เพราะในบางครั้งวัสดุที่สื่อถึงความเป็นธรรมชาติ อย่าง ไม้หรือหิน ก็ช่วยลดทอนความแข็งแกร่ง เส้นสายเหลี่ยมคมของสถาปัตยกรรมได้อย่างน่าประหลาด การเลือกวัสดุที่ให้พื้นผิวเสมือนธรรมชาติจึงเป็นตัวเลือกที่ดีไซน์เนอร์ สถาปนิก หรือหลายๆ คนมักจะหยิบมาใช้ออกแบบ ตกแต่งบ้านกันอยู่เสมอ อาจไม่ใช่ทุกส่วนของบ้าน แต่การมีความเป็นธรรมชาติอยู่บ้าง ย่อมเติมเต็มความรู้สึกอ่อนโยน และเป็นกันเองในการอยู่อาศัยได้มากขึ้น
แต่เราก็คงต้องยอมรับว่า วัสดุธรรมชาติ ยังมาพร้อมข้อจำกัดในการใช้งาน บ้างก็มีสีสันไม่ตรงตามที่ต้องการ บ้างก็ไม่คงทนแข็งแรง วัสดุสังเคราะห์ที่ให้พื้นผิวเสมือนธรรมชาติจึงมีบทบาทสำคัญในวงการวัสดุมากขึ้น Ultima Living Selective Brand ของไทยที่ตั้งใจคัดสรรสินค้าคุณภาพ จึงเลือกที่นำเข้า Stone Italiana แบรนด์วัสดุหินควอตซ์ (Quartz) ส่งตรงจากประเทศอิตาลี ที่โดดเด่นด้วยรูปแบบการดีไซน์เฉพาะตัวพร้อมพื้นผิวเป็นธรรมชาติ ที่จะมาแก้ปัญหาความคงทน แข็งแรงได้อย่างเหมาะสม
เสน่ห์และความคงทนของพื้นผิว
เชื่อว่าหลายคนเคยได้ยินชื่อเสียงเรียงนามของ ‘หินควอตซ์’ กันมาบ้าง แต่อาจจะยังไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วหินควอตซ์เป็นหินสังเคราะห์ที่ใช้วัสดุหลักอย่าง ‘ควอตซ์’ มาผลิตเป็นแผ่นหิน และเทคโนโลยีการผลิตควอตซ์นี้ยังมีต้นกำเนิดมาจากประเทศอิตาลีอีกด้วย
ด้วยความที่หินธรรมชาติจะมีรูพรุนเยอะกว่า ทำให้วัสดุที่ได้มีความอ่อน ยืดหยุ่นสูง และไม่คงทนแข็งแรงในการใช้งานมากพอ เทคโนโลยีการผลิตหินควอตซ์จึงเริ่มต้นขึ้นเพื่อแก้ปัญหาหินธรรมชาติ ก่อนที่จะได้รับการยอมรับและถูกนำไปใช้งานกันอย่างแพร่หลายทั่วโลก โดยมี Stone Italiana เป็นแบรนด์หินควอตซ์เก่าแก่กว่า 41 ปี ที่ผลิตหินควอตซ์เป็นเจ้าแรกในประเทศอิตาลี
เราต้องขอเล่าก่อนว่า บริษัทควอตซ์ทุกบริษัทจะใช้เทคโนโลยีและวัตถุดิบชนิดเดียวกันเป็นมาตรฐานในการผลิตควอตซ์ที่เหมือนกันทั้งหมด แต่ความโดดเด่นที่นำมาซึ่งความแตกต่างจะอยู่ที่ ‘พื้นผิว’ ของวัสดุ ด้วยความที่ผู้ก่อตั้งแบรนด์ Stone Italiana มีพื้นฐานอยู่ในสายวิชาชีพวิศวกร จึงมีการคิดค้นเครื่องขัดประเภทต่างๆ เพิ่มเติม ทำให้สามารถขัดปิด หรือเปิดพื้นผิว จากหินควอตซ์ที่แข็งแรงทนทานเป็นทุนเดิม จึงยิ่งเพิ่มความแข็งแรงทนทานได้มากกว่าหินควอตซ์ทั่วไป โดยสามารถนำไปใช้ปูพื้น รองรับงานหนัก กันรอยขูดขีด อย่างการปูพื้นลิฟท์ โชว์รูมรถ พื้นห้างสรรพสินค้า พื้นสถานีรถไฟ หรือแม้แต่พื้นสนามบินที่ต้องมีการลากกระเป๋ากันอยู่บ่อยครั้ง
