นอกจากงานศิลปะ ที่สามารถพบเจอได้ตามพื้นที่สาธารณะรอบเมืองแล้ว ยังนับว่าไทเปเป็นเมืองหลวงที่ผสมผสานสถาปัตยกรรมระหว่างเมืองเก่าและเมืองใหม่ได้อย่างน่าสนใจ
เพราะระหว่างทาง เราจะเจอตึกรามบ้านช่องแบบโบราณอย่าง Facade กระเบื้องโมเสส ที่ถูกอนุรักษ์ไว้อยู่เต็มไปหมด… แต่กลับมีที่ที่หนึ่งที่เลือกใช้วัสดุแตกต่างออกไป สถาปัตยกรรมเก่าแก่ที่ใช้อิฐแดงเป็นองค์ประกอบหลักอย่าง Bopiliao Historical Block ตั้งเด่นตระการตาอยู่หัวมุมของถนนแห่งหนึ่ง
หลังจากที่ได้เดินสัมผัสกับบรรยากาศรอบๆพื้นที่แห่งนี้ พบว่าเราอยู่ในย่านประวัติศาสตร์ปอผีเหลียว หรือ Bopiliao Historical Block ซึ่งอาคารอิฐที่เราเห็นในตอนแรกนั้น ไม่ใช่เพียงอาคารเดียว แต่กลับเป็นหลายๆอาคารที่เชื่อมต่อกัน เรียงรายไปตามแนวถนนถึงสามเส้น ไม่ว่าจะเป็น Kangding Road, Guangzhou Street และ Kunming Street ที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากวัดหลงซาน หนึ่งในวัดชื่อดังของไทเปมากนัก
รักษาประวัติศาสตร์ของชุมชน
เมื่อได้ก้าวเท้าเข้าไปสำรวจด้านในจากทางเข้าเล็กๆบนถนน Kangding Road กลุ่มอาคารสองชั้นที่ได้รับการรีโนเวทให้เป็นอาคารท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ด้านนอกเป็นตึกแถว ส่วนด้านในมีลักษณะคล้ายโกดังเก่าในยุคอาณานิคมจักรวรรดิญี่ปุ่น
ภายในมีศูนย์เรียนรู้วัฒนธรรมไทเป หรือ “Heritage Culture Education Center of Taipei” ที่จัดแสดงนิทรรศการความรู้และประวัติศาสตร์ เรื่องราวของวิถีชีวิตคนสมัยก่อนในย่านนี้ เช่น การค้าขายของพ่อค้าแม่ค้าในยุคเก่า รถสามล้อถีบ จำลองร้านยาจีนโบราณ จำลองห้องเรียน และแกลลอรี่ อีกทั้งมีพื้นที่สำหรับกิจกรรมต่างๆ เช่น การเล่นดนตรีของคนในชุมชน และร้านค้าขายของที่ระลึก โดยสามารถเยี่ยมชมอาคารและบริเวณโดยรอบได้ทุกวันทุกเวลา ส่วนนิทรรศการเปิดให้เยี่ยมชมตั้งแต่เวลา 9.00-21.00 น. และปิดวันจันทร์
บรรยากาศในตรอกเล็กๆด้านในที่ทั้งสองฝั่งเป็นพื้นที่เรียนรู้ประวัติศาสตร์และร้านค้า
แกลลอรี่แสดงรูปวาดสีน้ำ
“เก่าผสมใหม่” แตกต่างอย่างลงตัว
ด้วยความที่เป็นอาคารรีโนเวท ทำให้วัสดุที่นำมาใช้ต่อเติมอาคารนั้นเป็นปูนและเหล็ก ที่มีความแข็งแรงและช่วยพยุงโครงสร้างอาคารให้คงอยู่ต่อไปได้ และเมื่อผสมผสานวัสดุอิฐสีแดงของอาคารเดิม ทำให้รูปลักษณ์ของอาคารนี้ เกิดความหลากหลายทางวัสดุ และเพิ่มความน่าสนใจให้กับพื้นที่ด้วยความแตกต่างระหว่างสถาปัตยกรรมในยุคเก่าและใหม่ได้อย่างลงตัว
