บ้านตากแดด ออฟฟิศตากฝนของ a21 Studio Home Office

มีคนเคยถามผมว่าบ้านที่ดีควรเป็นอย่างไร ผมไม่ได้ให้คำตอบกับเขาเหล่านั้น เพราะมันคือทัศนคติทั้งหมดของชีวิตคุณ ที่ได้มีประสบการณ์ในการรับรู้ความเป็นบ้านที่ดี… แน่นอนว่าไม่มีของใครเหมือนกันเลย และนี่คือบ้านหลังหนึ่ง ที่ผมคิดว่าได้แสดงตัวตนอย่างชัดเจน ทั้งแนวคิดและวิธีการสื่อสารออกมากลายเป็นบ้านหลังนี้ ในนามของบ้านที่ดี บ้านหลังนี้คือบ้านที่น่าอยู่และดีมากหลังหนึ่ง… บ้านที่เวียตนาม โดย a21 studio

เช้านี้แดดดีมาก ดีจนอยากจะเข้าไปภายในบ้านหลังนี้เร็วๆ และไม่นานเราก็มาอยู่ที่หน้าบ้านหลังนี้ Home Office ของ a21 studio ตั้งอยู่ใจกลางเมืองโฮจิมิน เจ้าของบ้านและเจ้าของออฟฟิสคุณ Hiep Hoa Nguyen เดินมาต้อนรับเราอย่างกันเอง คุณ Hiep เล่าอธิบายถึงส่วนต่างๆของบ้าน และที่สำคัญคือแนวคิกหลักในการออกแบบบ้านหลังนี้

ประเทศเวียตนาม โดยเฉพาะในเมืองหลวงอย่างโฮจิมินเป็นเหมือนกับเมืองใหญ่ที่มีประชากรหนาแน่นทั่วโลก คือการมีราคาที่ดินค่อนข้างสูง การใช้พื้นที่จึงจำเป็นต้องคิดให้รอบครอบและใช้งานอย่างคุ้มค่ามากที่สุด “แนวคิดหลักคือการดึงธรรมชาติเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งภายในบ้านให้มากที่สุด แม้ว่าพื้นที่ของบ้านจะน้อย แต่เราก็สามารถสร้างกรอบของอาคารที่ปิดล้อมจากบริบทที่ไม่น่ามองเท่าไรนัก และสร้างพื้นที่ส่วนตัวที่น่าอยู่ของตัวเองได้” เจ้าของบ้านไม่ได้คิดถึงบ้านหรือสถาปัตยกรรมรักษ์โลก หรือ Eco architecture หรือมีเทคโนโลยีในการอนุรักษ์พลังงานแต่อย่างใด เขาเพียงแค่คิดว่าธรรมชาติไม่ใช่สิ่งที่เราจำเป็นต้องแยกออกจากชีวิต แถมยังรักที่จะอยู่อย่างใกล้ชิดกับมันมากกว่า

เราชอบที่จะอาบแสงแดด ถูกแวดล้อมไปด้วยต้นไม้ มีน้ำฝนมาเป็นส่วนหนึ่งของบ้าน และเราก็เต็มใจที่จะอยู่ในกรอบที่ถูกคิดมาแล้วเป็นอย่างดี บ้านสามชั้นครึ่งหลังนี้จึงอนุญาตให้ทั้งแสงแดดและสายฝน เข้ามาเป็นแขกประจำของบ้าน หลังคาด้านบนสุดที่สามารถเปิดปิดได้เพื่อเลือกรับสายฝน ทั้งแสงแดดและสายฝนก็จะสามารถเข้ามาภายในบ้าน โดยอยู่ในตำแหน่งที่ออกแบบไว้ให้ ด้วยการใช้พื้นไม้เว้นร่องทุละตั้งต่อชั้นบนสุดถึงล่างสุด ฉะนั้นที่บริเวณห้องทานข้าวชั้นล่าง เราก็จะมีแสงแดดรำไรและสายฝนโปรยมาเป็นเพื่อนร่วมวงทุกครั้งไป ภายในบ้านมีต้อนไม้หนึ่งต้น เริ่มต้นที่ชั้นล่างสุด และยืดลำต้นขึ้นมาที่ชั้นสอง ทะลุพื้นไม้ที่ออกแบบเว้นไว้สำหรับกิ่งก้านเหล่านั้น แสงแดดที่ส่องมาจึงจำเป็นสำหรับต้นไม้นี้มากเช่นกัน

พื้นที่ชั้นล่างเป็นส่วนของห้องรับประทานอาหาร ครัว และห้องน้ำ เดินขึ้นมาที่ชั้นสองจะเป็นส่วนทำงานออกแบบของบริษัท a21 studio ชั้นสามเป็นห้องนอนและห้องน้ำ มีชั้นดาดฟ้าสำหรับขึ้นไปตากผ้าและนั่งพักผ่อนยามเย็นได้ พื้นที่ส่วนที่เป็น public space ทั้งหมดจะออกแบบพื้นเป็นพื้นไม้ที่มีการเว้นร่องสลับกับไม่เว้นร่อง เพื่อเป็นการเชื่อมต่อพื้นที่ทั้งหมดไม่ให้ถูกแยกออกจากกันจนเกินไป และยังเป็นการทำให้การถ่ายเทอากาศภายในบ้านเป็นไปอย่างสะดวกอีกด้วย

อย่างคำพูดที่ว่ากัน “อยู่ใต้ฟ้า อย่ากลัวฝน” บ้านหลังนี้คงอยากจะสื่อสารกันเราเช่นนั้นเหมือนกัน เพราะเมื่อหลายอย่างเปลี่ยนไป การใช้ชีวิตและความคิดของคนยุคใหม่ ทำให้เราอาจหลงลืมไป ว่าจริงๆแล้วเราก็เป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ ทั้งท้องฟ้า สายลม สายฝน และแสงแดด อย่าพยายามแยกตัวออกจากสิ่งเหล่านี้เลย เพราะยังไงสุดท้ายที่ปลายทางของชีวิต เราก็จะกลับคืนสู่คำว่า “ธรรมชาติ” อยู่เสมอไป

Writer
Ekkarach Laksanasamrith

Ekkarach Laksanasamrith

สถาปนิกที่เชื่อว่า "ตัวหนังสือ" มีพลังพอๆกับ "สเปซ" และ "การเขียนหนังสือ" ก็ใช้สกิลไม่ต่างจาก "การเขียนแบบ" ใน AUTO Cad