“อะไรแมสๆ ที่คนรักบ้านต้องรู้”
กลับมาอีกครั้งกับงานแฟร์ๆ ของคนรักบ้าน อย่าง “งานบ้านและสวนแฟร์ 2018” ซึ่งเป็นประจำทุกปี ที่จะมีงานแสดงสินค้าของตกแต่งบ้านและสวนให้เลือกช็อปกันอย่างมากมาย พร้อมกับไฮไลต์สำคัญอย่างนิทรรศการแนวคิดดีๆจาก “บ้านตัวอย่าง และสวนโชว์” ที่ปีนี้มาในธีม “Massclusive” มาจาก Mass + Exclusive หมายความถึงสิ่งที่ธรรมดาแต่มีความพิเศษ ด้วยการหยิบจับเรื่องคุ้นชิน ธรรมดาๆ มาสร้างสรรค์ให้พิเศษและน่าค้นหากว่าเดิม และหลังจากที่ Dsignsomething ได้เดินค้นหาความพิเศษในงานมาเมื่อวันที่ 24 ตุลาคม ณ ชาเลนเจอร์ฮอลล์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี บ้างแล้ว เลยขออาสาพาไปดูไฮไลต์แมสๆ ที่คนรักบ้านไม่ควรพลาด..
เริ่มต้นจากกระดาษลูกฟูกที่ออกแบบชิ้นส่วนเดียวให้สามารถประกอบเข้ากันได้แบบโมดูลาร์ กลายเป็นโครงสร้างซุ้มประตูทางเข้า ความซับซ้อนที่ต้อนรับผู้เข้าชมงานได้อย่างแปลกตา
บ้านตัวอย่าง “Massclusive”
รูปสถาปัตยกรรมแมสๆที่มีมากที่สุดในกรุงเทพฯอย่าง “อาคารพาณิชย์” หรือ “ตึกแถว” ที่เรารู้จักกันดี องค์ประกอบคุ้นตาที่เผยออกมาผ่านนิทรรศการบ้านตัวอย่าง “Massclusive” ไม่ว่าจะเป็นประตูเหล็กยืด อิฐบล็อกคช่องลม เหล็กดัด และม้านั่งหินอ่อน ที่ทำให้เราสัมผัสความธรรมดาสุดคลาสสิคนี้ได้ทันทีที่เห็น ซึ่งหากมองลึกลงไปในเรื่องของวัสดุที่นำมาใช้ก่อสร้างสถาปัตยกรรมประเภทนี้ จะพบว่าส่วนใหญ่เป็นวัสดุที่ผลิตซ้ำๆเป็นจำนวนมาก การจำลองบ้านตัวอย่างที่ตกแต่งด้วยวัสดุที่ทำซ้ำให้มีความพิเศษมากกว่าเดิม คงเกิดขึ้นไม่ได้เลยหากขาด “คุณณรงค์ โอถาวร แห่งบริษัท SO Architect” สถาปนิกผู้คุ้นเคยกับการอยู่อาศัยในบ้านตึกแถวนี้มาอย่างยาวนาน
ความพิเศษของบ้านตัวอย่างนี้ เป็นการประกอบรวมระหว่างตึกแถว 2 คูหาเข้าด้วยกัน หน้ากว้างคูหาละ 3.60 เมตร ซึ่งหัวใจหลักอยู่ที่ การออกแบบสัดส่วนของบ้านให้แต่ละห้องมีขนาด 3.60 x 3.60 เมตร เพื่อให้เหมาะสมกับขนาดของวัสดุปูพื้นอย่างไม้อัด แผ่นเซลโลกรีตและกรุผนังที่ผลิตจากอุตสาหกรรมที่สามารถนำมาใช้ใหม่หรือใช้ซ้ำได้อย่างพอดิบพอดี โดยแทบไม่เหลือเศษที่ต้องตัดทิ้ง บวกกับการใช้โครงสร้างเหล็กทั้งหมด จึงตอบโจทย์ในเรื่องของการใช้ทรัพยากรได้อย่างคุ้มค่า
