ส่องเทรนด์สี 2023 ปลุกพลังให้ฟื้นคืนชีพด้วยสีบันดาลใจจากธรรมชาติ

สำหรับการเริ่มต้นปีใหม่ของสถาปนิก และดีไซเนอร์ คงหนีไม่พ้นการอัพเดทเทรนด์ดีไซน์ใหม่ ๆ และหนึ่งในเทรนด์ที่ถูกพูดถึง และมาแรงอยู่เสมอก็คือเรื่องของสีสันในงานสถาปัตยกรรม โดยสีที่ใช้สำหรับการออกแบบในแต่ละปี มักจะถูกปรับเปลี่ยนไปตามความต้องการทางการรับรู้ อารมณ์ และความรู้สึก แล้วทำไมต้องตามกระแสของเทรนด์สี? เทรนด์สีของปีนี้มีที่มาจากไหน?

ช่วงที่ผ่านมาเราประสบเรื่องวิกฤตโรคระบาด โควิด-19 จนเกิดการเปลี่ยนแปลงในหลายด้านของโลกทั้งเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ซึ่งส่งผลลบต่อร่างกายและจิตใจของมนุษย์เรา ตามผลการค้นคว้างานวิจัยจาก Stress Reduction Theory จึงพบว่า ‘สีที่ได้รับแรงบันดาลใจจากธรรมชาติ’ หรือใกล้เคียงกับโทนสีจากธรรมชาติ เป็นหนึ่งสิ่งที่จะช่วยฟื้นฟูและปรับสมดุลให้กับมนุษย์ กลายเป็นเรื่องราวแห่งเทรนด์สีในปี 2023 ซึ่งทาง เบเยอร์ (Beger) ผู้นำด้านนวัตกรรมสี รักษ์โลก รักคุณ ก็มีทิศทางที่สอดคล้องกับเทรนด์นี้เช่นเดียวกัน พร้อมสร้างสรรค์คอนเซ็ปต์ของเทรนด์สี 2023 นี้ว่า BEING สีมีชีวิต” เสนอ 30 เฉดสีจากโทนธรรมชาติ และเรื่องราวต่าง ๆ เพื่อปรับเปลี่ยนหรือแต่งเติมการใช้ชีวิตในหลากหลายรูปแบบให้มีความสุขได้มากกว่าที่เคย

โดยเรื่องราวของเทรนด์สี 2023 นี้ จะเป็นทางเลือกให้กับ สถาปนิก ดีไซเนอร์ และผู้อยู่อาศัย ในการนำสีไปใช้สำหรับการออกแบบพื้นที่ให้ตอบโจทย์กับการใช้ชีวิต ส่วนจะมีรายละเอียด และเฉดโทนสีแบบไหนบ้าง ลองตามไปดูกัน!

สีจากโทนธรรมชาติสร้างบรรยากาศแห่งการฟื้นฟูร่างกายและจิตใจสู่สมดุล

หลังจากเหตุการณ์ความสับสนในช่วงหลายปีที่ผ่านมาได้ผ่อนคลายลง มนุษย์ต่างโหยหาถึงการใช้ชีวิตที่กลับไปสู่จุดเริ่มต้น หรือสัมผัสจากธรรมชาติ เพื่อช่วยจัดการอารมณ์และความรู้สึกให้มีความหวัง ปรับสมดุลของร่างกายและจิตใจให้ดีขึ้น พร้อมนำไปสู่การรับมือกับความท้าทายใหม่ ๆ และมองโลกในแง่ดีอยู่เสมอ

การลอกเลียนรูปแบบจากธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็น สี วัสดุ เส้นสาย หรือแม้กระทั่งการออกแบบให้มองเห็นพื้นที่ภายนอกได้อย่างสบายตา ก็มีส่วนสำคัญที่จะช่วยบำบัดและฟื้นฟูจิตใจให้สบาย ผ่อนคลายขึ้น ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเทรนด์ที่สามารถนำไปปรับใช้กับพื้นที่ต่าง ๆ ได้อย่างลงตัว

บ้านฟังก์ชันยืดหยุ่นที่มาพร้อมกับวัสดุและโทนสีจากธรรมชาติ

หลายปีที่ผ่านมานี้ บ้านและที่ทำงานกลายมาเป็นสถานที่เดียวกัน ทำให้หลายคนเริ่มหันมาปรับเปลี่ยนห้องให้ตอบโจทย์ทั้งการอยู่อาศัยและการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพไปพร้อมกัน เริ่มจากการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ในโทนสีที่อบอุ่น นุ่มสบาย สามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานได้ตามต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการพักผ่อน หรือการทำงาน และต้องง่ายต่อการทำความสะอาดเพื่อไม่เป็นแหล่งสะสมเชื้อโรค รวมไปถึงตามมุมห้องจะมีการจัดวางต้นไม้ต่าง ๆ เพิ่มพื้นที่สีเขียวให้รู้สึกสดชื่นอยู่เสมอ นอกจากนี้ยังมีการเสริมวัสดุอารมณ์ธรรมชาติมาใช้ ทั้ง ไม้ หิน พร้อมสีกลุ่มเอิร์ธโทน เช่น สีเขียว Spring Creek, สีขาว Jamila, สีเขียวเข้มอมน้ำเงิน Kentucky Blue Grass, สีน้ำตาลแดง Brick Dust หรือ สีเบจ Russo Beige เป็นต้น เพื่อเสริมความเป็นธรรมชาติ ช่วยเรื่องความผ่อนคลาย สมาธิ และความสงบได้เป็นอย่างดี

