ในขณะที่รถติดอยู่กลางถนนบรมราชชนนี เราบังเอิญได้พบกับก้อนหินขนาดใหญ่ที่มีลวดลายต่อกันจนสะดุดตา แต่เมื่อมองดูอย่างตั้งใจ กลับกลายเป็น Pinklao Marble โชว์รูมวัสดุหิน ที่จำหน่ายทั้ง หินอ่อน หินแกรนิต และหินสังเคราะห์ พร้อมลวดลาย และผิวสัมผัส ที่มีให้เลือกมากมายจากหลายประเทศ รวมไปถึงยังทำหน้าที่ให้คำปรึกษา ออกแบบ แปรรูป และติดตั้งวัสดุหิน ให้ตอบกับโจทย์ต่อความต้องการของสถาปนิก และนักออกแบบได้ทุกมิติ
ผู้นำเข้าวัสดุหินมานานกว่า 30 ปี
ในปัจจุบัน Pinklaomarble บริหารโดย ‘แชมป์ วัชร-พฤกษานานนท์’ และ ‘เมย์-อริสา พฤกษานานนท์’ ทายาทรุ่นที่ 2 ผู้นำเข้า แปรรูป ออกแบบ ติดตั้ง และเป็นที่ปรึกษาด้านลวดลาย ผิวสัมผัสของวัสดุหินอ่อน หินแกรนิต และหินสังเคราะห์จากเหมืองทั่วโลก เพื่อคัดสรรให้กับสถาปนิก และนักออกแบบนำไปติดตั้งอาคารทั้งภายใน-นอก และเฟอร์นิเจอร์ เพื่อสร้างจุดเด่น และความน่าสนใจให้กับงานออกแบบมากยิ่งขึ้น
“สำหรับหินอ่อนธรรมชาติต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญเข้าไปคัดเลือกสรรในเหมืองต่างประเทศ เพราะสถาปนิกหลายคนต้องการหินอ่อนที่มีความแตกต่าง สวยงาม และมีรายละเอียดสูง แถมยังมีเรื่องของคุณภาพอีกด้วย ซึ่งบางครั้งใช้เวลาข้ามปีกว่าจะได้หินแต่ละก้อนมา”
อาคารก้อนหินที่ลอยอยู่บนอากาศ
ในช่วงสมัยคุณพ่อ ทางแบรนด์เน้นจำหน่ายวัสดุหินอ่อนให้กับโรงแรม และอาคารขนาดใหญ่เป็นหลัก จนกระทั่งเมื่อ 5 ปีที่ผ่านมา ทางแบรนด์ต้องการจำหน่ายหินอ่อนแบบปลีก และต้องการให้ลูกค้าสามารถเข้ามาสัมผัสหินได้มากขึ้น จึงเป็นที่มาของโชว์รูมหินแห่งใหม่ย่านปิ่นเกล้า
โดยอาคารโชว์รูมหลังนี้ได้สถาปนิกจาก Pava Architect เข้ามาออกแบบให้อาคารมีทั้งหมด 3 ชั้น ที่ตั้งใจให้กรอบของอาคารชั้น 3 เสมือนกับหินที่ถูกผ่าออก พร้อมติดตั้งวัสดุหินอ่อน Book Match Marble ลาย SANDRO ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากเทคนิคการตัดหินอ่อนในโรงงาน ทั้งนี้ยังให้ก้อนอาคารชั้น 3 Cantilever (คานปลายยื่น) ไปบนผนังกระจกชั้น 2 และชั้น 1 เพื่อให้รู้สึกถึงก้อนหินขนาดใหญ่กำลังลอยตัวอยู่
ภายในชั้น 1 ถูกออกแบบให้ฝ้าเพดานสูง พร้อมจัดวางหินอ่อนสีสันต่างๆ ขนาดสูง 3 เมตร เรียงเป็นแถวตอนลึก โดยพยายามให้สีสันภายในอาคารเป็นสีอ่อน เพื่อขับเน้นให้หินทุกชิ้นโดดเด่นขึ้นมา นอกจากนี้ยังมีหินแกรนิต หินสังเคราะห์ขนาดเล็ก และแบบยาวถูกจัดวางไว้บริเวณช่องข้างบันได รวมไปถึงบริเวณภายนอกอาคารยังมีหินขนาดเล็ก และแผ่นหินขนาดใหญ่ตั้งโชว์ไว้ ซึ่งไม่ว่าจะอยู่ส่วนไหนของอาคาร ลูกค้าที่แวะเวียนเข้ามาก็สามารถสัมผัสวัสดุหินได้ตลอดเวลา
