ก่อนจะมาเป็นบ้าน Modern สีขาวหลังนี้ บ้านเดิมตั้งอยู่ในบริบทชุมชนเก่าย่านประชาชื่น ที่ดินอยู่ในบริเวณแยก มีรถสัญจรตลอดทั้งวัน บ้านเดิมเป็นบ้านครึ่งไม้ครึ่งปูน อายุประมาณ 30-40 ปี เริ่มโทรมผุพัง นอกจากนั้นในช่วงหน้าฝน บริเวณบ้านจะอยู่ในพื้นที่ ที่มีระดับต่ำ ทำให้ได้รับปัญหาผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วมบ้าง บ้านหลังเดิมมีฟังก์ชั่นที่ไม่ตอบโจทย์กับการใช้งานใน และ Life Style ในปัจจุบัน จึงมีความประสงค์ที่อยากจะสร้างบ้านหลังใหม่ เป็นของขวัญให้กับคุณพ่อ คุณแม่ในวัยเกษียณ และตอบโจทย์กับการใช้ชีวิตในปัจจุบัน
ก่อนเริ่มทำการออกแบบคุณนิ่มได้เล่าความต้องการว่า “นิ่มอยากได้บ้านที่ทันสมัย เป็นสมัยใหม่ บ้านที่เป็น Modern เป็นแก่นแท้ของ Modern จริงๆ นิ่มชอบความเป็น ZEN นิดๆ ไม่ต้องการบ้านที่หวือหวามาก ขอแบบเรียบง่าย ต้องเป็นบ้านแห่งการพักผ่อน เปรียบเสมือนบ้านเป็นแหล่งพลังงานที่ดี เหมาะสำหรับการพักกาย พักใจ ในเรื่องของ Life Style ในครอบครัว ครอบครัวนิ่มเป็นครอบครัวที่เรียบง่าย รักต้นไม้ อยากให้บ้านที่ออกแบบมีความเฉพาะตัว สะท้อนตัวตนได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญต้องเป็นบ้านที่ง่ายต่อการดูแลรักษา “
เนื่องจากบ้านอยู่ในตำแหน่งที่เป็นทางแยก มีการสัญจรอยู่ตลอดเวลา คุณนิ่มต้องการให้บ้านมีความเป็นส่วนตัวมากๆ ปลอดภัย ปกปิด ปิดบังมุมมองทางสายตาจากภายนอกได้อย่างมิดชิด ชอบ Space-function การใช้งานที่ไม่ซับซ้อน ภายในต้องการความโปร่งโล่ง ทุกห้องสามารถมองเห็นกันได้ เพื่อให้ทุกคนในครอบครัว มีปฏิสัมพันธ์ที่ดี และให้ความรู้สึกถึงความอบอุ่นแบบพร้อมหน้าพร้อมตากัน สุดท้ายต้องการพื้นที่ปลูกต้นไม้เยอะๆ มี Court Yard กลางบ้านด้วย” คุณนิ่มกล่าว
จากโจทย์ความต้องการ ทำให้รู้สึกว่า เจ้าของบ้านทำการบ้านมาดี ข้อมูลค่อนข้างละเอียด ชัดเจน ความท้าทายในการออกแบบบ้านหลังนี้คือ การออกแบบบ้านที่สอดแทรกแก่นแท้ของ Modern ผสมผสานกับกลิ่นอายของ ZEN เข้าด้วยกัน ภายใต้บริบทและข้อจำกัดที่แตกต่างกัน จึงนำไปสู่การสร้างภาษาทางสถาปัตยกรรมที่มีความเฉพาะตัว
เมื่อได้รับโจทย์ความต้องการที่ชัดเจนแล้ว โปรเจคนี้จึงเริ่มต้นจากการทดลองการออกแบบ Sketch Design ทำแบบร่างแปลน และ Mass Model เบื้องต้นไปคุยและนำเสนอไอเดียกับทางเจ้าของบ้าน อธิบายข้อดี ข้อเสียในแต่ละไอเดียให้กับเจ้าของบ้านทราบ จากนั้นได้สรุปประเด็นต่างๆ เพื่อหาแนวทางการพัฒนาแบบในขั้นต่อไป 3 แนวทางหลัก ดังนี้