สร้างความรื่นรมย์บนพื้นที่คอนโดมิเนียมด้วยสีโทนอุ่นธรรมชาติ

หลายคนเลือกที่จะอยู่อาศัยภายในคอนโดมิเนียม หรือ อาคารต่าง ๆ บนพื้นที่ใจกลางเมือง ซึ่งสะดวกต่อการเดินทาง แต่ด้วยขนาดอาจไม่ใหญ่เท่ากับบ้านพักอาศัย การปรับพื้นที่ให้มีความอเนกประสงค์มากที่สุดจะตอบโจทย์การใช้งานได้มากขึ้น เช่น พื้นที่ส่วนกลางของห้องให้เป็นส่วนของการนั่งทำงาน รับประทานอาหาร และพักผ่อนในพื้นที่ส่วนเดียวกัน นอกจากนี้ควรเสริมพื้นที่สีเขียวต้นไม้ริมระเบียง หรือรูปภาพเพื่อให้รู้สึกใกล้ชิดกับธรรมชาติมากขึ้น ทั้งนี้ควรเลือกใช้สีสันให้กับภายในห้องมีโทนอุ่นและเป็นธรรมชาติ เช่น สีเทาเข้ม Mason Gray, สีน้ำตาลกะปิ Barrington Brown หรือ สีขาว Jamila เป็นต้น  

เพิ่มสมาธิ เติมความสร้างสรรค์สดใสให้กับพื้นที่ทำงาน

หลังจากความวิกฤตผ่อนคลายลง การกลับเข้าสู่การทำงานในออฟฟิศก็เริ่มต้นอีกครั้ง เพราะฉะนั้นการปรับพื้นที่ทำงานให้ดูผ่อนคลายมีสมาธิเสมือนการอยู่บ้าน แต่ยังคงเพิ่มความรู้สึกกระฉับกระเฉง ความ Productive ในการทำงาน ก็จะช่วยให้ผลงานออกมาอย่างสร้างสรรค์ขึ้น การออกแบบให้สเปซมีวัสดุหลากหลาย เช่น ไม้ คอนกรีต เหล็ก หิน หรือ การสร้างให้ทุกพื้นที่สามารถนั่งทำงานร่วมกับแผนกอื่นได้อย่างไม่มีข้อจำกัด ช่วยสร้างประสบการณ์การทำงานแบบใหม่ให้มีปฏิสัมพันธ์มากขึ้น แต่ยังออกแบบให้มีระยะห่างทางสังคมเหมือนเดิม นอกจากนี้ การตกแต่งด้วยรูปภาพ หรือวิวธรรมชาติที่สามารถมองเห็นได้จะช่วยให้เกิดความผ่อนคลายมากขึ้น สำหรับเฉดสีที่ช่วยเพิ่มสมาธิ กระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ และสร้างความผ่อนคลาย เช่น สีม่วง Primo Purple, สีเขียว Spring Creek หรือ สีเบจ Russo Beige เป็นต้น

เฉดสีอ่อนละมุนสำหรับพื้นที่ปรับสมดุลร่างกายและจิตใจ

จากเหตุการณ์โรคระบาดทั่วโลก กับการก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุของประเทศไทย ทำให้เรื่องสุขภาพกายและจิตใจ กลายเป็นเรื่องสำคัญที่ผู้คนหันมาใส่ใจ พื้นที่ปรับสมดุลทางร่างกายอย่าง โรงพยาบาล หรือ พื้นที่ออกกำลังกาย จึงต้องปรับเปลี่ยนสเปซให้ดูน่าใช้งาน และรู้สึกผ่อนคลายได้มากขึ้น ด้วยการใช้กระจกบานใหญ่ หรือช่องหน้าต่าง-ประตูบานใหญ่ที่มองเห็นแสงจากภายนอกได้ เพื่อดึงเอาบรรยากาศธรรมชาติเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งกับตัวอาคาร หรือการสร้างแพทเทิร์นพื้น และผนังให้เป็นรูปเรขาคณิต พร้อมออกแบบให้เป็นสวนแนวตั้ง สร้างความสดชื่นให้สเปซภายในได้อีกด้วย รวมไปถึงการเลือกใช้วัสดุภายในอาคารจะต้องเป็นสีสันสว่างที่ให้ความรู้สึกสะอาด เช่น วัสดุไม้ วัสดุเมลามีน หรือบล็อกแก้ว เป็นต้น และการทาสีก็ควรเลือกใช้สีที่มีเฉดอ่อนละมุน เช่น สีน้ำตาลอมเทา Shade of Grey, สีม่วงอ่อนอมเทา Lilac Dew, สีโอวัลตินอ่อน Aged Linen, สีเทาอมเขียว Barston, สีเขียวตุ่น Dusty Loden หรือ สีเทาเข้ม Mason Gray เป็นต้น เพื่อให้สีวัสดุและสีสันของอาคารดูมีความนุ่มนวลกลมกลืน ช่วยลดความตื่นตระหนกและฟื้นความสดใสให้กับร่างกายและจิตใจได้เป็นอย่างดี