สำหรับพื้นที่ชั้น 2 เป็นส่วนของออฟฟิศ และห้องประชุม ที่สามารถมองเห็นพื้นที่ชั้น 1 ได้ตลอด ในพื้นที่ชั้น 3 เป็นพื้นที่สำหรับพักผ่อนของผู้บริหาร โดยชั้นนี้เลือกใช้วัสดุพื้น ท๊อปเฟอร์นิเจอร์ และห้องน้ำ เป็นวัสดุหินอ่อน หินแกรนิต และหินสังเคราะห์ทั้งหมด ทั้งนี้ยังมีสวนภายในให้สามารถรับลมธรรมชาติหลังจากทำงานมาอย่างเหน็ดเหนื่อย
“เราอยากนำเสนอตัวโชว์รูมนี้ว่า หินอ่อนธรรมชาติ หินแกรนิต และหินสังเคราะห์ สามารถติดตั้งได้ทุกส่วนของอาคาร”
เบื้องหลังของความสวยงามของหิน
เนื่องจากพื้นที่โชว์รูมหลักจัดแสดงหินอ่อน หินแกรนิต และหินสังเคราะห์ ไม่เพียงพอ จึงได้สร้างโชว์รูมกึ่งโรงงานไว้ในส่วนด้านหลังที่ห่างจากโชว์รูมหลักเพียง 600 เมตร โดยในพื้นที่ได้จัดวางแผ่นหินขนาดใหญ่หลายชนิด ให้สามารถเดินเลือกชมได้แบบครบครัน นอกจากนี้ยังเป็นพื้นที่สำหรับผลิต แปรรูป และดีไซน์หินชนิดต่างๆ ด้วยวิธีการเจาะ ฉลุ ปั่นแปลง ปรับผิว ผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์ หรือ เครื่อง CNC เพื่อให้ได้วัสดุหินตามรูปแบบที่ลูกค้าต้องการ
หินอ่อนลวดลายเสมือนเนื้อวัวเกรดดี
ด้วยปริมาณหินอ่อนที่มีหลากหลายชนิด ทางโชว์รูมจึงแนะนำหินที่น่าสนใจมาให้ได้ชมกัน ดังนี้
CALACATTA
หินอ่อนที่มีราคาแพงที่สุดคงจะหนีไม่พ้น CALACATTA จากเหมืองอิตาลีเก่าแก่ ที่มีเส้นสายสีดำพาดผ่านไปบนพื้นหลังสีขาว หากแผ่นไหนมีเส้นสายขนาดใหญ่ และมีสีขาวใส เสมือนกับลายแร่ของเนื้อวัวชั้นดีก็ยิ่งมีราคาสูง และสร้างจุดเด่นให้กับอาคารได้เป็นอย่างดี
STATUARIETTO
นอกจาก CALACATTA ภายในเหมืองอิตาลีเก่าแก่นี้ยังมี หินอ่อน STATUARIETTO ที่เส้นสายทั้งขนาดเล็ก และใหญ่ เป็นสีเทาอ่อนไปทั่วทั้งแผ่น เมื่อนำไปติดตั้งภายในหรือภายนอกก็ให้ความรู้สึกถึงความเบาสบาย และความหรูหราไปพร้อมๆ กัน
HONEY ONYX
หินอ่อนสีน้ำตาลอ่อนจากประเทศอิหร่าน ที่มีเส้นสายยาวสลับสีเข้มอ่อน ไปทั่วทั้งแผ่น โดยความพิเศษหินชนิดนี้คือมีความโปร่งแสงจึงทำให้วัสดุมีความเปล่งประกายกว่าหินชนิดอื่นๆ เมื่อนำไปติดตั้งภายในหรือภายนอกให้ความรู้สึกถึงความเป็นธรรมชาติเสมือนกับผืนดินที่กำลังส่องสว่างอยู่
ARABESCATO