แนวทางแรก : เป็นเรื่องของการสร้างความเป็นส่วนตัว (Privacy) ทั้งในรูปแบบการวางผังและรูปทรงของตัวอาคาร การออกแบบเริ่มต้นจาก การจัดเรียงกลุ่มก้อนของฟังก์ชั่น ให้เป็นลักษณะของ U-Shape ด้านหลังของบ้านหันไปด้านทิศใต้และทิศตะวันตก เพื่อป้องกันความร้อนจากแสงแดด Space ตรงกลาง เปิด Court Yard กลางบ้าน หันไปด้านทิศเหนือ เพื่อสร้างเป็นส่วนตัว และสร้างบรรยากาศภายในให้ร่มรื่น โอบล้อม อบอุ่น
ลักษณะการวางผังและรูปทรงของชั้น 1 และชั้น 2 ออกแบบให้เป็นลักษณะ U-Shape เหมือนกัน มีความเป็นส่วนตัวเหมือนกัน และแตกต่างกันตรงที่ชั้น 1 บริเวณที่เป็น Court Yard จะเปิดมุมมองหันไปด้านทิศเหนือด้านหน้าบ้าน และชั้น 2 บริเวณที่เป็น Court Yard จะเปิดมุมมองหันไปด้านทิศตะวันออก ต้องการให้ Space ด้านในของตัวบ้านเกิดมุมมองทีต่างกัน อาคารถูกลดทอนความทึบตันจากการเปิดมุมมองต่างๆ สามารถรับลม รับแสงแดดจากภายนอกได้
ภายนอกของตัวบ้านออกแบบให้มีลักษณะเป็นก้อนสี่เหลี่ยม วางซ้อนทับกัน ผนังภายนอกทึบตัน เปิดช่องแสงเท่าที่จำเป็น เป็นการเปิดช่องแสงอย่างระมัดระวัง เพื่อให้บ้านมีความปกปิด มิดชิดต่อสายตาภายนอก ภายนอกออกแบบให้มีเส้นระนาบที่เรียบง่าย ลดทอนสิ่งที่ไม่จำเป็นออก ต้องการสื่อถึงความเป็นส่วนตัว ความนิ่งสงบ ให้มากที่สุด
จากการวางผังรูปทรงอาคารในลักษะนี้ มีผลดีต่อการระบายอากาศของตัวอาคารเป็นอย่างยิ่ง ทำให้เกิดการระบายอากาศในรูปแบบของ cross ventilation และ stack ventilation ส่งผลให้มีการถ่ายเทอากาศอยู่ตลอดเวลา
แนวทางที่สอง : คือการเปิดมุมมองทางสายตา โดยจุดประสงค์หลักในการออกแบบ Space ภายใน ต้องการสร้างความรู้สึกที่แตกต่างกับภายนอกอย่างสิ้นเชิง เมื่ออยู่ภายในบ้าน ต้องการให้รู้สึกถึงความโปร่งโล่ง เบาบาง ผ่อนคลาย ชวนพักผ่อน โดยเริ่มจากการเจาะช่องเปิด ช่องแสง ที่มีขนาดใหญ่ ออกแบบผนังทึบให้น้อยเท่าที่จำเป็น Space ภายในสามารถมองเห็นความเคลื่อนไหวของทุกคนในบ้าน เพื่อเป็นการเติมเต็มความอบอุ่นและเพิ่มปฎิสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัว
แนวทางที่สาม : คือ การสอดแทรกพื้นที่ธรรมชาติให้เป็นหนึ่งเดียวกันกับบ้าน ธรรมชาติเป็นอีกหนึ่งหัวใจสำคัญหลักแก่นแท้ของ Modern และ Zen ซึ่งธรรมชาติในความหมายของสถาปนิกคือ ที่ว่าง ต้นไม้สิ่งมีชีวิต ร่มเงา ท้องฟ้า สายลม แสงแดด ซึ่งออกแบบให้ทุกฟังก์ชั่น สัมพันธ์ใกล้ชิดกับธรรมชาติ เข้าถึงธรรมชาติให้เร็วที่สุด เริ่มจากบริเวณด้านหน้าบ้าน จะประกอบไปด้วยการออกแบบจัดสวน 2 ส่วน ส่วนแรกด้ายซ้ายมือเป็นสวนสำหรับห้องทำงาน เพื่อบดบังมุมสายตา เพิ่มความร่มรื่นให้กับห้องทำงาน ทำให้บรรยากาศของการทำงานดูผ่อนคลายมากขึ้น ส่วนที่สอง เป็นสวนสำหรับมุม Living เมื่อนั่งอยู่ภายใน Living จะทำให้รู้สึกใกล้ชิดกับธรรมชาติ รู้สึกเหมือนการได้นั่งอยู่ท่ามกลางสวน ถัดมา เป็นส่วนของ Pantry และ Dining area เป็นอีก Spaceที่ เป็น ไฮไลท์ของบ้าน Space นี้ออกแบบให้เป็น double space ให้ความรู้สึก โปร่งโล่ง สบาย สามารถมองเห็นวิว สวนได้สามด้าน อยู่ติดกับ Court Yard สามารถมองเห็นสวน และมองเห็นห้องต่างๆ ได้ทั้งชั้น 1 และชั้น 2