(“แผ่นเซลโลกรีต” วัสดุปูพื้นสำเร็จรูปในห้องทานอาหารที่เมื่อปูพื้นแล้ว ขนาดพอดีกับพื้นห้องของบ้านโดยไม่ต้องตัดออก)
การเชื่อมต่อระหว่างห้องต่างๆ เริ่มต้นที่หน้าบ้าน เมื่อผ่านประตูเหล็กดัดยืดที่เป็นเอกลักษณ์ของตึกแถวเข้าไป จะพบกับบันไดวน ซึ่งจะพาขึ้นไปสู่ห้องนั่งเล่นชั้น 2 เชื่อมต่อไปยังห้องทานอาหารที่ลดลั่นลงมาครึ่งชั้น และลงไปสู่ห้องนอน และส่วนสุดท้ายคือสวนด้านหลัง ซึ่งการเปลี่ยนถ่ายพื้นที่โดยยกระดับที่แตกต่างกันนี้ แสดงให้เห็นถึงลำดับการเข้าถึงที่ค่อยๆเรียงจากความเป็นส่วนตัวน้อยไปมาก
นอกจากนี้ยังมีการนำวัสดุใกล้ตัวมาเล่าเรื่องใหม่ อย่างแผ่นหลังคาโปร่งใสและแผ่นหลังคาโพลีคาร์บอเนต โดยนำมาใช้เป็นส่วนหนึ่งของผนังหรือฟาซาด เพื่อให้บ้านตัวอย่างหลังนี้เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่จำลองการออกแบบภายใต้ตึกแถวให้ดูมีเอกลักษณ์ได้แม้จะใช้วัสดุซ้ำๆ เดิมๆ ที่เราคุ้นเคย
สวนโชว์ “Massclusive”
อีกหนึ่งวัสดุที่พบเห็นกันได้ทั่วไป อย่าง “อิฐมอญ” ความธรรมดาที่ทุกคนรู้จัก หยิบมานำเสนอผ่านกระบวนการคิดและมุมมองใหม่ในการตกแต่งสวน ด้วยฝีมือการออกแบบของ “คุณปณัฐ สุมาลย์โรจน์” ภูมิสถาปนิกแห่ง Pergolar Landscape & Architecture ในรูปแบบต่างๆ 5 แบบด้วยกัน สร้างประสบการณ์ใหม่ๆในมุมสวยๆของห้องรับประทานอาหาร และห้องนั่งเล่นแบบกึ่งภายนอก และสัมผัสต้นไม้นานาพรรณที่กินได้และมีกลิ่นหอม ได้อย่างใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น
Wave Pattern การจัดเรียงอิฐมอญในกรอบเฟรมซุ้มทางเข้า มีระดับสูงต่ำไม่เท่ากันคล้ายคลื่น ทำให้ผนังซุ้มทางเข้าดูมีความเคลื่อนไหว พริ้วไหว ไม่ทึบตัน
Floor Pattern พื้นที่ทางเดินผสมผสานระหว่างอิฐและวัสดุปูพื้นประเภทอื่นๆ เช่น กระเบื้อง ทำให้พื้นที่มีความน่าสนใจมากกว่าเดิม
Wall Pattern เป็นการนำอิฐเข้าไปแทรกอยู่ในกรอบหรือเฟรมของผนัง ทั้งที่เป็นกรอบเหล็กและไม้ ทำให้ผนังเกิดลวดลายเคลื่อนไหวอันเกิดจากการเรียงตัวของวัสดุที่ใช้ได้อย่างน่าสนใจ มากกว่าจะเป็นแค่ผนังอิฐก่อปกติ