หินอ่อนจากประเทศอิตาลี ที่มีเส้นสายสีดำลวดลายคล้ายควันขนาดใหญ่ บนพื้นหลังสีขาว เหมาะกับคนที่ชื่นชอบลายเส้นที่ชัดเจน ซึ่งภายในบางส่วนของตึกมหานครก็ได้ใช้หินอ่อนลวดลายนี้ในการตกแต่งเช่นเดียวกัน
“หินอ่อนเป็นวัสดุที่มีลวดลาย และสีสันที่แตกต่างกัน จึงแนะนำว่าควรเดินสัมผัสที่โชว์รูมจะดีกว่า”
หินสังเคราะห์ที่ได้จากการรีไซเคิล
นอกจากนี้ยังมีหินแกรนิตธรรมชาติ และหินสังเคราะห์ อย่าง หินอัด หินควอตซ์ และหินเทียม ที่มีสีสัน และลวดลายสม่ำเสมอกันทั้งแผ่น โดย การผลิตหินสังเคราะห์ เกิดจากการตัดหินอ่อนขนาดใหญ่ให้เป็นแผ่นสี่เหลี่ยม ซึ่งจะเหลือเศษเล็กๆ อยู่เสมอ จึงนำชิ้นส่วนเหล่านี้มาบดอัดผสมเข้าด้วยกัน และผสานกันด้วยเรซิ่น จนเกิดเป็นวัสดุชิ้นใหม่ที่มีความคงทน แข็งแรง ไร้รูพรุน และดูดซึมน้ำต่ำ จึงเหมาะกับการปูเคาน์เตอร์ครัว และห้องน้ำ ซึ่งแตกต่างกับหินอ่อนที่ต้องเคลือบน้ำยาป้องกันเพื่อไม่ให้คราบสิ่งสกปรกซึมลงไปในเนื้อผิวหินได้
หมดกังวลเรื่องการหลุดร่อน
การติดตั้งหินแบ่งออกเป็น 2 วิธี ได้แก่
สำหรับการติดตั้งหินภายนอกควรใช้เทคนิค Alloy Dry-process หรือการติดตั้งแบบแห้ง โดยการล็อคหินอ่อนไปบนอะลูมิเนียมอันลอย 6-8 จุด เข้ากับโครงสร้างอาคาร เพื่อให้ยึดติดแน่น และไม่เกิดคราบปูนเมื่อใช้ไปในระยะหนึ่ง นอกจากนี้ต้องทากันซึมทุกด้านของแผ่นหิน ซึ่งช่วยไม่ให้เกิดการหลุดร่อน และมีความแข็งแรงในระยะยาว
สำหรับการติดตั้งหินภายใน และหินทั่วไปควรใช้เทคนิค Wet คือการติดตั้งด้วยระบบปูนกาว เนื่องจากไม่หลุดร่อนได้ง่ายเหมาะกับพื้นผนังทุกแบบ
นอกจากนี้ไม่ควรติดตั้งวัสดุหินให้ชิดกัน เพราะประเทศไทยมีความร้อนชื้น อาจจะทำให้วัสดุหินเกิดการยืดหด และขยายตัวได้
เอาใจใส่ตั้งแต่เริ่มต้นจนจบงาน
Pinklaomarble ทำหน้าที่เป็นทั้งผู้คัดสรรหินทุกแผ่นในต่างประเทศด้วยตัวเองทุกครั้ง เพื่อให้ได้คุณภาพ และลวดลาย เป็นไปตามความต้องการของสถาปนิกและดีไซน์เนอร์ นอกจากนี้ยังมีทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการติดตั้งวัสดุหินด้วยวิธีการที่ถูกต้อง แต่หากทางผู้ออกแบบมีผู้รับเหมาประจำอยู่แล้ว ทางโชว์รูมจะส่งแผ่นหินพร้อมใช้เทคนิค Dry-lay วิธีการติดตั้ง และ Numbering การกำหนดเบอร์ เพื่อให้ผู้รับเหมาติดตั้งได้ถูกต้อง และลดโอกาสการเกิดความเสียหายที่หน้างานได้
สำหรับใครที่สนใจก็สามารถติดต่อได้ที่ https://www.facebook.com/pinklaomarble โทร 02 884 4115
รับข่าวสารเรื่องการออกแบบ สถาปัตยกรรม ไลฟ์สไตล์
ทางอีเมล ที่จะส่งตรงถึงคุณทุกเดือน ลงทะเบียนได้ที่ด้านล่างนี้เลย!