บานประตู หน้าต่างและวงกบไม้ของอาคาร
ชั้นสองของอาคารที่มีการใช้โครงสร้างเหล็กบนอาคารอิฐเดิม
ไม่เพียงแต่สถาปัตยกรรมเท่านั้น บนพื้นเราก็สามารถเห็นความหลากหลายของวัสดุได้เช่นกัน อย่างการใช้อิฐหลากสี อย่างสีครีม และสีแดง วางสลับรูปแบบตลอดแนวทางเดิน โดยมีทรายล้างผสมผสานอยู่ในบางพื้นที่ด้วย ซึ่งถ้าสังเกตดีๆการแบ่งพื้นที่ของวัสดุต่างๆเหล่านี้ มีการใช้กริดเสาเป็นตัวแบ่ง และส่วนใหญ่มีการใช้อิฐสีแดงตามแนวกริดอีกด้วย
รูปผังแปลนคร่าวๆ ที่เกิดขึ้นจากวัสดุที่แตกต่างกันบนพื้นของ Bopiliao Historical Block
ท่อระบายน้ำของที่นี่ ยังเป็นรูปเทศกาลโคมไฟอีกด้วย
ใส่ศิลปะใหม่ๆ ลงบนกำแพงอิฐ
ศิลปะภาพวาดบนกำแพงอิฐเป็นอีกหนึ่งไฮท์ไลต์สำหรับที่นี่ เพราะนอกจากจะเป็นการผสมผสานระหว่างศิลปะใหม่ ที่มีความน่ารักลงในผนังอิฐเก่าอย่างสร้างสรรค์แล้ว ด้วยลวดลายการ์ตูนและลายเส้นที่เป็นกันเองนี้ ยังทำให้ที่นี่สามารถสัมผัสเข้าถึงผู้เยี่ยมชมอย่างเด็กๆได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย
รูปจิตรกรรมฝาผนังสีสันสดใสที่บอกเล่าเรื่องราวในประวัติศาสตร์
อาเขตในองศาที่แตกต่าง
นอกจากลักษณะโครงสร้างอาคารมีความคล้ายกับสถาปัตยกรรมในยุคศตวรรษที่ 18-19 แล้ว ยังมีพื้นที่ทางเดินด้านหน้าเชื่อมต่อกันตลอดแนวอาคารและมีองค์ประกอบอาคารเก่าแก่อย่างซุ้มโค้ง หรือที่เรียกว่า อาเขต (Arcade) ระหว่างทางเดินของอาคารแต่ละหลังอยู่ด้วย โดยก่อจากอิฐทั้งหมด และสิ่งที่ทำให้อาเขตที่นี่ต่างจากการสร้างในรูปแบบปกติคือ องศาที่แตกต่าง ความโค้งที่ไม่ขนานกับแนวทางเดิน ซึ่งสร้างมุมมองของภาพที่สวยงามและน่าสนใจไปอีกแบบ
นอกจากสถานที่แห่งนี้จะเป็นการอนุรักษ์ประวัติศาสตร์และสร้างพื้นที่เผยแพร่เรื่องราวในอดีตให้คนยุคปัจจุบันได้เรียนรู้ผ่านสถาปัตยกรรมอิฐโบราณของไต้หวันแล้ว ยังได้เห็นภาพของความเปลี่ยนแปลง ผสมผสานวัฒนธรรมต่างๆ และการพัฒนาของเมืองไทเปอีกด้วย นับว่า Bopiliao Historical Block เป็นย่านเมืองเก่าที่มีขนาดใหญ่และรักษาเอกลักษณ์ทางสถาปัตยกรรมที่สมบูรณ์ที่สุดในเมืองไทเปเลยก็ว่าได้