หินควอตซ์ที่สามารถขึ้นรูปทรงได้ตามต้องการ
โดยปกติแล้วหินควอตซ์จากประเทศอิตาลีจะเป็นแผ่น Slab คล้ายกับหินอ่อนหรือหินแกรนิตที่เราคุ้นเคย แต่ด้วยเทคโนโลยีเฉพาะทางของแบรนด์ ทำให้หินควอตซ์จาก Stone Italiana สามารถขึ้นโมเดลสามมิติ เป็นรูปทรงหรือพื้นที่ที่ต้องการได้อย่างไร้ขอบเขต โดยทำเป็นลักษณะรูปทรงถังกลม อ่างล้างมือ หรือเป็นห้องน้ำทั้งห้องเลยก็ยังได้ จุดเด่นตรงนี้จึงเรียกได้ว่ามาทลายข้อจำกัดของงานดีไซน์ได้เป็นอย่างดี ซึ่งเราก็คงมีโอกาสได้เห็นนักออกแบบหยิบนำวัสดุชนิดนี้ไปเป็นทางเลือกหนึ่งในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ได้อย่างไม่ซ้ำใคร
ทุกคอลเล็กชันออกแบบโดยผู้เชี่ยวชาญทางด้านดีไซน์
เพราะทุกครั้งที่เรามองหาวัสดุมาใช้ในการออกแบบหรือตกแต่ง สิ่งมาคู่กับฟังก์ชัน ย่อมเป็นความสวยงามที่จะขาดไปไม่ได้ หินควอตซ์ Stone Italiana จึงมีลวดลาย สีสันและรูปแบบให้เลือกสรรกว่า 10 คอลเล็กชัน โดยจุดเด่นของแต่ละคอลเล็กชันยังได้รับการออกแบบจากกลุ่มดีไซน์เนอร์ผู้เชี่ยวชาญจากมิลาน ประเทศอิตาลี
ซึ่งกลุ่มดีไซน์เนอร์จะมีการทำเวิร์คช็อปร่วมกัน ก่อนจะสร้างสรรค์เป็นโทนสี พื้นผิว และคอลเล็กชันใหม่ที่แตกต่างเพื่อให้ตอบโจทย์กับเทรนด์ของงานออกแบบในแต่ละปี ทำให้หินควอตซ์ Stone Italiana เกิดความยูนีค ไม่ซ้ำกับแบรนด์ทั่วๆ ไป
นอกจากนี้ ทางแบรนด์ Stone Italiana ยังมีห้องทดลองวัสดุ โดยหลังจากที่ดีไซน์เนอร์คิดค้นคอลเล็กชันใหม่ จะมีการขึ้นแพทเทิร์นเป็นวัสดุแผ่นเล็กๆ ก่อนจะนำไปทำการทดลองและเลือกโทนสี พื้นผิวที่เหมาะสมก่อนจะได้ผลลัพธ์ขั้นสุดท้ายเป็นโปรดักต์สุดพิถีพิถันที่พร้อมส่งถึงมือลูกค้า
Something More : ในการออกแบบช็อปแบรนด์แฟชันชั้นนำของอิตาลีอย่าง Dolce&Gabbana , FENDI หรือ Emporio Armani ดีไซน์เนอร์ยังมีการเลือกใช้ หินควอตซ์จาก Stone Italiana โดยสามารถ customized โทนสีพิเศษที่สื่อความเป็นแบรนด์นั้นๆ ได้อย่างมีเอกลักษณ์ ซึ่งแตกต่างจากแบรนด์อื่นๆ ที่การ customized ลวดลายและพื้นผิวทำได้ยากกว่า
Craken Collection โดดเด่นด้วยกลิ่นอายเทคนิคการผลิตแบบโบราณผสมผสานเข้ากับการค้นคว้าและผลิตแร่ควอตซ์อย่างพิถีพิถัน สู่วัสดุร่วมสมัยสไตล์ Hand-Made ที่มีเอกลักษณ์ โดดเด่น พร้อมเปลี่ยนพื้นที่แสนธรรมดาให้เรียบหรู เปี่ยมด้วยเสน่ห์เฉพาะตัวที่ไม่เหมือนใคร
‘Green Vision’ กับแนวคิดวัสดุรักษ์โลก
ในการก่อสร้างอาคารหนึ่งครั้ง เมืองและโลกต้องเผชิญกับมลภาวะที่เพิ่มขึ้นไม่น้อย Stone Italiana จึงพยายามคิดค้นวัสดุหินควอตซ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเพื่อยกระดับอุตสาหกรรมการใช้วัสดุให้ตอบโจทย์ในเรื่องความยั่งยืน โดยทางแบรนด์มีการนำขยะมูลฝอยจากอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น แก้ว กระจก และหินแกรนิต มาทดลองออกแบบโดยใช้วัสดุหลายชนิดร่วมกัน ด้วยจุดมุ่งหมายที่จะนำกลับมาใช้ใหม่ นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์ของแบรนด์ยังลดปริมาณสารยึดเกาะพอลิเมอร์เหลือเพียง 7-8% ซึ่งส่วนหนึ่งก็ได้มาจากแหล่งผักหรือพืชหมุนเวียนที่ไม่ผ่านการดัดแปลงพันธุกรรมอีกด้วย
ในการใช้งานภายในครัวเรือน หินควอตซ์ Stone Italiana ยังปลอดภัยต่อทั้งมนุษย์และสิ่งแวดล้อม เนื่องจากไม่ปล่อยสาร VOCs หรือสารประกอบอินทรีย์ระเหยที่เป็นอันตราย และได้รับการรับรองคุณภาพอากาศภายในอาคารด้วยมาตรฐาน GREENGUARD และ GREENGUARD Children & Schools จากประเทศสหรัฐอเมริกา อีกทั้งยังมีคุณสมบัติยับยั้งแบคทีเรีย จึงเหมาะสำหรับใช้ในครัวเรือน ใช้งานบริเวณเคาน์เตอร์ครัว และพื้นที่เตรียมอาหารได้อย่างปลอดภัย
COSMOLITE Collection ผลิตภัณฑ์ในคอลเล็กชันใหม่ที่ผลิตขึ้นจากวัสดุรีไซเคิล 100% ซึ่งนอกจากจะรักโลกแล้ว ในแง่ของการตกแต่งและความสวยงาม COSMOLITE Stone ยังมาในรูปลักษณ์เป็นธรรมชาติผ่านลวดลายแรนดอมของหิน และพื้นผิวเรียบเป็นชิ้นเดียวกัน สามารถนำไปสร้างสรรค์พื้นที่ได้อย่างไร้ขีดจำกัด
การใช้งานของหินควอตซ์
ถึงแม้ไอเดียแรกในการผลิตหินควอตซ์จะเน้นนำมาใช้งานบริเวณเคาน์เตอร์ท็อปห้องครัว หรือใช้ในการกรุผนังห้องน้ำ โดยแก้ปัญหาเรื่องการซึม รอยขูดขีด หรือความคงทนแข็งแรงได้เป็นอย่างดี แต่หินควอตซ์ Stone Italiana ก็ทลายกำแพงนั้นด้วยการนำมาใช้เป็นวัสดุปิดผิวได้ทุกส่วนของพื้นที่ ตั้งแต่พื้น ผนัง หรือท็อปเคาน์เตอร์ส่วนต่างๆ โดยไม่ต้องกังวลถึงเรื่องความแข็งแรง แต่ข้อจำกัดเดียวของวัสดุจำพวกนี้ คือ การหลีกเลี่ยงการใช้งานภายนอก (Outdoor)
เนื่องจากมีเรซิ่นที่ไม่คงทนต่อ UV ของแสงอาทิตย์
