“ผมอยากเป็นสถาปนิกนะ ” คือคำตอบที่ Wes Anderson เคยให้สัมภาษณ์ตอบคำถามสื่อต่างประเทศว่าเขาอยากจะทำอาชีพอะไร ถ้าหากไมได้ทำงานเป็นผู้กำกับภาพยนตร์ ?
Bar Luce cafe
Designer : Wes Anderson
Location : Largo Isarco 2, Via Orobia, Milan, Italy
สารภาพกันตามตรงก่อนเลยว่า เราแอบเป็นแฟนคลับของผู้กำกับที่เชี่ยวชาญด้านการจับคู่สีคนนี้มาพักใหญ่ เจ้าพ่อ art director และมุกตลกแบบหน้าตายคนนี้ มีสไตล์งานภาพที่โดดเด่น, การวางเฟรมอันเป็นเอกลักษณ์ ผสมผสานองค์ประกอบศิลปะแบบสมมาตรให้เข้ากับ palette คลุมโทนสีในฉากที่ออกแบบขึ้นมาใหม่อย่างพิถีพิถัน ลงรายละเอียดไปถึงเครื่องประดับ ชุดแต่งกายและฟ้อนตัวอักษรที่ปรากฏในหนัง ถ้าได้ลองเห็นภาพตัวอย่างเพียงไม่กี่ฉาก สำหรับคอหนังที่เคยดูงานเก่าของเขา ก็จะเดาได้ทันทีว่าเป็นฝีมือการกำกับชาวอเมริกันนาม Wes Anderson แน่นอน
The Darjeeling Limited (2007)
Fantastic Mr.Fox (2009)
The Grand Budapest Hotel (2014)
Moonrise Kingdom (2012)
The Royal Tenenbaums (2001)
Rushmore (1998)
The Life Aquatic with Steve Zissou (2004)
เมื่อผู้กำกับอยากทำงานเป็นสถาปนิก
ลองมาคิดดูเล่นๆ แล้วคงจะดีไม่น้อยถ้าเราได้เข้าไปอยู่ในโลกของผู้กำกับ Wes Anderson ทั้งสีสัน องค์ประกอบ พร๊อพ เฟอร์นิเจอร์ บรรยากาศที่คนทั่วไปสามารถเข้าไปสัมผัสได้ในชีวิตจริง ไม่ใช่แค่การดูผ่านแผ่นฟิลม์
…และมันก็ดันกลายเป็นจริงขึ้นซะด้วย กับโปรเจครีโนเวทอาคารเก่า เมื่อปี 2016 ที่เขาได้รับคำเชิญจาก Prada ที่ต้องการสร้างคาเฟ่และร้านอาหารภายในศูนย์ศิลปะวัฒนธรรมของแบรนด์ เขาจึงมีโอกาสได้พักงานออกกองถ่ายภาพยนตร์ มาออกแบบร้าน!!! สานต่อความปรารถนาทำหน้าที่เป็นสถาปนิก อย่างที่เขาได้เคยให้สัมภาษณ์เอาไว้ และลองผันตัวมารีโนเวทร้านกาแฟ ภายใต้บรรยากาศความคลาสสิคตามแบบฉบับของเมืองมิลาน ประเทศอิตาลี
Retro cafe แห่งใหม่ในเมืองมิลาน
ร้าน Bar Luce ตั้งอยู่ในอาคาร Fondazione Prada (ฟอนดาซิโอ พราด้า) ที่เคยเป็นโรงงานกลั่นสุรามาก่อน เมื่อปี 1910 ถูกดัดแปลงให้กลายเป็น art center มีห้องแสดงนิทรรศการ ห้องกิจกรรมสำหรับเด็ก และร้านคาเฟ่ที่ออกแบบโดย Wes Anderson รวมอยู่ด้วย
เขาเลือกดึงเอาสไตล์สถาปัตยกรรมและสีสันร้านกาแฟของเมืองมิลานช่วงยุค 1950-1960 รวมทั้งหนังแนวนีโอเรียลลิสม์ สัญชาติอิตาลีที่เคยอันโด่งดังในอดีต มาใช้ในการแปลงโฉมคาเฟ่สีหวาน ทั้งการตกแต่งสไตล์วินเทจ เคาท์เตอร์บาร์ เฟอร์นิเจอร์ไม้สไตล์เรทโทรที่ใช้ในร้าน โต๊ะเก้าอี้ ตู้เพลงเก่า ตู้พินบอล และรสนิยมการเลือกสีใช้โทนสีที่ยังคงสไตล์ความเป็นตัวของเขาเองอย่างชัดเจน คู่สีพาสเทลเขียว ชมพู น้ำตาลที่มาอยู่ร่วมกันได้อย่างลงตัว เป็นบรรยากาศคล้ายกับที่เคยเห็นในหนังของเขา เหมือนเรากำลังนั่งกินกาแฟอยู่ในโลกจินตนาการ บนแผ่นฟิลม์ของเขาเลยก็ว่าได้
เพิ่มความเก๋ไก๋ด้วยโต๊ะไม้วินเทจสีพาสเทล และวอลเปเปอร์ลายปูนปั้นที่ได้แรงบันดาลใจจากห้างสรรพสินค้าแกลเลอเรีย วิตโตริโอ เอ็มมานูเอล 2 ที่เเก่าแก่ที่สุดในโลกที่ตั้งอยู่ในเมืองมิลาน
“ทุกพื้นที่ในร้านนี้คิดขึ้นจากพฤติกรรมในชีวิตจริง มีมุมกินอาหาร นั่งเล่นจิบเครื่องดื่ม หยิบหนังสือเล่มโปรดที่พกติดตัวมาด้วยขึ้นมาอ่าน ผมว่าบรรยากาศในร้านมันเหมาะสำหรับการหย่อนก้นลงนั่งเขียนบทหนังมากเลยนะ ผมพยายามทำให้มันเป็นสถานที่ที่ผมอยากจะใช้เวลาตลอดบ่าย มานั่งใช้ทำงานเขียนบทหนังได้อย่างสบายใจ ” Wes Anderson กล่าวทิ้งท้าย
ข้อมูลและรูปภาพ dezeen