‘ธรรมชาติ’ เป็นสิ่งที่มักถูกนำมาใช้เป็นแนวคิดในการออกแบบเสมอ แต่ละแนวคิดต่างหยิบยกนำเสน่ห์และความงดงามของธรรมชาติมาตีความเล่าใหม่ด้วยภาษาดีไซน์ที่ต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็นป่าเขาลำเนาไพรไปจนถึงสิ่งที่มีอนุภาคเล็ก ๆ อย่างแสง ซึ่งล้วนมีความงามในตนเอง และอีกสิ่งสำคัญที่มีผลต่อการแปลงภาษาดีไซน์ให้ต่างกันคือ สภาพแวดล้อมโดยรอบ
เช่นเดียวกับ Nue Riverest Ratburana คอนโดมิเนียมที่เก็บความงามตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ โดยการนำบริบทอย่าง ‘ริมแม่น้ำเจ้าพระยา’ ที่แม้เป็นคำไม่กี่พยางค์สั้น ๆ แต่คุณค่าของพื้นที่ไม่สั้นตามชื่อ ซึ่งแน่นอนว่าการเล่าเรื่องราวของแม่น้ำเจ้าพระยาก็คงไม่ง่ายเช่นกัน แต่ Nue Riverest Ratburana กลับสามารถหยิบนำเสน่ห์ของธรรมชาตินี้ มาร้อยเรียงใหม่ผ่านภาษาดีไซน์ได้อย่างน่าสนใจ
วันนี้เราจึงอยากเล่าถึงสถาปัตยกรรมริมแม่น้ำเจ้าพระยาย่านราษฎร์บูรณะ ย่านที่อยู่อาศัยใกล้สมุทรปราการที่คนส่วนใหญ่มักจดจำด้วยภาพสะพานพระราม 9 ซึ่งมีดีเทลน่าสนใจมาเล่าให้ทุกคนได้ฟังกัน
บนคุ้งน้ำเจ้าพระยาที่อยู่กึ่งกลางระหว่างเมืองและผืนป่า
Nue Riverest Ratburana โครงการคอนโดมิเนียมริมแม่น้ำแห่งแรกของ Noble ด้วยความพิเศษของพื้นที่โครงการที่ตั้งอยู่บนคุ้งน้ำระหว่างสะพานพระราม 9 และสะพานภูมิพล ทำให้สามารถสัมผัสได้ทั้งบรรยากาศเมืองและมองเห็นความเขียวชะอุ่มของผืนป่าที่ขึ้นชื่อว่าเป็นปอดของกรุงเทพฯ อย่าง ‘บางกระเจ้า’ และนั่นก็เป็นที่มาของแนวคิดหลักโครงการ ที่ต้องการให้คนเมืองสามารถพักผ่อนได้ในทุกวัน โดยนำธรรมชาติมาเป็นองค์ประกอบในการออกแบบ และในขณะเดียวกันก็ตั้งใจให้อาคารแห่งนี้มาช่วยเติมเต็มสีสันใหม่ให้กับย่านราษฎร์บูรณะ ซึ่งเป็นย่านที่อยู่อาศัยที่ค่อนข้างสงบ ด้วยสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์จนกลายเป็นภาพจำใหม่ของย่านนี้
ดังนั้นจึงนำมาสู่แนวคิดการออกแบบแมสอาคารที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก ‘ภูเขา’ ตัวแทนความแข็งแกร่งในธรรมชาติและเป็นสัญลักษณ์ของต้นกำเนิดแม่น้ำ กลายมาเป็นกลุ่มอาคาร 8 หลังที่ลดหลั่นไล่ระดับจากต่ำไปสูง เรียงสลับกัน 2 ฝั่ง แทนการสร้างกำแพงตึกสี่เหลี่ยมหนาทึบบดบังมุมมองไปเสียหมด และภายในอาคารยังมี Floor Plan ที่แตกต่างกันไปในแต่ละหลังอีกด้วย
