CONCRETE CAVE บ้านปิดนอก-เปิดในที่สร้างความลึกลับแต่ยังโปร่งโล่งอยู่สบาย

เมื่อบ้านกลายเป็นโลกส่วนตัว ที่สร้างความสบายใจ และให้ความรู้สึกปลอดภัยในทุกอิริยาบถ สถาปนิกจาก S.O.S Architects จึงได้สร้างสรรค์เปลือกของสถาปัตยกรรมให้ปิดทึบด้วยคอนกรีต ไม่ให้ใครสามารถมองเห็นได้ มอบความเป็นส่วนตัวและซ่อนตัวตนของผู้อยู่อาศัยไว้ภายในบ้าน แต่เปิดภายในให้โปร่งโล่ง รับแสงธรรมชาติจากคอร์ทยาร์ด ไว้ภายในบ้าน THE CONCRETE CAVE หลังนี้

บ้านที่ให้ความเป็นส่วนตัว

เจ้าของบ้านอยู่อาศัยเป็นคู่สามีภรรยา สามีเป็นคนโลกส่วนตัวสูง ชอบอ่านหนังสือ เล่นฟิตเนส และทำงาน ส่วนภรรยาหลงใหลในการทำอาหาร และขนม ทั้งนี้ทั้งคู่ยังชื่นชอบการแฮงค์เอาท์และทำกิจกรรมร่วมกันในเวลาว่าง จากโจทย์ข้างต้นจึงตีความให้บ้านหลังนี้ปิดทึบเพื่อบดบังสายตาจากเพื่อนบ้าน แต่เปิดส่วนภายในอาคารให้โปร่งโล่ง พร้อมออกแบบให้ฟังก์ชันแต่ละพื้นที่มีขนาดใหญ่ เพื่อให้ทั้งคู่สามารถทำกิจกรรมร่วมกันแต่ยังมีมุมส่วนตัวให้แต่ละคนใช้งานได้อยู่

ทึบตันแต่รู้สึกเป็นธรรมชาติ

สถาปนิกเลือกปิดล้อมอาคารด้วยฟาซาดคอนกรีตหล่อในที่แบบสไตล์โมเดิร์น เสริมลูกเล่นพิเศษด้วยการบิดช่องเปิดสี่เหลี่ยมผืนผ้าเพื่อให้เกิดแสง Indirect Lighting เข้าสู่ภายห้องอเนกประสงค์ของสามี ในส่วนนี้เลือกใช้เทคนิคการหล่อในที่โดยใช้ไม้กระบากเป็นไม้แบบ สงผลให้คอนกรีตที่ดูทึบตันเกิดความรู้สึกเป็นธรรมชาติเสมือนกับถ้ำในป่า

พื้นที่ด้านล่างทำหน้าที่เป็นที่จอดรถ ทางเข้าบ้าน และทาง Service ที่เข้าสู่บริเวณคอร์ทยาร์ดได้ทันที โดยไม่ต้องเข้าสู่ตัวบ้าน จึงไม่เกิดการรบกวนความเป็นส่วนตัวของผู้อยู่อาศัย นอกจากนี้การเลือกใช้สีดำให้กับพื้นที่จอดรถ ยังส่งผลให้ฟาซาดคอนกรีตเสมือนเป็นก้อนหินขนาดใหญ่ที่กำลังลอยอยู่ได้อย่างน่าสนใจ  

“เจ้าของบ้านต้องการอาคารแบบปูนเปลือย เราจึงเสนอคอนกรีตหล่อในที่สไตล์โมเดิร์น ซึ่งมีความยากมากเพราะผู้รับเหมาไม่เคยทำแผ่นขนาดใหญ่เท่านี้มาก่อน จึงต้องทดลองหาส่วนผสม และวิธีการที่เหมาะสมเพื่อให้คอนกรีตออกมาสวยงาม มีการสกัดทิ้งซ่อมใหม่อยู่บ่อยครั้ง ทำให้บ้านหลังนี้เสร็จล่าช้ากว่าที่คิดไว้”

บันไดลอยอยู่กลางอากาศ

อีกหนึ่งไฮไลท์คือบันไดภายในที่ออกแบบให้ดูลอย และเนี้ยบ ด้วยกระเบื้องสีดำลายหินอ่อนดูหรูหรา ยึดติดเข้ากับผนังคอนกรีตหล่อในที่สไตล์งานคราฟต์ เมื่อสองวัสดุมาเจอกันจึงสร้างความ Contrast แต่ดูลงตัวได้อย่างน่าสนใจ นอกจากนี้ราวกันตกยังออกแบบให้เป็นลวดสลิงที่ปิดล้อมส่วนบันได แต่ยังให้ความรู้สึกโปร่งโล่ง ซึ่งช่วยส่งเสริมให้บันไดดูลอยมากขึ้น

“เนื่องจากคู่สามีภรรยาไม่ได้มีเด็กๆ วิ่งเล่น การออกแบบราวกันตกด้วยสลิงจึงไม่ได้สร้างข้อจำกัดในการใช้งาน”   