เมื่อขึ้นบันไดมาถึงชั้น 2 จะสัมผัสได้ถึงความโปร่งโล่ง วิวแรกที่มองเห็นจะเป็นต้นไม้ประธานจาก Court Yard กลางบ้าน และระเบียงที่โรยด้วยหินกรวด ระหว่างทางเดินผ่านเข้าห้อง Master bedroom ออกแบบให้เห็นวิวจาก Court Yard กลางบ้าน และระเบียงที่โรยด้วยหินกรวดสีขาว เห็นท้องฟ้า เห็นแสงแดดที่ส่องผ่านต้นไม้ เกิดความเคลื่อนไหวของร่มเงาบนผนังสีขาว ทำให้เกิดความผ่อนคลาย สดชื่น ก่อนเข้าห้องห้อง
ในส่วนของห้องนอน Master bedroom ออกแบบ Space ภายในโปร่งโล่งเช่นเดียวกัน ผนังด้านหน้าถูกปิดทึบ เหลือไว้เพียงช่องแสงที่มาจากหลังคา เพื่อให้แสงสองถึงสวนหินได้ ช่องเปิดอีกด้านติดกับ Court Yard กลางบ้าน สามารถมองเห็นต้นไม้ประธานได้เช่นกัน และสามารถมองเห็นห้องนอนอีกฝั่งได้ มองลงไปเห็นถึงความเคลื่อนไหวของชั้น 1 ได้
ความน่าสนใจของการออกแบบบ้านหลังนี้การใช้ส่วนประกอบให้น้อยที่สุดเท่าที่จำเป็น ลดทอนสิ่งที่ไม่สำคัญ การเลือกใช้วัสดุอย่างตรงไปตรงมา ใช้วัสดุให้น้อย เคารพในความเป็นธรรมชาติ Space แสดงถึง ความโปร่งโล่ง ผ่อนคลาย เป็นส่วนตัว ความนิ่งสงบ การใช้แสงเงาจากธรรมชาติ คือหัวใจในการออกแบบ บอกเล่าเรื่องราวต่างๆ ภายในตัวบ้าน
เนื่องจากโจทย์ความต้องการมีฟังก์ชั่นการใช้งานเต็มพื้นที่ ความยากของโปรเจคนี้ คือ การสร้างพื้นที่ว่าง การสอดแทรกพื้นที่ว่างในทุกๆ Space และเพิ่มพื้นที่ทางธรรมชาติให้ได้มากที่สุด นอกจากนั้นแล้วการลดทองรายละเอียด สิ่งที่ไม่จำเป็นออกเพื่อให้บ้านมีความเรียบง่าย ตรงไปตรงมา ถือเป็นเรื่องที่ยาก ไม่ตอบโจทย์ในการแก้ปัญหาสภาพภูมิอากาศได้ ทำให้มีการ Design Detail ใหม่ๆ ขึ้นมาแก้ปัญหาแทน ซึ่งต้องมีความพิถีพิถันในการซ่อน Detail ให้ปราณีตให้ ราบเรียบ หมดจดที่สุด
*คำอธิบายทั้งหมดโดยผู้ออกแบบ (Text description by the architects)
Location : ซอยประชาชื่น 12 แยก 1-2-15 แขวง ทุ่งสองห้อง เขต หลักสี่ กรุงเทพ
Gross Built Area: 385 ตารางเมตร
Completion Year : 2021
Architect : PONGPAT ARCHITECT CO., LTD
Owner:วัชรานันท์ รัตนกุสุมภ์
Construction: ไท อธิอาภานนท์
Contractor:PIM – POOM CONSTRUCTION LTD., PART
Photographer credits: รุ่งกิจ เจริญวัฒน์
รับข่าวสารเรื่องการออกแบบ สถาปัตยกรรม ไลฟ์สไตล์
ทางอีเมล ที่จะส่งตรงถึงคุณทุกเดือน ลงทะเบียนได้ที่ด้านล่างนี้เลย!