ในช่วง Work Form Home ที่ผ่านมาเพื่อน ๆ หลาย ๆ คนคงคุ้นชินกับการเลือกหามุมนั่งทำงานสักมุมนึงในบ้านบางคนอาจมีมุมโปรดในการทำงานบนโต๊ะกินข้าวหรือบางคนอาจเลือกเป็นโต๊ะญี่ปุ่นในห้องรับแขกแต่เพื่อนๆทราบไหมว่าสภาพแวดล้อมตรงนั้นมีประสิทธิภาพเหมาะสมกับการใช้งานหรือไม่ ในการเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมในบ้านทีละน้อยอาจนำมาสู่ผลลัพธ์ที่เพื่อนๆคาดไม่ถึง วันนี้Dsign something จะมาแชร์ไอเดียการจัดสภาพแวดล้อมเพื่อดึงศักยภาพของพื้นที่ในบ้านให้อยู่อย่างมีประสิทธิภาพมาฝากครับ
แสงธรรมชาติ ช่วยเพิ่มความ Productive
แสงแดดที่เหมาะสมและเพียงพอสามารถช่วยกำจัดเชื้อโรคในบ้านได้ การเปิดรับแสงแดดเข้าสู่พื้นที่ภายในบ้านจึงเป็นส่วนสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามตั้งแต่การวางแผนในการออกแบบ หากต้องการใช้เวลาทำกิจกรรมสำคัญในช่วงเช้าการวางโต๊ะทำงานหันหน้าไปทิศตะวันออกทำให้ช่วยได้รับแสงแดดที่ดีในยามเช้า เพราะแสงแดด มีส่วนช่วยในการปรับสภาวะอารมณ์ให้ดีอยู่เสมอ และ แสงแดดสามารถช่วยสร้างวิตามินดี ให้แก่ร่างกายและยังสามารถทำให้ร่างกายเกิดความสดชื่น เนื่องจากวิตามินดี มีส่วนช่วยเพิ่มระดับฮอร์โมนเซโรโทนิน(Serotonin) ซึ่งเป็นสารสื่อประสาทที่ช่วยลดความตรึงเครียดให้กับร่างกายได้ การเลือกใช้วัสดุในบ้านก็เป็นส่วนสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม ในมุมที่ต้องการให้มีแสงส่องผ่านเช่นห้องครัว หรือ ห้องน้ำ อาจเลือกใช้ผนังหรือหน้างต่างกระจกเพื่อให้แสงสามารถส่องถึงได้
ดีไซน์เนอร์ฝากมาบอก
“ ไม่มีมุมไหนน่าผ่อนคลายไปกว่า Space ที่โปร่งและสบายตาด้วยแสงจากธรรมชาติ แสงแดดยามเช้าสามารถช่วยสร้างความสดชื่น และ พลังงานที่ดีให้แก่ผู้อยู่อาศัย ”
Dtip
1. พื้นที่ทำงานที่เปิดรับแสงธรรมชาติในยามเช้าเข้าสู่พื้นที่ จะทำให้ผู้ใช้งานมีพลังงาน และ มีประสิทธิภาพในการทำงานมากกว่าการทำงานภายใต้แสงประดิษฐ์
2. แสงแดดจากธรรมชาติช่วยให้ร่างกายผลิต Serotonin ฮอร์โมนความสุข ที่สามารถช่วยต่อสู้กับภาวะซึมเศร้าได้ดี
3. พื้นที่ห้องที่แสงธรรมชาติสามารถส่องถึง สามารถช่วยให้ผู้ป่วยฟื้นตัวได้เร็วขึ้น
4. อาคารที่เปิดรับแสงธรรมชาติ 25 – 40 เปอร์เซ็นต์ของการใช้พลังงานทั้งหมด ที่มีการควบคุมทิศทางของแสงและอุณหภูมิสามารถทำให้ประหยัดค่าไฟส่องสว่างได้อย่างมาก
กลิ่นหอมช่วยให้อารมณ์ดี