สร้างสเปซ ให้ โปร่ง โล่ง สบาย

ถัดมาจะพบกับส่วนนั่งเล่นที่จับคู่เข้ากับส่วนครัวของชั้นหนึ่ง พร้อมจัดวางเฟอร์นิเจอร์สไตล์โมเดิร์นแบบ openplan และออกแบบให้ภายในเป็นโถงสูงเพื่อสร้างสเปซให้โปร่งโล่ง ประกอบกับติดตั้งช่องเปิดเป็นกระจกทั้งหมด เพื่อรับแสง และธรรมชาติจากคอร์ทยาร์ดเข้ามาเป็นส่วนเดียวกับภายในบ้าน เมื่อกระจกที่ดูเบาเชื่อมเข้ากับคอนกรีตที่ดูทึบตันส่งผลให้สเปซเกิดความสมดุลและลงตัว นอกจากนี้ยังติดตั้งกระเบื้องพื้นสีดำให้เกิดเงาสะท้อนเพื่อสร้างมิติให้กับภายในบ้านมากขึ้น  

“ภรรยาชอบทำอาหารอยู่ในครัว แต่สามีชอบทำกิจกรรมในห้องอเนกประสงค์ที่เป็นส่วนเดียวกับฟาซาดคอนกรีต ถึงแม้จะทำกิจกรรมที่แตกต่างกัน และอยู่ในพื้นที่ที่ห่างกันแต่ยังสามารถมองเห็นกิจกรรมของแต่ละคนผ่านกระจก ซึ่งช่วยสร้างปฏิสัมพันธ์กันได้ผ่านสายตา”

พื้นที่ส่วนตัวที่รองรับทุกกิจกรรม

บนพื้นที่ชั้นสองมีฟังก์ชันเป็นห้องนอนแขก และแกลเลอรี่บริเวณโถงบันไดที่เจาะแสงสกายไลท์จากชั้นสามให้แสงส่องสว่างลงมาบนผลงานศิลปะจนเกิดสุนทรียภาพให้กับผู้รับชม นอกจากนี้ยังมีห้องอเนกประสงค์ส่วนตัวของสามีที่ทำหน้าที่เป็นพื้นที่ทำงาน ฟิตเนส อ่านหนังสือ และกิจกรรมอื่นๆ โดยจัดวางเฟอร์นิเจอร์ให้โปร่งโล่งแบบ openplan แถมยังเจาะช่องแสงให้มองลงไปบนคอร์ทยาร์ดตรงกลางเพื่อพักสายตาได้อีกด้วย

สร้างความผ่อนคลายก่อนเข้านอน

สำหรับพื้นที่ชั้นสามเป็นส่วนของดาดฟ้าสำหรับนั่งเล่น หรือปาร์ตี้ส่วนตัวของคู่สามีภรรยาก่อนเข้านอน ถัดมาจะเป็นส่วนของห้องนอนที่ติดตั้งช่องเปิดกระจกให้สามารถมองเห็นวิวดอยสุเทพในทิศตะวันตก หรือจะหันมามองวิวบริเวณคอร์ทยาร์ทตรงบริเวณตรงกลางก็สามารถทำได้เช่นกัน

โอบล้อมพื้นที่ด้วยผังรูปตัว C

บ้านหลังนี้ออกแบบผังให้เป็นรูปตัว C  ขนาด 350 ตารางเมตร โดยมีโถงบันได และคอร์ทยาร์ดเป็นตัวเชื่อมอาคารด้านหน้า และด้านหลังเข้าด้วยกัน กรอบของอาคาทำหน้าที่บัฟเฟอร์เพื่อสร้างความเป็นส่วนตัวให้กับเจ้าของบ้าน แถมการใช้คอนกรีตหล่อในที่และสีดำก็ยิ่งทำให้อาคารดูปิดทึบจนเพื่อนบ้านไม่สามารถมองเห็นกิจกรรมภายในบ้านได้ แต่ภายในกลับใช้ช่องเปิดกระจกจนรู้สึกถึงความโปร่งโล่งด้วยแสงธรรมชาติ และดึงสเปซจากสวนคอร์ทยาร์ดให้เป็นส่วนเดียวกับภายในบ้าน จะเห็นได้ว่าภายนอกและภายในให้ความรู้สึกที่ Contrast กันอย่างชัดเจน

“บ้านหลังนี้ถูกปิดล้อมให้ทึบทั้งหมดเพื่อให้ตอบโจทย์ความเป็นส่วนตัวในการทำกิจกรรมของเจ้าบ้าน ซึ่งเป็นสิ่งที่ท้าทายมากเพราะการปิดล้อมโดยฟาซาดคอนกรีตขนาดใหญ่เป็นสิ่งที่ควบคุมได้ยากในตอนก่อสร้าง แต่เมื่อสร้างเสร็จความยากเหล่านั้นกลับกลายเป็นความรู้ที่มีคุณค่ามากๆ ”

Credit :
Project name : THE CONCRETE CAVE
Company name : S.O.S Architects
Location : Chiang Mai, Thailand
Building Type : House
Completion Year : 2019
Area : 350 sq.m.
Lead Architect : Chaikla Dangboon, Tariya Tiwan
Structure Engineer : Chaiwat Kaewkam
Construction consultant : TANASART9
Owner : Triluck Tanratanakul, Juthamas Bencharat
Photographer credits : Rungkit Charoenwat
Writer
Watsapon Vijitsarn

Watsapon Vijitsarn