แนวโน้มที่ดีของวงการบ้านจัดสรรทุกวันนี้คือการคำนึงถึงไลฟ์สไตล์และรูปแบบการใช้ชีวิตพ่วงไปกับความสวยงามมาพร้อมกันทั้งหมด ไม่ได้เลือกเพียงสิ่งใดสิ่งหนึ่งเหมือนอย่างที่เคยเป็นกันมา เพราะไม่ว่าเป็นฟังก์ชั่นที่เห็นประโยชน์ใช้สอยชัดเจน หรือความงามที่มอบสุนทรียะให้ผู้อยู่อาศัย ทั้งหมดคือองค์รวมที่บูรณาการกันเพื่อสร้างสุขภาวะที่ดีในการใช้ชีวิต ตัวอย่างที่ดีที่ยกมาในข้อนี้คือสิ่งที่เรามองเห็นจากโครงการ Nirvana Beyond Rama 2
Pride คือไทป์ของบ้านเดี่ยวตัวอย่างที่เราได้เข้ามาเยี่ยมชมวันนี้ ซึ่งนับเป็นไซส์ใหญ่ที่สุดในโครงการ ด้วยขนาดพื้นที่ใช้สอย 550 ตารางเมตร จึงอยู่แบบครอบครัวใหญ่ได้สบายๆ สิ่งที่สะดุดตาตั้งแต่แรกเห็นคืองานออกแบบสถาปัตยกรรมที่แสดงออกถึงการใช้สอยพื้นที่ได้อย่างคุ้มค่า
โครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก ด้วยแนวคิดของระบบ Stacking หรือการให้แต่ละชั้นแทนบล็อก แล้วใช้การเหลื่อมของแต่ละบล็อกเพื่อสร้างพื้นที่ใช้สอยทั้งงานอินทีเรียร์และการจัดการสภาพแวดล้อมของผู้อาศัย อีกทั้งด้วยพื้นที่กว้างขวางจึงสามารถจัดสรรการใช้งานได้เหมือนกับเป็นบ้านยูนิตย่อยๆ ของแต่ละครอบครัว สร้างพื้นที่ส่วนตัวได้โดยยังคงความเชื่อมโยงของครอบครัว
บล็อกชั้น 1 ร่นระยะด้านหน้าเข้าไปเพื่อใช้เป็นที่จอดรถในร่มได้ถึง 3 คัน ซึ่งเป็นจำนวนที่พอดีๆ กับครอบครัวใหญ่ ซึ่งจากผังอาคารของบ้านชั้น 1 นอกจากจะเป็นพื้นที่ต้อนรับหรือพักผ่อนแล้ว ยังจัดสรรส่วนหนึ่งเป็นห้องนอน ซึ่งเหมาะสำหรับผู้สูงอายุที่ไม่ต้องเดินขึ้นลงบันไดบ่อยๆ โดยเน้นดีไซน์โปร่ง มองเห็นวิวทิวทัศน์ด้านนอก ผ่านการออกแบบช่องเปิดของผนังด้วยการใช้วงกบประตูสูง 2.2 เมตร (จากปกติที่มักใช้กันอยู่ที่ 2 เมตร) และหน้าต่างระดับเดียวกับสายตา
รวมทั้งห้องน้ำที่ออกแบบการใช้งานเฉพาะสำหรับผู้สูงอายุ ซึ่งคำนึงในเรื่องการปลอดภัย และระยะความกว้างให้ใช้งานรถเข็นวีลแชร์ได้ เพราะพื้นที่ภายในห้องนอนกว้างขวาง จึงสามารถปรับเพิ่มเติมได้เพื่อความสะดวกสบาย เช่นการบิลท์อินแพนทรีให้เหมือนเป็นบ้านหลังเล็กในบ้านหลังใหญ่อีกทีหนึ่ง แต่ยังคงสามารถเชื่อมต่อกับสมาชิกครอบครัวผ่านทางคอร์ตเอ๊าต์ดอร์กลางบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนรวมได้
ส่วนทางโดยสารแนวดิ่งของบ้าน ทำได้สองทางทั้งจากบันไดที่อยู่ทั้งด้านในและส่วนหน้าของบ้านในชั้นสอง และลิฟต์โดยสารของ Mitsubishi โดยสารสูงสุดได้ 3 คน ภายในออกแบบแบบ Universal เพื่อให้ใช้งานได้กับทุกวัยในบ้าน และเลือกประตูลิฟต์แบบกรุกระจกเพื่อไม่รู้สึกอึดอัดขณะใช้งาน
ซึ่งงานกระจกภายในบ้าน โดยเฉพาะกระจกบานใหญ่จากพื้นจรดฝ้าคือหัวใจหลักของการอยู่อาศัยแบบครอบครัว เพราะเป็นตัวเชื่อมความสัมพันธ์และสร้างการสื่อสารภายในครอบครัว ซึ่งกระจกบานใหญ่นี้ออกแบบไซส์พิเศษเฉพาะสำหรับที่นี่เท่านั้น วงกบอะลูมิเนียมอบสี Shine Gray นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีข้อดีคือไม่เกิดรอยขีดข่วน จึงคงความสวยงามแบบเดิมไว้ได้ตลอด
ชั้นสองเป็นส่วนของห้องนั่งเล่น เพดานสูงถึง 6 เมตร โดยมีด้านหน้าเป็นสระว่ายน้ำเล็กๆ ที่เข้าถึงได้จากบันไดด้านหน้า พรางตาจากข้างนอกด้วยการปลูกต้นไม้ บันไดหน้าบ้านแบบนี้มีข้อดีอีกอย่างคือ สามารถเข้าถึงชั้น 2 ได้เลยโดยไม่ต้องรบกวนชั้นล่างสุด
ต่อจากห้องนั่งเล่นมีสะพานเชื่อมต่อไปสู่ห้องนอนหลัก ซึ่งเน้นความโปร่งด้วยเพดานสูงและกรุกระจกไซส์พิเศษสำหรับรับแสงธรรมชาติ และเปิดออกสู่วิวของคอร์ตยาร์ดส่วนกลางของบ้านแบบเต็มที่ ภายในห้องนอนกว้างขวางจึงสามารถจัดสรรการใช้งานได้ครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นส่วนนั่งเล่น ส่วนทำงาน วอล์กอินโคลเซ็ต และห้องน้ำพร้อมอ่างจากุซซี่ ซึ่งสุขภัณฑ์ทั้งหมดเป็นของ Kohler
จากชั้นสองขึ้นสู่ชั้นสาม ชั้นบนสุดซึ่งเป็นพื้นที่รับแดดโดยตรง จึงอาจทำให้ผู้ใช้งานไม่สบายตัว งานออกแบบจึงใช้หลังคาแบบสโลปช่วยในเรื่องการระบายความร้อนและระบายอากาศ ด้านนอกกรุหลังคาแบบ Shingle Roof จึงไม่สะสมความร้อน และไม่ลืมความโปร่งโล่งจากการใช้บานกระจกไซส์พิเศษ และคิดถึงการดูแลรักษาทั้งตัวบ้านและกระจกที่รายรอบด้วยชายคาที่กว้างขวางจนสามารถออกไปทำความสะอาดกระจกได้ หรือจะใช้เป็นพื้นที่สวนขนาดย่อมที่มองเห็นจากภายในบ้านก็ได้เช่นกัน ชั้นสามแบ่งออกเป็น 3 ห้องนอนพร้อมห้องน้ำในตัวทุกห้อง และพื้นที่กว้างขวางพอๆ กับห้องไซส์สตูดิโอของคอนโดมิเนียมได้เลย
อีกส่วนสำคัญที่โครงการให้ความสำคัญมาก คือการเลือกใช้วัสดุสำหรับทั้งงานสถาปัตยกรรมภายนอกและงานอินทีเรียร์ภายใน ซึ่งคำนึงถึงความสวยงามมาพร้อมกับความทนทาน อย่างชั้นล่างที่ใช้การปูพื้ันกระเบื้องลายหินอ่อนขนาดถึง 80×80 เซนติเมตร พื้นชั้นสองและชั้นสามที่เป็นพื้นไม้สักปาร์เก รวมทั้งการคัสตอมแมทีเรียลต่างๆ ให้เข้ากับงานออกแบบที่ผ่านการคิดมาแล้ว ซึ่งวัสดุนี่เองคือส่วนสำคัญที่ช่วยเติมเต็มงานออกแบบ ไม่เพียงแค่รูปลักษณ์ที่สร้างความประทับใจ แต่ยังส่งต่อถึงฟังก์ชั่นการใช้งานที่สมบูรณ์แบบ คุ้มค่ากับการตัดสินใจเพื่อจะเลือกบ้านสักหลังหนึ่งเพื่ออยู่อาศัยไปตลอดทั้งชีวิต
สำหรับผู้ที่สนใจโครงการ Nirvana Beyond Rama 2 สามารถเข้าชมได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00-18.00
พิเศษสำหรับลูกค้าที่จองภายใน ก.ค. 61 นี้ รับเพิ่ม Furniture Package* และ ฟรีค่าใช้จ่ายวันโอนฯ
เริ่ม 20-40 ล้านบาท
ข้อมูลเพิ่มเติมคลิก http://www.nirvana-group.com/th/project/beyond-rama-2