สร้างความสนุกทางการเรียนรู้ด้วยเส้นสายฟรีฟอร์มและสีสันสดใส

ด้วยโรงเรียนยุคสมัยใหม่มีพื้นที่การเรียนรู้อยู่มากมาย เช่น พื้นที่จัดแสดงดนตรี การเรียนรู้ทางด้านอาหาร ศิลปะ กีฬา พื้นที่ธรรมชาติ และสนามเด็กเล่น ซึ่งเป็นมากกว่าห้องเรียนทั่วไปแล้ว ดังนั้นจึงต้องสร้างพื้นที่เหล่านี้ให้รู้สึกปลอดภัย และสนุกสนานกับการเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา การออกแบบจึงต้องเน้นไปที่การใช้เส้นสายฟรีฟอร์ม มีแสงธรรมชาติจากภายนอกเข้ามาอย่างเพียงพอ รวมถึงใช้เฟอร์นิเจอร์ในโทนอุ่น และสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือการตกแต่งด้วยวัสดุธรรมชาติ เสริมด้วยสีสันสดใสต่าง ๆ เช่น สีเหลืองอ่อน Summer Heat, สีชมพูอิฐ Juicy Peach หรือ สีน้ำเงิน Deep Dark Shadows เป็นต้น ซึ่งช่วยเพิ่มความสนุกสนาน พร้อมเรียนรู้ คลายเครียด และความวิตกกังวลต่าง ๆ

ผ่อนคลายไปกับร้านคาเฟ่ ที่พัก ด้วยสีธรรมชาติที่ให้ความรู้สึกหนักแน่น

ในเวลานี้ผู้คนเริ่มโหยหาพื้นที่สำหรับพักผ่อนภายนอกบ้านกันอย่างมากมาย คาเฟ่ ร้านอาหาร หรือโรงแรม ต่างก็เป็นจุดหมายที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก โดยการออกแบบตามเทรนด์นี้เน้นไปที่ความผ่อนคลายด้วยการใช้ต้นไม้เข้ามาเติมแต่งมุมต่าง ๆ ประกอบกับการเล่าเรื่องราวทางวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ ภูมิปัญญา ผ่านอาหาร เฟอร์นิเจอร์ สเปซ ผสมผสานกับสไตล์โมเดิร์น พร้อมสีสันธรรมชาติที่ให้ความหนักแน่น อย่างเช่น สีของแดงอิฐ Earth Henna, สีดำ Big Ben หรือสีเขียวเข้มใบไม้ Mercedes เป็นต้น ทำให้บรรยากาศดูน่าสนใจ ดึงดูดผู้คนให้เข้ามาพักผ่อน บันทึกภาพและความประทับใจกลับไปเพื่อนึกถึงได้เสมอ 

เทรนด์สีกับเรื่องราวของกาลเวลา

สำหรับเทรนด์สี 2023 จาก เบเยอร์ ได้แรงบันดาลใจจากเรื่องราวความสับสนในหลายปีที่ผ่านมานี้ สู่ช่วงเวลาแห่งความคลี่คลาย ผ่อนคลาย กลับมาสู่การเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง โดยแต่ละปีเทรนด์สีจะมีเรื่องราวที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้น การเลือกสีที่นำมาใช้ในการออกแบบ ตกแต่ง จึงขึ้นอยู่กับความประทับใจและความรู้สึกที่มีต่อเรื่องราวนั้น ๆ รวมทั้งเป็นไอเดียและแรงบันดาลใจให้เลือกใช้สีได้อย่างไม่มีวันล้าสมัย พร้อมสร้างสรรค์ความน่าสนใจให้กับสถาปัตยกรรมได้อีกด้วย

สำหรับสถาปนิก นักออกแบบ หรือเจ้าของบ้านที่สนใจข้อมูลเทรนด์สีเพิ่มเติม ติดตามรายละเอียดหรือสอบถามได้ที่ >> http://bit.ly/3IQ4S7Q หรือ โทร. 02 815 5888

**ชื่อโทนสีจาก Beger Color BeYours Trends 2023

Writer
Watsapon Vijitsarn

Watsapon Vijitsarn