ปัจจุบันเทรนด์การรีโนเวทตึกเก่า โกดังเก่ากำลังเป็นที่นิยม เพราะการสร้างอาคารขึ้นมาใหม่นั้นใช้งบและใช้เวลามากกว่าการรีโนเวทเกือบครึ่ง เช่นเดียวกับ Noxx Café ที่นำโกดังเก็บของเก่ามารีโนเวทเป็นคาเฟ่ชิคๆสไตล์มินิมอลอินดัสทรี่ ได้อย่างแตกต่างแต่ลงตัว
Owner: คุณน็อกซ์ วสุ มโนมัยพิบูลย์
Interior: คุณวิน อิทธิพัทธ์ จิตติโชติพงศ์
Area: 100 ตารางเมตร
Location: พระราม 9, กรุงเทพ
Photographer: จิณณวัตร บริหารกิจอนันต์
Noxx Café คือการพัฒนาต่อยอดจากแบรนด์เสื้อผ้า Noxx ของคุณน็อกซ์ วสุ มโนมัยพิบูลย์ รูปแบบของแบรนด์มีลักษณะที่เรียบง่ายแต่แฝงด้วยรายละเอียด และเมื่อคุณน็อกซ์อยากทำร้านคาเฟ่ของเขาเอง แนวคิดหลักจึงเป็นความเรียบง่ายแต่ดูดีมีสไตล์ มีความสบายๆ เป็นกันเอง เฉกเช่นเดียวกับแบรนด์เสื้อผ้า Noxx
เราได้มีโอกาสสัมภาษณ์และพูดคุยแนวคิดของการรีโนเวทอาคารกับ คุณน็อกซ์ และคุณวิน อิทธิพัทธ์ จิตติโชติพงศ์ ผู้เป็นมัณฑนากร จะได้คำตอบอย่างไรบ้างนั้น มาติดตามกันค่ะ
คุณน็อกซ์ เล่าให้เราฟังว่า แต่เดิมพื้นที่ตรงนี้เป็นโกดังเก่าไว้เก็บเอกสารและเก็บของ มีพื้นที่ประมาณ 100 ตารางเมตร ผนังรอบด้านเป็นเมทัลชีทที่ไม่มีช่องเปิด ใช้โครงสร้างเหล็กและหลังคาทรัสท์เพื่อรับน้ำหนักอาคาร ก่อนการรีโนเวทอาคารมีลักษณะค่อนข้างทรุดโทรมเนื่องจากได้ใช้งานมาเป็นระยะเวลายาวนานหลายปี แต่สเปซภายในกลับมีความสวยงามและดึงดูด จนคุณน็อกซ์เกิดสนใจพื้นที่แห่งนี้ และได้ตัดสินใจเปิดคาเฟ่ ภายใต้แนวคิดมินิมอลจากแบรนด์เสื้อผ้า
ภายใน Noxx Café มีพื้นที่ทั้งหมด 2 ชั้น ชั้น 1 มีส่วนเคาน์เตอร์ ครัว ที่เก็บของ และโต๊ะจำนวนทั้งหมด 27 โต๊ะ ส่วนชั้น 2 มีพื้นที่ครึ่งนึงของชั้นแรก โดยในอนาคตพื้นที่ในบริเวณชั้น 2 นี้จะถูกปรับเปลี่ยนเป็นโชว์รูม เสื้อผ้าจากแบรนด์ Noxx นั่นเอง
– เริ่มต้นด้วยการหาจุดเด่น –
จุดเด่นของร้าน Noxx Café คือบรรยากาศภายนอกและภายในร้านที่แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด เมื่อมองจากภายนอกอาคารนี้จะดูดิบ จากการใช้ผนังเมทัลชีทเก่าที่สีไม่เรียบเนียนและแตกต่างกัน แต่เมื่อได้เดินเข้ามาภายในร้านจะพบกับบรรยากาศผ่อนคลายและสงบ
ภายในและภายนอกของร้านจะเป็นดั่งการนำความเก่าและความใหม่มาผสมกัน จนเกิดเป็นความขัดแย้งที่สวยงามและลงตัว