ข้างๆกันนี้ยังมี “สวนกึ่งสำเร็จรูป’ สวนประกวดในสเกล 1:1 ฝีมือเหล่านักจัดสวนที่สร้างความพิเศษเฉพาะตัวด้วยหัวใจสำคัญ อย่างการออกแบบให้สามารถปรับเปลี่ยนตามการใช้งาน ใช้ซ้ำได้หลากหลายพื้นที่ ปรับเปลี่ยนความความนิยม และใส่ความชื่นชอบที่แตกต่างกันได้ นอกจากนี้ผู้ชมในงานยังสามารถเป็นส่วนหนึ่งของการโหวต 1 ใน 8 สวนที่ชื่นชอบในโซนประกวดสวนได้ หรือผ่านทางเว็บไซต์บ้านและสวน baanlaesuan.com ได้อีกด้วย
MY Home: Outdoor Living Spaces
นิทรรศการของ My home ที่นำเสนอเกี่ยวกับความสำคัญของพื้นที่สีเขียวรอบๆตัว ธรรมชาติใกล้ตัวที่จะมอบความพิเศษและเติมเต็มความสุขเล็กๆในชีวิตได้อย่างไม่น่าเชื่อ โดยนำเสนอผ่านพื้นที่สีเขียวขนาดเล็ก ในรูปแบบของมุมพักผ่อน 3 แบบ 3 สไตล์ ที่ออกแบบเองได้ไม่ยาก
อย่าง Outdoor Chilling พื้นที่ภายนอกในรูปแบบชิลล์ๆ ผ่านการตกต่างระเบียงไม้ในสวน ด้วยวัสดุเหลือใช้อย่างไม้พาร์เล็ต ที่มาวางซ้อนกันให้เกิดเป็นที่นั่งและโต๊ะ หรือ Outdoor Camping พื้นที่ภายนอกแบบแคมป์ปิ้ง กางเต็นท์ ขึงผ้าใบ พื้นที่ปาร์ตี้ที่แสนสนุกสนาน หรือ Outdoor Dining จัดดินเนอร์ภายในสวน ด้วยวัสดุง่ายๆใกล้ตัวอย่างผนังสังกะสี หรืออิฐช่องลมที่นำมาทำเป็นขาโต๊ะ ตกแต่งด้วยไฟปิงปอง บรรยากาศแห่งความสุขในช่วงฤดูหนาว
ROOM: room Design cafe
บูธของ Room นำเสนอผ่านไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ โดยหยิบเรื่องราวของการออกแบบคาเฟ่มานำเสนอร่วมกับ BAB Art & Design Cafe ผ่านป๊อบอัพคาเฟ่สุดเท่ ที่สอดแทรกไอเดียการออกแบบ เฟอร์นิเจอร์ที่หลากหลาย พร้อมเสิร์ฟกาแฟอย่างพิถีพิถัน อาหารว่าง และเสียงดนตรีเพราะๆ ให้แก่ผู้ชมงานได้อย่างสนุกสนาน อีกทั้งยังมีร้านหนังสือที่เลือกสรรมาแล้วได้ทดลองอ่านกันในบรรยากาศสบายๆอีกด้วย
นอกจากนี้ สำหรับใครที่เป็นนักอ่านตัวยงของสำนักพิมพ์บ้านและสวน ก็มีบูธขายหนังสือ ที่จัดตั้งอยู่ภายในสวน เต็มไปด้วยมุมนั่งเล่นในพื้นที่สีเขียว ที่สามารถแวะมาพักผ่อน อ่านหนังสือเพลินๆได้อีกด้วย ส่วนใครที่เห็นไฮไลต์งานบ้านและสวนแฟร์ 2018 จากบทความนี้ แล้วอยากจะมาสัมผัสบรรยากาศด้วยตัวเองแล้วล่ะก็ สามารถมาได้ตั้งแต่วันนี้ จนถึง 4 พฤศจิกายน 2561 เวลา 9.30 -21.00 น. ณ ชาเลนเจอร์ฮอลล์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี