เปิดตัวใหม่ล่าสุด!! Metris District Ladprao
คอนโดใหม่ Fully Furnished บนทำเล 5 แยกลาดพร้าว
ใกล้ BTS และ MRT ให้คุณได้ใช้ชีวิตอย่างไร้ขีดจำกัด

จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ทำให้วิถีการดำเนินชีวิตของเราได้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเลือกซื้อที่พักอาศัยสักแห่ง ก็กลับกลายเป็นเรื่องที่ต้องคำนึงมากขึ้น เพราะมีองค์ประกอบสำคัญที่ถูกเพิ่มขึ้นมาในการตัดสินใจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องระบบการดูแลรักษาความสะอาดและความปลอดภัย ฟังก์ชันการใช้งาน หรือสเปซที่ยืดหยุ่นปรับเปลี่ยนได้ตามต้องการ รวมไปถึงพื้นที่สำหรับการ Work from Home หรือแม้แต่พื้นที่ส่วนกลางที่เป็นส่วนตัว สิ่งเหล่านี้จึงกลายเป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกซื้อที่พักอาศัยในปัจจุบันและอนาคตอันใกล้

หากกำลังมองหาโครงการคอนโดซักแห่งในทำเลห้าแยกลาดพร้าว ที่จะช่วยให้เราวางแผนการใช้ชีวิต Next Normal ได้อย่างไม่มีลิมิต และยังเป็นหนึ่งในโครงการใหม่ล่าสุดที่น่าจับตามองที่สุดในตอนนี้ ก็คงหนีไม่พ้นน้องใหม่ล่าสุดจากบริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จํากัด (มหาชน)  โครงการ Metris District Ladprao ซึ่งอยู่ใกล้กับโครงการเดิมที่ได้รับการตอบรับอย่างดีมาแล้ว โครงการใหม่นี้ไม่เพียงแต่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตยุคใหม่ แต่ยังตอบโจทย์ทุกมิติการอยู่อาศัย ทั้งเรื่องดีไซน์และฟังก์ชันที่แตกต่างอย่างลงตัว ทำเลที่ตั้ง พื้นที่ส่วนกลาง และห้องพักอาศัย รองรับวีถีชีวิต Next Normal ที่เปลี่ยนแปลงได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะการชูจุดเด่นเรื่อง Hygiene และ Home Automation เข้ามา

ภาพจำลองโครงการ Metris District Ladprao

Juxtaposition แตกต่างแต่ลงตัว

โครงการนี้พัฒนาภายใต้คอนเซ็ปต์ “Juxtaposition” หรือการนำความแตกต่างที่โดดเด่นมาผสมผสานร้อยเรียงเป็นเรื่องเดียวกันได้อย่างลงตัว ทั้งในเรื่องของทำเลที่ตั้ง ที่อยู่ใกล้ห้าแยกลาดพร้าว มีความเป็นเมืองแต่ก็มีความสงบรมรื่นจากพื้นที่สีเขียว รวมไปถึงการดีไซน์ เห็นได้จากรูปแบบอาคารเรียบหรูตามแบบฉบับ Midcentury Modern มาสู่พื้นที่ส่วนกลางที่ตกแต่งและเลือกใช้เฉดสีแสดงความโดดเด่นและ Active ของผู้อยู่อาศัย ตั้งแต่ส่วนทางเข้าโครงการ โถงล็อบบี้ และสระว่ายน้ำ ผสมผสานกับพื้นที่ส่วนกลางที่เน้นธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็น Sensory Garden หรือพื้นที่สีเขียวตรงส่วนอื่น ๆ ที่แทรกตัวอยู่โดยรอบโครงการ สร้างความรู้สึกเชื่อมต่อกับสวนจตุจักรและสวนวชิรเบญจทัศ ซึ่งเป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ไม่ไกลกับโครงการนั่นเอง

Sensory Garden สวนพักผ่อนหย่อนใจเชื่อมต่อกับ Multi-Sport Carpark ด้านหลัง

MAXIMALIFE เต็มที่ในทุกจังหวะชีวิต

 นอกจากดีไซน์ที่ทันสมัยแล้ว ฟังก์ชันในอาคารยังถูกจัดวางมาอย่างลงตัวตามแนวคิด “MAXIMALIFE” ให้ผู้อยู่อาศัยได้ใช้ชีวิตแบบไร้ขีดจำกัด ทั้งในด้านไลฟ์สไตล์การพักอาศัย ด้านความสะดวกสบาย และคุณภาพการใช้ชีวิต    

จุดเด่นของโครงการคือมีพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ ซึ่งทุกสเปซถูกออกแบบมาอย่างพิถีพิถันตามแบบ Midcentury Modern  โดยพื้นที่ส่วนกลางจะกระจายตามส่วนต่าง ๆ ในอาคาร ดังนี้

ชั้น 1 – Sensory Garden, Multi-Sport Carpark, Pet Park, Double Volume Lobby, Co-working Lounge และ Mailroom
ชั้น 42 – Cat Haus และ Multi-Pet Playroom
ชั้น 43 – Sky Pool, Panoramic Gym และ Weight Training Studio
ชั้น 44 – Sky Lounge และ Observation Deck
ชั้น 45 – Sky Urban Farm และ Party Deck

Multi-Sport Carpark พื้นที่ส่วนกลางแบบ Multi-function นอกจากจะเป็นพื้นที่ออกกำลังกายกลางแจ้งแล้ว ในขณะเดียวกันก็เป็นที่จอดรถด้วย
Sky Pool และ Jacuzzi ที่มีความยาว 26.5 ม. x 5 ม. ว่ายออกกำลังกายหรือแช่น้ำผ่อนคลายก็สบาย
Sky Urban Farm และ Party Deck ผู้อยู่อาศัยสามารถขึ้นมานั่งชมวิวเมืองยามค่ำคืน และปลูกผักออร์แกนิคในบริเวณนี้ได้
Multi-Pet Playroom ห้องสำหรับสัตว์เลี้ยงตัวโปรดของคุณ
Cat Haus ห้องสำหรับน้องแมวและเจ้าของห้องที่สามารถมาใช้พื้นที่ส่วนกลางร่วมกัน

Pet Friendly Condo คอนโดที่เป็นมิตรกับสัตว์เลี้ยง

จากประสบการณ์ของ Major Development ในการทำคอนโด Pet Friendly เป็น Developer เจ้าแรก ด้วยประสบการณ์ที่มีมายาวนาน จึงทำให้มีความเชี่ยวชาญ สามารถพัฒนาฟังก์ชัน การใช้วัสดุ และการบริหารการใช้ชีวิตร่วมกันระหว่างผู้พักอาศัยที่มีสัตว์เลี้ยงและไม่มีสัตว์เลี้ยงได้อย่างมีคุณภาพ ไม่ว่าจะเป็นการแบ่งพื้นที่ใช้งานในพื้นที่ส่วนกลาง เลือกใช้วัสดุที่ไม่มีสารตกค้าง ใส่ใจเรื่องสุขอนามัยของผู้ใช้ และยกระดับคุณภาพการใช้ชีวิตร่วมกับน้อง ๆ ให้สะดวกสบายยิ่งขึ้น เช่น Pet Park, Cat Haus และ Multi-Pet Playroom เป็นพื้นที่ส่วนกลางสำหรับผู้ที่มีสัตว์เลี้ยง ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษเฉพาะโครงการนี้  

ภายในห้องพักก็เลือกใช้วัสดุและเฟอร์นิเจอร์ที่ปลอดภัยต่อการดำเนินชีวิตของผู้พักอาศัยและสัตว์เลี้ยง อาทิ ปูพื้นห้องด้วยพื้นสำเร็จรูป SPC (Stone Plastic Composite) ที่มีคุณสมบัติกันน้ำและความชื้น แข็งแรง ทำความสะอาดง่าย ทนรอยขีดข่วนสำหรับในพื้นที่ Living และเลือกใช้พื้นกระเบื้อง COTTO Hygenic Tile ในโซนห้องน้ำและห้องครัว ซึ่งมาพร้อมกับคุณสมบัติแข็งแรงทนทาน มี Anti-Bacteria ทำลายเชื้อแบคทีเรียได้มากกว่า 90% และติดตั้งเครื่องปรับอากาศ nanoe™ X และเพิ่ม IP Smart Camera เพื่อตรวจความเคลื่อนไหวภายในห้อง ซึ่งเป็นระบบ 2 Way Communication สามารถพูดคุยกับผู้อยู่อาศัยในห้อง หรือสัตว์เลี้ยงผ่านกล้องวงจรปิดได้อีกด้วย

สเปซที่ตอบโจทย์การอยู่อาศัย

 Metris District Ladprao เป็นโครงการคอนโดมิเนียม High Rise จำนวน 45 ชั้น โดยโครงการจะส่งมอบห้องแบบ Fully Furnished หรือห้องชุดที่มีเฟอร์นิเจอร์ครบพร้อมเข้าอยู่ ซึ่งมีห้องให้เลือกทั้งหมด 5 แบบ 741 ยูนิต ประกอบด้วย 

●     Studio ขนาดเริ่มต้น 23.7 ตร.ม.
●     1 Bedroom ขนาดเริ่มต้น 28 ตร.ม.
●     1 Bedroom Plus ขนาดเริ่มต้น 34.1 ตร.ม.
●     2 Bedroom 1 Bathroom ขนาดเริ่มต้น 42 ตร.ม.
●     2 Bedroom 2 Bathroom ขนาด 49.6 ตร.ม.

โดยห้องที่จะพาไปดูในวันนี้เป็นห้อง 1 Bedroom ขนาด 30.7 ตร.ม. และห้อง 1 Bedroom Plus ขนาด 34.6 ตร.ม.

สำหรับห้องตัวอย่าง 1 Bedroom ถูกจัดวางมาอย่างลงตัว จุดเด่นคือเป็นห้องหน้ากว้าง แยกพื้นที่ใช้งานได้เป็นสัดส่วน เมื่อเปิดประตูเข้าไปในห้องจะพบกับมุม Living Area เชื่อมต่อกับ Dining Area ก่อนเป็นอันดับแรก ด้วยความหน้ากว้างของห้องนี้เอง จึงสามารถทำเป็นพื้นที่สำหรับ Work From Home เป็นฟังก์ชันพิเศษที่ตอบโจทย์วิถีชีวิตใหม่ได้อย่างลงตัว และใช้งานได้จริงสำหรับ Layout ห้องนี้ด้วย ส่วนห้องครัวและห้องนอนอยู่ติดกับช่องเปิดขนาดใหญ่ และมีประตูกระจกสไลด์สูงเต็มบานกั้นโซน โดยทุกยูนิตจะมีระยะจากพื้นถึงฝ้า 2.6 ม.

โต๊ะรับประทานอาหารในส่วน Living Area มีขนาดค่อนข้างใหญ่ ทั้งนี้เพื่อให้ผู้พักอาศัยปรับเป็นมุมทำงานในช่วง Work from Home หรือเป็น Flexible Space เปลี่ยนฟังก์ชันได้ตามต้องการ (โดยจะได้รับเฟอร์นิเจอร์ของจริงตามที่เห็นในภาพ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่โครงการ)

ห้องครัวปิดจะอยู่ติดกับระเบียงและช่องแสงขนาดใหญ่ Layout นี้ ลงตัวมาก และน่าจะดีสำหรับคนที่ชอบทำอาหาร เพราะจะช่วยลดกลิ่นไม่พึงประสงค์ระหว่างทำอาหารได้ดี โดยทางโครงการจะบิลด์อินเคาน์เตอร์ ตู้ และเตามาให้เรียบร้อยพร้อมใช้งาน บานตู้ที่โครงการเลือกใช้เป็นแบบ Low Formaldehyde หรือยางพารา 100% ที่ปลอดสารพิษ ไม่มีกลิ่นฉุน และไม่ปล่อยสารก่อมะเร็ง จึงปลอดภัยต่อคนและสัตว์เลี้ยง ส่วนก๊อกน้ำเป็นระบบ Touchless หัวก๊อกเปิด-ปิดด้วยระบบเซนเซอร์ ช่วยลดการสัมผัสและประหยัดน้ำ

ภายในห้องนอนมีพื้นที่กว้างขวาง สามารถวางเตียงควีนไซส์ โต๊ะหัวเตียง และชั้นวางของได้ นอกจากนั้นยังมีพื้นที่มากพอในการวางโต๊ะทำงาน โดยทางโครงการเลือกใช้หน้าบานตู้เสื้อผ้าจากยางพารา 100% เช่นเดียวกับบานตู้ครัว

ถัดมาที่ห้อง 1 Bedroom Plus ขนาด 34.6 ตร.ม. จากผังห้องจะเห็นว่าห้อง Plus มีพื้นที่กว้างขวาง ผู้พักอาศัยเปลี่ยนการใช้งานได้ตามไลฟ์สไตล์ จะเป็นห้องทำงาน ห้องดูหนัง สตูดิโอ หรือห้องนอนอีกห้องก็ปรับได้ไม่ยาก

สำหรับห้องประเภทนี้จะเหมาะสำหรับคนที่ไม่ค่อยทำอาหาร หรือทำอาหารไม่จริงจังมากนัก เนื่องจากเป็นครัวเปิดที่เชื่อมต่อกับพื้นที่ Living Area และ Dining Area แต่โครงการก็ยังเตรียมส่วนดูดควันไว้ให้ด้วย อย่างไรก็ตามสามารถวางโต๊ะรับประทานอาหารแนวยาว 2 ที่นั่งตามในห้องตัวอย่าง หรือจะจัดฟังก์ชันเป็นห้องครัวและห้องรับประทานอาหารเพียงอย่างเดียว ส่วนห้องนั่งเล่นไปอยู่ในส่วนห้อง Plus ก็เป็นส่วนตัวยิ่งขึ้น 

แม้ส่วน Living Area จะไม่ติดกับช่องเปิดภายนอก แต่ภายในห้องก็ได้รับแสงธรรมชาติอย่างเพียงพอ เพราะทางโครงการเลือกใช้กระจกสไลด์บานใหญ่กั้นห้อง Plus และโซน Living Area โดยภายในห้อง Plus ทางโครงการแต่งเป็นห้องทำงานและห้องพักผ่อนเล็ก ๆ ให้ดูเป็นไอเดียในการตกแต่ง

ส่วนห้องนอนสามารถวางเตียงควีนไซส์ ตู้เสื้อผ้า และชั้นวางของได้ โดยตำแหน่งของห้องนอนจะอยู่ติดกับหน้าต่างบานใหญ่ จึงช่วยสร้างบรรยากาศที่ดีในการพักผ่อน รับวิวสวย ๆ ได้เต็ม ๆ และให้ความรู้สึกโปร่ง โล่ง น่าพักอาศัย ส่วนห้องน้ำ 1 Bedroom Plus เป็นห้องน้ำที่สามารถเข้าได้ทั้ง  2 ทาง จาก Living Area หรือห้องนอนก็ได้

Next Normal กับวิถีชีวิตที่เปลี่ยนแปลง

เพื่อตอบสนองต่อไลฟ์สไตล์และความเป็นอยู่ที่สมบูรณ์แบบของผู้พักอาศัย ทางโครงการจึงคำนึงถึง Next Normal เข้ามาเป็นส่วนประกอบในการออกแบบและพัฒนาฟังก์ชัน เช่น ใช้เทคโนโลยี Touchless Access,  Auto Door และ Wellness Charger ในบริเวณล็อบบี้และพื้นที่ส่วนกลาง เพื่อลดการสัมผัสและเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล

ส่วนภายในห้องพักทุกห้องทางโครงการจะทำการติดตั้งระบบ Home Automation ควบคุมระบบไฟฟ้า เครื่องปรับอากาศ และเครื่องใช้ไฟฟ้าผ่านระบบสัมผัส ซึ่งผู้พักอาศัยสามารถสั่งงานผ่านแอพพลิเคชั่นในโทรศัพท์ได้ ทางโครงการยังคำนึงถึงสุขอนามัยที่ดีของผู้ใช้งาน จึงใช้ Non Toxic Material วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและปลอดสารพิษเป็นหลัก และยังเตรียมพื้นที่สีเขียวตามพื้นที่ต่าง ๆ ทั้งในและนอกอาคาร ซึ่งนอกจากจะช่วยกรองฝุ่น pm 2.5 แล้ว ยังเพิ่มความร่มรื่นให้ผู้พักอาศัยอีกด้วย

ห้าแยกลาดพร้าว ทำเลศักยภาพที่น่าจับตามอง

ทำเลที่ตั้งโครงการอยู่บริเวณ 5 แยกลาดพร้าว เดินทางสะดวกเพียง 230 เมตร ถึงสถานี MRT พหลโยธิน และอยู่ไม่ไกลกับ BTS ห้าแยกลาดพร้าว ซึ่งเป็นจุด Interchange ของ BTS และ MRT 2 สายหลักที่สำคัญในกรุงเทพฯ หรือจะเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวหรือรถสาธารณะ ก็สะดวกในการเข้าเมืองหรือออกไปยังพื้นที่อื่นๆ

สิ่งอำนวยความสะดวกรอบโครงการมีความอุดมสมบูรณ์สูง ใกล้กับห้างสรรพสินค้า เช่น เซ็นทรัล ลาดพร้าว, ยูเนี่ยน มอลล์ รวมถึงสถานศึกษา สถานที่ทำงาน และโรงพยาบาลชั้นนำอีกมากมาย นอกจากนั้นยังอยู่ใกล้กับสวนจตุจักร และสวนวชิรเบญจทัศ ซึ่งเป็นพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ใจกลางเมือง

เซลล์แกลเลอรีพร้อมโซน Proper Space Café

Proper Space Café ภายในเซลล์แกลเลอรี นอกจากจะแวะมาชมโครงการและห้องตัวอย่างแล้ว ยังสามารถมานั่งพักผ่อนคลายร้อน ชิมเครื่องดื่มรสชาติเยี่ยมอีกด้วย

บรรยากาศภายในเซลล์แกลเลอรี

พบกับ Metris District Ladprao โครงการที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตแบบ Next Normal เพื่อให้คุณใช้ชีวิตได้อย่างไม่มีลิมิต ห้ามพลาด 𝗣𝗥𝗘𝗦𝗔𝗟𝗘𝗦 5 – 6 มี.ค.นี้!

ฟรี!! iPad Pro*
ฟรี!! ทองคำหนัก 3 บาท*
ราคาเริ่มต้น 2.99 ลบ.*!! #การันตี ราคาดีที่สุดในลาดพร้าว

สนใจโครงการสามารถเข้าชมและสอบถามสิทธิพิเศษได้ที่เซลล์แกลเลอรีโครงการตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษที่ https://bit.ly/3vsJS0b หรือติดต่อสอบถามเพิ่มเติม โทร 02-116-1111

Writer
Gee

Gee

Full-time writer, part-time wanderer.