บริเวณทางเข้าอาคารส่วนฝ้าเพดานมีการปาดเอียงทำมุมเฉียงกับร้าน เกิดการนำสายตาจากภายนอกอาคารสู่ภายใน
– โครงสร้างเดิมและการ Re-use –
ส่วนใหญ่แล้วการรีโนเวทนั้นจะเสียค่าใช้จ่ายและใช้ระยะเวลาในการปรับปรุงอาคารน้อยกว่าการสร้างใหม่ โดย Noxx Café ใช้ระยะเวลาปรับปรุงร้านเพียงแค่ 2 เดือนเท่านั้น และภายในร้านก็มีการใช้วัสดุเดิมก่อนรีโนเวทมาเป็นส่วนหนึ่งในการออกแบบด้วย เช่น ใช้โครงเหล็กมาประยุกต์เป็นชั้นวางของและโต๊ะ ส่วนของเคาน์เตอร์ก็นำไม้ที่ไม่ได้ใช้มาวางเรียงเป็นแพทเทิร์น ก่อเกิดมิติที่โดดเด่นออกมาจากส่วนอื่นในร้าน
ร้าน Noxx Café มีการคงโครงสร้างหลักของอาคารเดิมแต่เสริมโครงสร้างเหล็กเพิ่ม เพื่อสร้างความแข็งแรงและสามารถรองรับการใช้งานที่มากขึ้นได้ ในส่วนด้านหน้าร้านที่มีการเจาะผนังและทำหน้าต่าง คุณวินได้นำแผงเมทัลชีทเดิมออกจนหมด และใช้ผนังเมทัลชีทที่รองรับน้ำหนักได้มากขึ้นติดตั้งไปใหม่ จากนั้นจึงใส่ฉนวนกันความร้อนระหว่างผนังทั้งสองด้าน เพื่อป้องกันความร้อนจากแสงแดดในเวลากลางวัน
เพื่อการใช้งานที่ลงตัวมากขึ้นจึงมีการปรับปรุงพื้นที่ชั้นลอยเพิ่มเติม โดยตัดรั้วเก่าที่สูงชนเพดานออกครึ่งนึง และทาสีขาวทับใหม่ ทำเป็นราวกันตก และชั้นวางของก่อนรีโนเวทได้นำมาทำเป็นโต๊ะรับประทานอาหารและที่วางของ
โครงสร้างผนังเดิมเป็นเหล็กตัวซี มัณฑนากรจึงออกแบบให้มีผนังคอนกรีตมาบังโครงสร้างเดิม ส่งเสริมให้ร้านดูลงตัวมากขึ้น
– การตกแต่งสไตล์มินิมอลอินดัสทรี่ –
“การตกแต่งสไตล์มินิมอลอินดัสทรี่ไม่ใช่เรื่องยาก แค่รู้จักความพอดี รู้จักการเลือกใช้วัสดุ และเล่นกับสีบ้างในบางจุด” คุณวินกล่าว
เฟอร์นิเจอร์บางชิ้นในร้านจึงเลือกใช้สีโทนเหลือง เพราะสีเหลืองนั้นมีความสว่างและมีชีวิตชีวาอยู่ในตัวเอง จึงเหมาะสมกับการมาเติมสีสันและเพิ่มความซอฟท์ให้กับร้านที่ดูเรียบง่าย โดยมีการเลือกใช้สีเหลืองหลายเฉดสี เช่นสีทองเหลืองที่ขอบกำแพง สีเหลืองด้านที่เสาและเฟอร์นิเจอร์ สีเหลืองวาวและกึ่งวาวที่โคมไฟ
ในขณะเดียวกันก็ใช้สีน้ำเงินเป็นสีรอง ในบางจุดของร้าน เช่นหมอนและโซฟา เพื่อเพิ่มความเคร่งขรึมให้กับร้านและตัดกับความหวานของสีเหลืองได้อย่างพอดี
ที่ Noxx Café แห่งนี้ จะมีโซนสำหรับแขกที่มาคนเดียว แบ่งแยกเป็นสัดส่วนชัดเจนและตกแต่งบริเวณรอบข้างด้วยกระถางต้นไม้สีเขียว ช่วยเพิ่มความสดชื่นให้กับลูกค้าในตอนกลางวันได้เป็นอย่างดี
วัสดุสำคัญของ Noxx Café คือเมทัลชีท ซึ่งเป็นวัสดุเดิมก่อนการรีโนเวท คุณน็อกซ์จึงต้องการคงวัสดุเดิมและใช้วัสดุอื่นให้สอดคล้องและส่งเสริมแผ่นเมทัลชีทเดิม เช่นใช้ไม้และหินอ่อนบริเวณโต๊ะและเคาน์เตอร์ที่เข้ากันได้ดีกับความดิบของแผ่นเมทัลชีท แต่ก็ยังรู้สึกถึงความเป็นมิตรภายในร้าน จากการเลือกใช้วัสดุที่มอบความรู้สึกต่างกัน
– รายละเอียดที่ไม่ควรมองข้าม –
การออกแบบที่ใส่ใจรายละเอียด การลงลึกทุกรายละเอียดเป็นสิ่งสำคัญ เพราะจะทำให้ผู้ใช้งานสัมผัสได้ถึงเรื่องราวและความตั้งใจที่ซ่อนอยู่ภายใต้ความเรียบง่ายของร้านกาแฟแห่งนั้น
เช่นการนำไม้ที่วางทิ้งไว้ในโกดังเก่ามาใช้ใหม่ ด้วยการวางเรียงเป็นลายเฉียงในบริเวณเคาน์เตอร์ เป็นการเพิ่มผิวสัมผัสของวัสดุที่แตกต่างภายในร้าน และลายเฉียงของไม้นั้นยังตัดกับเส้นสายแนวตั้ง แนวนอนเป็นจุดดึงสายตาเมื่อแขกได้เข้ามาในร้าน
รางไฟในร้านใช้เหล็ก C ซึ่งมีการเดินและซ่อนสายไฟบนรางเหล็ก เป็นการใช้วัสดุที่ธรรมดา แต่ส่งผลให้ร้านมีมิติมากขึ้น ข้อดีอีกประการของการใช้รางไฟคือสามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานได้ตามความต้องการ เช่นปรับทิศทาง เพิ่มจำนวนไฟได้ เป็นต้น
โคมไฟสีเหลืองช่วยสร้างบรรยากาศภายในร้านให้กลมกลืน โดยโคมไฟชิ้นนี้มัณฑนากรเป็นผู้ออกแบบ เพื่อนำมาใช้ที่ร้าน Noxx Café โดยเฉพาะ
มีการนำผนังคอนกรีตมาซ้อนทับกับผนังเมทัลชีทในระนาบที่ต่างกัน เป็นรายละเอียดเล็กๆที่อาจจะไม่สะดุดตาเมื่อพบเห็น แต่พอได้มองภาพรวมของร้านแล้ว ช่วยให้ร้านดูมีมิติ มีความลึกมากกว่าแค่ผนังสีขาวธรรมดา
บานกระจกในบริเวณหน้าร้านจะเกิดแสงและเงาพาดสะท้อนเป็นชื่อร้าน Noxx ในตอนบ่ายแก่ๆ
Sakura Latte 145 Baht, Sparkling Black Ginger 85 Baht, Cream Cheese Strawberry Toast 89 Baht
Noxx Cafe คืออีกหนึ่งตัวอย่างในการรีโนเวทโกดังเก่าให้เป็นร้านคาเฟ่ที่สวยงามและลงตัว และยังทำให้เรารู้สึกได้ว่าร้านคาเฟ่ที่ดูเรียบง่ายนั้น ในการออกแบบจริงไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เพราะกว่าจะทำสำเร็จ ต้องใช้ทั้งความตั้งใจ ความใส่ใจ และการสร้างสรรค์ที่พอดี กล่าวคือไม่มากและไม่น้อยเกินไป เช่นเดียวกับร้าน Noxx Cafe แห่งนี้
Map