หากพูดถึงนวัตกรรมกรอบบานกระจกและอลูมิเนียมชั้นนำในท้องตลาด แน่นอนว่าแบรนด์สัญชาติญี่ปุ่นอย่าง TOSTEM จะต้องติดโผอย่างไม่ต้องสงสัย ด้วยฟังก์ชันที่รู้กันถึงความแข็งแรง ทนทาน ป้องกันเสียง และสร้างความปลอดภัยในแบบที่ประตูและหน้าต่างบ้านควรจะเป็น แต่ที่มากไปกว่านั้น TOSTEM เองยังใส่ใจในเรื่องของการดีไซน์เรื่อยมา ในแต่ละคอลเล็กชันเราจึงเห็นผลิตภัณฑ์ที่สวยงามเข้ากับบ้านสมัยใหม่ ใส่ใจรายละเอียดตามแบบฉบับงานดีไซน์ของประเทศญี่ปุ่น
ซึ่งล่าสุด ได้มีการเปิดตัว ‘ATIS’ คอลเล็กชันใหม่ที่เติมเต็มเรื่องสุนทรียะ ความสวยงาม ด้วยแนวคิด ‘Framing the Beauty of Living’ ที่มองว่าประตูหน้าต่างไม่ใช่เพียงผลิตภัณฑ์แต่เป็นศิลปะของการอยู่อาศัย สู่การดีไซน์กรอบบานอลูมิเนียมที่บางเฉียบ เพื่อเพิ่มมุมมองปราศจากสิ่งกีดขวาง รบกวนสายตาให้น้อยที่สุด พร้อมความเรียบง่ายแต่ซ่อนฟังก์ชันการใช้งานสุดพิถีพิถันเอาไว้ภายใน หลังจากที่ Dsign Something มีโอกาสได้ไปเยี่ยมชมสินค้าจริง ณ Flagship Showroom CDC เราขอมาสรุปสิ่งที่น่าสนใจให้ดูกัน!
ดีไซน์เพรียวบางกับการใช้งานที่ลงตัวมากขึ้น
จุดเด่นแรกที่เห็นได้ชัดที่สุด คือ การดีไซน์กรอบบานที่เรียบ และเพรียวบางกว่ารุ่นอื่น ๆ ด้วยการออกแบบเส้นกรอบบานและพื้นผิวบานหน้าต่างที่ไร้รอยต่อ และสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างนุ่มนวล อีกทั้งยังออกแบบอุปกรณ์ต่าง ๆ อย่างเช่น ระบบล็อกเสริมความปลอดภัย บานพับ หรือฝาปิดรูสกรู ให้ซ่อนอยู่ภายในกรอบ ไม่ให้มีชิ้นส่วนใด ๆ ยื่นออกมารบกวนสายตา ทำให้เราสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ภายนอกได้อย่างไร้ขีดจำกัดถือเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับอาคารหรือบ้านที่รายล้อมไปด้วยบริบทอันสวยงาม ใครที่รักในความเรียบง่าย หรือมินิมอลคงจะถูกใจได้ไม่ยาก
นอกจากดีไซน์ที่มุ่งเน้นสุนทรียะ ในด้านการใช้งาน ATIS ก็ตอบโจทย์ด้วยการพัฒนามือจับ L-Fit ที่จับถนัดและเบามือมากขึ้น โดยสามารถนำไปใช้งานได้ทั้งผลิตภัณฑ์ประตูและหน้าต่าง ตามความเหมาะสมของผู้ใช้งาน
ไม่บดบังสายตา และไม่ปิดกั้นการระบายอากาศ
สิ่งหนึ่งที่เราชื่นชอบเป็นพิเศษสำหรับผลิตภัณฑ์จากแบรนด์ TOSTEM คือ การคำนึงถึงการระบายอากาศ ซึ่งเป็นฟังก์ชันสำคัญที่บานหน้าต่างประตูบ้านแบบไทย ๆ ควรจะมี สำหรับรุ่น ATIS จึงมีการพัฒนาเทคโนโลยีมุ้งลวดขึ้นใหม่ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ด้วยการผลิตจากวัสดุที่มีน้ำหนักเบาและโปร่ง เส้นตาข่ายมีขนาดเล็กกว่าเส้นไนลอนทั่วไปถึง 40% รวมถึงมีช่องตาข่ายขนาดเล็กลง ป้องกันฝุ่นผงและแมลงตัวเล็ก ๆ ได้ดีขึ้น ในขณะที่ยังเปิดโอกาสให้ลมถ่ายเทเข้าสู่ภายในได้มากกว่ามุ้งลวดทั่วไปถึง 20% อีกทั้งยังแข็งแรง ทนทาน และสามารถถอดเข้า-ออก เพื่อทำความสะอาดได้ง่าย
เทคโนโลยีมุ้งลวดนี้ยังเป็นการออกแบบลิขสิทธิ์เฉพาะของทางแบรนด์ ซึ่งจะมีการยึดเข้ากับกรอบบานราวกับเป็นส่วนประกอบชิ้นเดียวกัน ทำให้ง่ายต่อการใช้งาน โดยที่เราสามารถเปิดหน้าต่างบานกระทุ้งและบานเปิดได้โดยไม่จำเป็นต้องเปิด-ปิด มุ้งลวดก่อน
ฮาร์ดแวร์ที่ทำให้การเปิด-ปิด บานเป็นเรื่องง่ายขึ้น
สำหรับนวัตกรรมที่แตกต่างจากผลิตภัณฑ์ตัวก่อน ๆ ไปอย่างสิ้นเชิงคงจะเป็นการพัฒนา PSS Balance Hardware ลิขสิทธ์เฉพาะที่ทำให้การเปิด ปิดหน้าต่างง่ายขึ้นทั้งการเลื่อนขึ้นและเลื่อนลง หรือที่เรียกว่าบาน Tilt & Slide โดยฮาร์ดแวร์จะทำหน้าที่รองรับน้ำหนักบานและคอยนำทิศทางในการเลื่อนบานหน้าต่าง ภายในวงกบหน้าต่างจะมีชิ้นส่วน กลไกและ Balancer ที่ทำงานร่วมกัน มาพร้อมการทำงาน 2 ขั้นตอนที่เลือกใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ ทำให้เราสามารถเปิดหน้าต่างระบายอากาศทิ้งไว้ได้ แม้ในวันที่มีฝนตกปรอย ๆ
เพิ่มความปลอดภัย ใส่ใจทุกรายละเอียด
นอกจากฟังก์ชันและความสวยงาม สิ่งที่เรียกได้ว่าสำคัญที่สุดสำหรับการใช้งานอาคาร และการอยู่อาศัย คือความปลอดภัยที่ต้องมาคู่กัน เพื่อช่วยลดความเสี่ยงจากเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ATIS เองก็ใส่ใจประเด็นสำคัญนี้ จึงดีไซน์ผลิตภัณฑ์ที่มีดีเทลในเรื่องความปลอดภัย อย่างการออกแบบมือจับแบบหมุน (Operator) ติดตั้งบริเวณวงกบ ทำให้ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องเอนตัวออกไปนอกหน้าต่างเพื่อเปิด-ปิดบานหน้าต่าง ช่วยทุ่นแรงในการเปิด อีกทั้งยังเหมาะสำหรับการใช้งานอาคารสูงเพื่อลดความเสี่ยงที่คนจะผลัดตกจากอาคารได้อีกด้วย
ATIS ยังมีการออกแบบหน้าต่างบานยก Tilt & Slide ที่มาพร้อมตัวหยุดบานนิรภัย ป้องกันการหนีบ หรือกระแทกมือขณะปิด เหมาะสำหรับบ้านที่มีเด็กน้อย ลดอุบัติเหตุจากการเปิดปิดบาน การันตีด้วยรางวัล Kids Design Award จากประเทศญี่ปุ่น รวมถึงมีอุปกรณ์เสริมอย่างขาตบแบบถอดออกได้ที่สามารถติดตั้งบริเวณธรณีประตู ทำให้เรียบเป็นผืนเดียวกับพื้น รองรับการใช้งานวีลแชร์ หรือการเดินของเด็กเล็ก
สำหรับผู้ใดที่สนใจ ผลิตภัณฑ์ ATIS มีบานประตูและหน้าต่างให้เลือกหลายหลายรูปแบบตามความเหมาะสมในการใช้งาน อีกทั้งยังมีสีกรอบบานให้เลือกมากถึง 5 สี ได้แก่ Natural White, Natural Silver, Shine Grey, Autumn Brown และ Natural Black สามารถปรับแต่งให้เข้ากับดีไซน์บ้านได้ราวกับเป็นงานศิลปะแห่งการอยู่อาศัย ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวพร้อมวางจำหน่าย 1 มกราคม พ.ศ.2565 โดยสามารถเยี่ยมชมสินค้าจริงได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปที่ Flagship Showroom CDC เวลา 10.00 น. – 19.00 น.
ATIS จาก TOSTEM ยังมีโปรเจกต์สำคัญที่ร่วมกับนักออกแบบและนักสร้างสรรค์ทั้ง 4 ท่าน คุณวสุ วิรัชศิลป์ สถาปนิกจาก Vaslab, คุณปอม-ธัชมาพรรณ ศิลปินนักวาดภาพประกอบ, คุณผ้าป่าน-สิริมา นักจัดการงานสร้างสรรค์และผู้ก่อตั้งบริษัท GroundControl และคุณพลอย-หฤษฎี อินทีเรียดีไซน์เนอร์จาก PHTAA Living Design ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งการเคลื่อนไหวในวงการดีไซน์เนอร์ที่น่าสนใจ ซึ่งเราอาจจะต้องรอติดตามกันต่อไปในอนาคต
รับข่าวสารเรื่องการออกแบบ สถาปัตยกรรม ไลฟ์สไตล์
ทางอีเมล ที่จะส่งตรงถึงคุณทุกเดือน ลงทะเบียนได้ที่ด้านล่างนี้เลย!