขยายในพื้นที่เดิม
ซึ่งโจทย์ในการออกแบบครั้งนี้ คือ ต้องการเพิ่มพื้นที่ใช้สอยในบ้านให้เพียงพอต่อความต้องการของสมาชิกในบ้าน โดยจะเน้นไปที่ฟังก์ชั่นการใช้สอยเพื่อผู้สูงอายุในอนาคต และส่วนที่ต่อเติมขึ้นใหม่นั้นจะต้องกลมกลืนไปกับตัวบ้านเดิม
ระแนงไม้ ทำหน้าที่ปิดล้อมบ้านให้รู้สึกปลอดภัย แต่ไม่ปิดกั้นการมองเห็นจากทั้งภายในและภายนอก ซึ่งลวดลายระนาบตามตั้งของส่วนต่อขยายนี้ก็ได้มาจากแพทเทิร์นลูกกรงรั้วหน้าบ้าน
ปลูกต้นไม้บริเวณด้านในของระแนงไม้ เพื่อสร้างความเป็นส่วนตัว เมื่อใดต้นไม้เติบโตเต็มที่ ความเป็นส่วนตัวก็มากขึ้นตาม
ความสุขข้ามรั้ว
ในส่วนของตัวบ้านเดิมนั้นเป็นบ้านเดี่ยวที่มีรั้วรอบขอบชิดตามแบบฉบับบ้านจัดสรรทั่วไป แต่มีความพิเศษตรงที่บ้านหลังข้างๆเป็นบ้านญาติที่สนิทกันมาก ทำให้สามารถทลายกำแพงรั้วที่กั้นระหว่างบ้านทั้ง 2 หลักออกจากกันได้เลย เพื่อเชื่อมสายสัมพันธ์ของคนในครอบครัวให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
ซึ่งในส่วนที่ต่อเติมขึ้นใหม่นั้น ทางทีมสถาปนิกเลือกที่จะเชื่อมชานบ้านทั้ง 2 ด้วยรูปฟอร์มเรขาคณิตเรียบง่ายอย่างโครงสร้างกล่องสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ที่กินความยาวแบบเต็มพื้นที่ตั้งแต่หน้าบ้านจรดท้ายบ้านเป็นโครงสร้างหลัก จากนั้นจึงแบ่งพื้นที่ใช้สอยภายในออกเป็น 5 ส่วน คือ ระเบียง ห้องนั่งเล่น คอร์ท ห้องนอน และห้องน้ำ ซึ่งแต่ละส่วนถูกตกแต่งในสไตล์โมเดิร์น เรียบง่าย และใช้สีในโทนเอิร์ธโทนอย่าง ขาว น้ำตาล เพื่อสร้างบรรยากาศให้ดูอบอุ่น
ในส่วนต่อขยายนี้ มีการวางแปลนบ้านแบบเปิดโล่ง ให้ทุกพื้นที่เชื่อมต่อถึงกันได้ทั้งหมด โดยใช้บานประตูแบบกระจกและมุ้งลวด ซึ่งเป็นวัสดุที่สามารถมองทะลุได้ คนที่อยู่ในห้องนั่งเล่นก็สามารถมองเห็นคุณแม่ซึ่งอยู่ในห้องถัดไปได้ เพื่อความปลอดภัยของผู้สูงอายุ
ทางเดินภายในบ้านที่เชื่อมระหว่างตัวบ้านเดิมและส่วนที่ต่อเติมใหม่
ต้นไม้ที่คอร์ทเล็กๆ กลางบ้าน ทำหน้าที่เป็นม่านบังตาระหว่างห้องนั่งเล่นและห้องนอนคุณแม่ และยังเป็นตัวช่วยลดความแข็งกระด้างของตึกคอนกรีต
ห้องนอนของคุณแม่ บริเวณชั้นล่างถูกออกแบบมาเพื่อไว้ใช้ในยามชราในอนาคต เพื่อความสะดวกในการใช้งาน ลดการเกิดอุบัติเหตุในการเดินขึ้น-ลงบันได
ถึงจะเป็นความแตกต่างของคน 2 ช่วงวัย แต่เราเชื่อว่าบ้านที่ถูกออกแบบให้มีการใช้งานที่สะดวกนั้น จะช่วยสร้างความรู้สึกสบายใจและสบายกายได้เสมอ ขณะเดียวกันความใส่ใจที่คนในบ้านมีให้กันก็ยิ่งทำให้บ้านเต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก และน่าอยู่กว่าบ้านหลังไหนๆ
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก Octane Architects