ถึงแม้ว่าฮวงจุ้ยจะเป็นศาสตร์หนึ่งที่ว่าด้วยเรื่องความเชื่อหน่อยๆ แต่ก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่า ความเชื่อนี่แหละที่อยู่คู่คนไทยมาตั้งแต่จำความได้ จะสร้างบ้านทั้งที ฮวงจุ้ยจึงเข้ามาเป็นโจทย์หนึ่งที่หลายๆบ้านให้ความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ จนบางครั้งหลักฮวงจุ้ยเองก็มาขัดกับหลักการออกแบบจนสถาปนิกต้องมีปวดหัวกันไปบ้าง
แต่บางครั้ง มันก็ไม่เสมอไป วันนี้เราชวนมาดู 7 หลัก ฮวงจุ้ยที่ไปด้วยกันได้ดีกับงานออกแบบ ซึ่งนอกจากจะทำให้การอยู่อาศัยเป็นไปแบบสบายกายแล้วยังสบายใจอีกด้วย
ทางผีผ่าน ประตูในบ้านห้ามตรงกัน แท้จริงแล้วช่วยปิดกั้นสายตา สร้างความเป็นส่วนตัว
จากความเชื่อของหลักฮวงจุ้ยที่ว่า ประตูหรือช่องเปิดในบ้านที่ตรงกัน จะเป็นทางผีผ่าน นำสิ่งไม่ดี โชคร้ายเข้ามาภายในบ้าน แต่หากเราลองในมุมของหลักการออกแบบแล้ว การวางประตูหรือช่องเปิดที่เยื้องสลับกันก็มีข้อดีมากกว่า ช่วยปิดกั้นสายตาจากสเปซภายใน ทำให้ผู้อยู่อาศัยรู้สึกถึงความเป็นส่วนตัวมากกว่า รวมถึงประสิทธิภาพในการระบายอากาศและลมก็ไหลผ่านได้ทั่วถึงมากกว่าเช่นเดียวกัน
ห้องนอนติดห้องครัว สุขภาพย่ำแย่ แท้จริงแล้วคือการหลีกเลี่ยงความร้อนสะสม
การวางผังห้องนอนที่อยู่ติดกับห้องครัว ตามหลักฮวงจุ้ยเชื่อว่าจะทำให้ผู้อยู่อาศัยหงุดหงิดง่าย สุขภาพย่ำแย่ เกิดการไม่สบายอยู่บ่อยๆ หรือถ้าหากเป็นคู่สามีภรรยา จะทำให้ความสัมพันธ์ไม่ราบรื่น แต่ในความเป็นจริง การออกแบบวางผังก็ไม่ควรจัดให้ห้องครัวอยู่ติดกับห้องนอน เนื่องจากความร้อนที่ถูกสะสมภายในห้องครัว รวมถึงกลิ่นที่เกิดขึ้นจากการทำอาหาร จะทำให้ห้องที่อยู่บริเวณใกล้ๆ ได้รับผลกระทบ ทำให้การพักผ่อนถูกรบกวน เสียบรรยากาศ ทำลายทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิต
บันไดกลางบ้าน เป็นอยู่ไม่ราบรื่น ในแง่การออกแบบคือการประหยัดพื้นที่
ถ้าพูดถึงฮวงจุ้ย แน่นอนว่าบันไดเป็นองค์ประกอบสำคัญที่จะไม่พูดถึงคงไม่ได้ ซึ่งตามหลักความเชื่อแล้ว บันไดไม่ควรอยู่ในตำแหน่งกลางบ้าน เพราะจะทำให้พลังงานที่ดีอ่อนแรง ส่งผลให้ความเป็นอยู่ไม่ราบรื่น ซึ่งบันไดถือเป็นจุดสำคัญในการถ่ายเทพลังงานจากล่างสู่บน
แต่แท้จริงแล้วในการออกแบบบ้านทั่วๆ ไป การวางบันไดไว้กลางบ้านก็ไม่เป็นที่นิยม เนื่องจากทำให้เปลืองพื้นที่ สเปซที่อยู่กลางบ้านควรจะเป็นพื้นที่เปิดโล่งมากกว่า เพื่อทำให้บ้านดูกว้างมากขึ้น บันไดจึงควรอยู่มุมใดมุมหนึ่งของบ้านเพื่อประหยัดพื้นที่ให้มากที่สุด
พื้นที่ซอกหลืบน้อยๆ ไม่มีส่วนเว้าแหว่ง ช่วยทำให้ทำความสะอาดง่าย
ในการวางแปลน ตามหลักฮวงจุ้ยจะเชื่อว่าแปลนหรือลักษณะของพื้นที่ไม่ควรมีส่วนเว้าแหว่ง เพราะจะส่งผลเสียต่อสุขภาพของคนในบ้าน เพราะบ้านที่มีซอกหลืบจะทำให้พลังดีในแต่ละห้องบิดเบี้ยวไม่สมดุล แต่ในความเป็นจริง แปลนที่ไม่มีซอกหลืบ จะทำให้เราสามารถใช้พื้นที่ได้อย่างเต็มที่ ดูแลทำความสะอาดได้ง่าย ลดการหมักหมมของฝุ่นหรือสิ่งสกปรก และยังทำให้บ้านดูโปร่ง สร้างความสบายในการอยู่อาศัยได้มากกว่านั่นเอง
บ้านติดชิดพื้นที่ดิน เงินทองไม่ไหลเข้า ในแง่การออกแบบคือ การเปิดให้ลมและแสงเข้าได้สะดวก
นอกจากสเปซภายในบ้านแล้ว ตำแหน่งของการวางบ้านบนที่ดินยังไม่ควรวางชิดติดที่ดิน ซึ่งหลักฮวงจุ้ยเชื่อว่าจะทำให้โชคลาภ เงินทองไหลเข้าบ้านได้ไม่สะดวก แต่หากมองในมุมของการออกแบบ ถ้าเราสร้างบ้านในตำแหน่งที่ชิดติดที่ดินมากเกินไป อาจจะทำให้รู้สึกอึดอัด ลมผ่านเข้าสู่ตัวบ้านได้ยาก
การเว้นให้มีพื้นที่รอบบ้านมากขึ้นจะทำให้ ลมและแสงธรรมชาติผ่านเข้ามาในบ้านได้สะดวก นอกจากนั้นการสร้างพื้นที่สีเขียวรอบบ้านยังช่วยเพิ่มบรรยากาศ ลดฝุ่นที่จะพัดเข้าสู่บ้าน และยังตรงตามหลักฮวงจุ้ยที่เชื่อว่า บ้านที่ถูกโอบล้อมด้วยพื้นที่สีเขียวจะทำให้บ้านอุดมสมบูรณ์อีกด้วย
เสริมธาตุน้ำ ด้วยการวางสระทิศเหนือ แท้จริงแล้ว ทิศเหนือร้อนน้อยที่สุด
หากมองตามหลักฮวงจุ้ย ทิศเหนือเป็นทิศของธาตุน้ำ การวางสระน้ำไว้ทางทิศเหนือจึงเป็นการเสริมให้ธาตุน้ำแข็งแรง นำพาสิ่งที่ดีเข้าสู่ภายในบ้าน ซึ่งในความเป็นจริง การดูทิศทางในการวางบ่อน้ำถือว่าสำคัญมาก เพราะแสงแดดจะสะท้อนความร้อนจากผืนน้ำเข้าสู่ตัวบ้าน โดยทิศเหนือเป็นทิศที่แสงแดดน้อยที่สุด ส่วนทิศที่ควรหลีกเลี่ยงคือทิศตะวันออกและตะวันตก เพราะเป็นทิศที่โดนแสงแดดโดยตรง
ห้องนอนทิศใต้ เชื่อมโลกวิญญาณ ในแง่การออกแบบคือการลดความร้อนที่สะสม
การวางห้องนอนไว้ทางทิศใต้ หากเป็นหลักฮวงจุ้ยจะมองว่าตำแหน่งทิศนี้ไม่ค่อยดีเท่าไรนัก เนื่องจากมีความเชื่อว่าพื้นที่จะเชื่อมกับโลกวิญญาณ และนำสิ่งไม่ดีเข้ามาสู่บ้าน แต่ในความเป็นจริง ตำแหน่งห้องนอนควรหลีกเลี่ยงทิศใต้ เพราะเป็นทิศที่ร้อนมากที่สุด และความร้อนที่สะสมในเวลากลางวันจะทำให้เวลากลางคืนเรานอนไม่สบายตัว ซึ่งอุณหภูมิที่ไม่เหมาะสมจะไปกระตุ้นให้เกิดการเจ็บป่วยได้ง่าย