สถาปัตยกรรมที่เล่าเรื่องจากต้นน้ำสู่ปลายน้ำ
เมื่อมีอาคารเป็นภูเขาแล้ว พื้นที่ว่างรอบอาคารจึงต้องจำลองตนเองเป็นธรรมชาติเช่นกัน ดังนั้นผู้ออกแบบจึงเลือกใช้แนวคิดที่สอดคล้องกับตัวอาคาร อย่าง ‘The Origin of The River’ มาออกแบบ Landscape Design ซึ่งเป็นการแบ่งโซนพื้นที่สีเขียวและกิจกรรมตามลักษณะการเกิดแม่น้ำในธรรมชาติ โดยเริ่มจากโซนภูเขาตั้งแต่บริเวณหน้าโครงการที่มีจุดเด่นเป็นอาคารจอดรถที่พรางตัวเองไปกับไม้เลื้อยเหมือนภูเขาสีเขียวลูกย่อม ๆ เมื่อเข้าสู่บริเวณอาคารพักอาศัยแล้ว พื้นที่สีเขียวจะค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นโซนป่าที่มีความสงบร่มรื่น ดังนั้นพื้นที่ในโซนนี้จึงเน้นกิจกรรมผ่อนคลาย สบาย ๆ มากกว่าโซนอื่น ซึ่งประกอบด้วย Forest Cocoon, Passive Park, Pet Park และ Playscape ต่อมาเป็นโซนลำธารที่อยู่ติดกัน โซนนี้ผู้ออกแบบได้ดีไซน์ลู่วิ่งกลางแจ้งด้วยลายเส้นคดโค้งคล้ายกับลำธาร ซึ่งชวนอดคิดไม่ได้ว่าเราก็เป็นเหมือนปลาตัวน้อย ๆ ที่แหวกว่ายไหลไปตามสายน้ำ และท้ายที่สุดเมื่อลำธารหลายสายมารวมกันจึงเกิดเป็นแม่น้ำอันกว้างใหญ่ที่เห็นในโซนสุดท้ายปลายสุดของโครงการ นอกจากจะเป็นการถอยร่นอาคารตามกฎหมายแล้ว พื้นที่พักผ่อนริมแม่น้ำในโซนนี้ ยังเป็นการเปิดมุมมองให้สัมผัสบรรยากาศคุ้งน้ำอย่างเต็มที่ โดยมีจุดเด่นคือ สระว่ายน้ำ Infinity Pool ที่ดูคล้ายจะกลืนเป็นผืนเดียวกันกับแม่น้ำเจ้าพระยา
ความงามของแสงธรรมชาติตั้งแต่เช้าจรดค่ำ
เมื่อพูดถึงความงามของ ‘แสง’ หลายคนอาจนึกถึงเพียงแค่ทิศทาง ความเข้มของแสง หรือเงาที่เกิดจากแสงเท่านั้น แต่ทว่า ‘สีของแสง’ ก็มีความสำคัญในการออกแบบเช่นกัน เช่นเดียวกับแนวคิดการออกแบบ Interior Design ของโครงการ ที่หยิบยกสีของแสงแต่ละช่วงเวลามาผสานกับฟังก์ชันพื้นที่ส่วนกลางเพื่อสร้างจุดเด่นให้กับ Mood and Tone ของแต่ละอาคาร
Star Light สีของค่ำคืนที่แต่งแต้มด้วยหมู่ดาว ซึ่งเป็นสีโทนเย็น ได้แก่ น้ำเงิน เทา และขาวถูกนำมาใช้ในอาคาร A
Twilight สีของฟ้าก่อนตะวันจะลาลับ เป็นช่วงเวลาที่หลายคนหลงใหล เพราะเราสามารถเห็นสีของแสงสะท้อนบนท้องฟ้าได้อย่างชัดเจน ดังนั้นผู้ออกแบบจึงเลือกสีโทนร้อนนำมาเป็นจุดเด่นในอาคาร B โดยเฉพาะใน Sky Onsen ที่ใช้สีแดง ส้ม น้ำตาลมาเสริมบรรยากาศแช่ออนเซ็นพลางชมวิวพระอาทิตย์ตก