ในการนำไปประกอบติดตั้ง ก็ง่ายดายโดยใช้วิธีติดตั้งเสมือนหินธรรมชาติ และยังมีข้อดีตรงที่ถึงแม้จะตกหล่นก็อาจจะเกิดการแตกหัก เสียหายได้ยากกว่าหินธรรมชาติ เนื่องจากมีพอลิเมอร์เรซิ่น ที่ให้ความแข็งแรง ในขณะที่ยังมีความยืดหยุ่น และน้ำหนักเบากว่าหินธรรมชาติ
สำหรับการออกแบบโปรเจ็กต์ใหญ่ที่ต้องใช้วัสดุหลายล็อตเป็นจำนวนมาก เทคโนโลยีการผลิตหินควอตซ์ก็มีฟอร์มูลาที่สามารถควบคุมโทนสี พื้นผิวให้ตรงตามที่ต้องการได้มากกว่าวัสดุหินธรรมชาติ ทำให้ได้ผลงานขั้นสุดท้ายที่ตรงตามดีไซน์ และควบคุมได้ง่ายกว่านั่นเอง
การติดตั้งและการบริการ
สำหรับท่านใดที่สนใจ ในการตอนการสั่งซื้อหรือติดตั้ง สามารถติดต่อผ่านตัวแทนจำหน่าย Ultima Living โดยจะมีทีมช่างผู้เชี่ยวชาญคอยดูแลหน้างานให้ตั้งแต่ต้นจนจบงาน เรียกได้ว่าเป็นการเลือกใช้วัสดุออกแบบที่สะดวก ปลอดภัยและง่ายดายได้อย่างครบวงจร
1.ลูกค้าสามารถเลือกสินค้าในคอลเล็กชันหรือสีสันที่ชื่นชอบได้ผ่านแคตตาล็อก หรืออาจจะส่งแบบ ขนาดพื้นที่ที่ต้องการออกแบบมาให้ทางทีมช่างประเมินราคา หรือขนาดของวัสดุคร่าวๆ
2.ทางแบรนด์จะส่งทีมช่างเข้าไปวัดขนาดพื้นที่บริเวณหน้างาน เพื่อให้ได้ข้อมูลและขนาดที่เหมาะสมมากที่สุด
3.ทางแบรนด์วางแผ่นแพทเทิร์น และตัดแผ่นหินควอตซ์ตามขนาดหน้างานจริงของลูกค้าให้พอดีและเหลือเศษน้อยมากที่สุด (โดยขั้นตอนนี้จะทำภายในโรงงาน)
4.ประกอบ ขัดสี หรือขัดลวดลายของวัสดุตามดีไซน์ที่ลูกค้าออกแบบหรือสรุปไว้
5.ติดตั้งที่หน้างานของลูกค้า โดยมีขั้นตอนประมาณ 3-4 ขั้นตอนเหมือนการติดตั้งหินธรรมชาติทั่วไป
***(ในส่วนของการรับประกัน จะมีการรับประกันพื้นผิวของหินควอตซ์ให้มากถึง 10 ปี (เฉพาะพื้นผิว) และรับประกันขั้นตอนของการติดตั้งให้เป็นเวลา 1 ปี)
หากคำนึงถึง หรือ กำลังมองหาคุณสมบัติของวัสดุที่โดดเด่นในเรื่องฟังก์ชันการใช้งาน ความคงทนแข็งแรง อีกทั้งยังมาพร้อมดีไซน์สุดยูนีคที่สร้างความหรูหรา และสร้างเอกลักษณ์ให้สเปซสวยงามไม่เหมือนใคร วัสดุหินควอตซ์ Stone Italiana อาจเป็นทางเลือกหนึ่งที่ตอบโจทย์การออกแบบพื้นที่ของคุณได้เป็นอย่างดี
สำหรับใครที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามขอข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
Facebook: Ultima Living
Instagram: ultima.living
e-mail: uliv.ultimaliving@gmail.com
Tel: 061-384-4414
รับข่าวสารเรื่องการออกแบบ สถาปัตยกรรม ไลฟ์สไตล์
ทางอีเมล ที่จะส่งตรงถึงคุณทุกเดือน ลงทะเบียนได้ที่ด้านล่างนี้เลย!