Warm Light สีของความสดชื่นในยามบ่าย สีที่ใช้ในอาคาร C และ F จะเป็นสีที่ดูสบาย ๆ เป็นหลัก โดยใช้สีเขียวมาเพิ่มความสดชื่น เราจึงเห็นสีเขียวหลากหลายโทน ถูกใช้ในพื้นที่ Lobby, All-Day Bar, Sky Co-Kitchen และ Sky Theatre
Day Light สีของความนุ่มนวลในยามสาย ถูกใช้ในอาคาร D และ E ซึ่งเป็นสีเน้นความเป็นธรรมชาติอย่างน้ำตาล และสีเอิร์ธโทนอื่น ๆ ทำให้บรรยากาศโดยรวมดูเรียบง่ายแต่แฝงด้วยความอบอุ่น
Morning Light สีแห่งการเริ่มต้นวันใหม่ เนื่องจากอาคาร G และ H อยู่ติดริมแม่น้ำ จึงมีโอกาสรับวิวพร้อมแสงธรรมชาติมากกว่าอาคารหลังอื่น ดังนั้นจึงมีการเลือกใช้สีโทนสว่างอย่างสีขาวนวล เพื่อให้แสงเข้ามาไล้กับสเปซภายในอาคารอย่างมีมิติ และยิ่งจัดวางองค์ประกอบคู่กับวัสดุไม้แล้ว ยิ่งเสริมให้อาคารดูเรียบหรูมากขึ้น
ทำให้ทุกวันเหมือนเป็นวันพักผ่อน
จากแนวคิดหลักของโครงการที่ต้องการให้คนเมืองสามารถพักผ่อนได้ในทุกวัน ดังนั้นจึงมีการออกแบบห้องพักให้มีหน้ากว้าง พื้นที่ระเบียงยาว และสามารถเปิดรับมุมมองวิวแม่น้ำเจ้าพระยาในทุกห้อง ให้ผู้ใช้งานดื่มด่ำกับบรรยากาศความสงบได้เต็มที่ในทุก ๆ วัน จากการวางรูปแบบของ Floor plan แต่ละอาคารที่ต่างกัน ทำให้มี Layout และขนาดห้องให้เลือกหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะอยู่คนเดียว อยู่กับเพื่อน สัตว์เลี้ยง คนรัก หรือครอบครัว และไม่ว่าจะเป็นช่วงวัยอายุไหนก็สามารถตอบโจทย์ได้กับทุกกลุ่มผู้ใช้งาน
ความพิเศษของทำเลไม่ได้มีเพียงแค่วิวริมแม่น้ำเจ้าพระยาเท่านั้น โครงการ Nue Riverest Ratburana ยังตั้งอยู่บนทำเลใกล้เส้นทางหลักที่สามารถเข้าสู่ใจกลางเมืองได้อย่างสะดวกสบาย
Nue Riverest Ratburana คอนโดใหม่ริมแม่น้ำ ในราคาเริ่ม 1.79 ล้านบาท โดย 26 พฤศจิกายน นี้ จะมีงาน Open House ในวันงานจะมียูนิตโปรโมชั่นพิเศษ 1.59 ล้านบาท และส่วนลดสูงสุด 480,000 บาท สำหรับใครที่สนใจสามารถ ลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิพิเศษต่างๆ ได้ที่เว็บไซต์ https://nobleurl.com/3Am2yAx
รับข่าวสารเรื่องการออกแบบ สถาปัตยกรรม ไลฟ์สไตล์
ทางอีเมล ที่จะส่งตรงถึงคุณทุกเดือน ลงทะเบียนได้ที่ด้านล่างนี้เลย!