แค่ได้กลิ่นอารมณ์ก็เปลี่ยน การได้กลิ่นเป็นหนึ่งในประสาทสัมผัสของมนุษย์การได้กลิ่น ส่งผลต่ออารมณ์ ความรู้สึก การรับรู้ และพฤติกรรมของมนุษย์ร่างกายของเราสามารถประเมินการรับรู้ได้จากการได้กลิ่นทันที่เมื่อเข้าไปสู่สภาพแวดล้อมที่ไม่คุ้นชิน แต่ทราบไหมครับว่ากลิ่นไม่พึ่งประสงค์ในบ้านของเราสามารถส่งผลต่ออารมณ์เชิงลบและความรู้สึกที่ไม่ดีของเราได้ เช่นกลิ่นท่อระบายน้ำ กลิ่นขยะ กลิ่นจากห้องครัว เราอาจเริ่มต้นจัดการต้นเหตุของกลิ่นไม่พึ่งประสงค์เหล่านั้นจากต้นเหตุเช่น ทิ้งขยะในภาชนะที่ปิดมิดชิด ตรวจสอบซิงค์ล้างจานในครัวว่ามีเศษอาหารอุดตันท่อหรือไม่ หรือการใช้เครื่องหอมที่กลิ่นไม่ฉุนมาใช้ช่วยจกำจัดกลิ่นไม่พึ่งประสงค์ และเมื่อภายในบ้านปลอดกลิ่นไม่พึงประสงค์ก็สามารถลดปัญหาเรื่องรบกวนใจของผู้อยู่อาศัยให้พร้อมเริ่มต้นวันกับอารมณ์ที่สดใสได้
คุณกำลังเป็นนักสะสมฝุ่นรึเปล่า
เพื่อนๆทราบไหมคับว่าเกิดการสะสมของฝุ่นขึ้นในทุกๆวันบนเฟอร์นิเจอร์ตัวเก่งของเราถึงแม้ว่าจะปิดบ้านเปิดแอร์ทั้งวัน นั่นเป็นเพราะว่ารอบๆตัวเรานั้นมีฝุ่นที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติตลอดเวลาตัวอย่างเช่น ฝุ่นละอองหรือมลพิษที่เข้ามาเมื่อประตูถูกเปิด เส้นผมที่ร่วง ขนของสัตว์เลี้ยง หรือแม้แต่ละอองเกสรของดอกไม้ในแจกัน ขอแนะนำให้หมั่นทำความสะอาดบ้านอย่างสม่ำเสมอ หรือเริ่มต้นจากการจัดสภาพแวดล้อมในห้องปรับเปลี่ยนตำแหน่งของเฟอร์นิเจอร์ให้ลดการเกิดซอกหลืบที่ทำให้ทำความสะอาดยาก หรือ พื้นที่ที่เข้าถึงยาก ไม่สะสมสิ่งของที่ไม่ถูกใช้งานเป็นเวลานานให้เก็บเข้าตู้เก็บของหรือที่ๆเหมาะสม อีกวิธีหนึ่งที่สามารถช่วยได้คือการเลือกปลูกต้นไม้เพื่อช่วยกรองฝุ่นระอองบริเวณหน้าบ้าน ก็สามารถทำให้ตัวบ้านมีความสวยงาม ดูมีชีวิตชีวาและยังทำหน้าที่เป็นบัฟเฟอร์ช่วยเป็นตัวกรองลดปริมาณฝุ่นละอองที่ถูกพัดผ่านมาได้ดีอีกด้วย
ดีไซน์เนอร์ฝากมาบอก
“ ในการเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งพื้นที่ภายใน ควรมีการเตรียมตัววางแผนถึงหน้าที่ในการใช้งานเฟอร์นิเจอร์ และ ที่พลาดไม่ได้เลยคือการวัดสัดส่วนและขนาดของเฟอร์นิเจอร์ที่จะไปว่างในตำแหน่งพื้นที่ต่าง ๆ เพื่อความสวยงาม และ พอดีต่อพื้นที่เพื่อไม่ให้เกิดซอกมุมที่จะก่อให้เกิดอุบัติเหตุ และ เป็นพื้นที่เก็บฝุ่นอีกด้วย ”
ลม สร้างสภาวะความสบายในบ้าน
ลมที่พัดผ่านช่องระบายอากาศในบ้านสามารถสร้างสภาวะความสบายให้กับผู้อยู่อาศัยได้ดี ทิศทางของลมที่ไหลเวียนเข้าสู่ตัวบ้านส่งผลให้ควรต้องมีช่องเปิดให้ลมเข้า-ออกได้ ซึ่งทำให้ตำแหน่งของช่องลมควรอยู่ตรงกันหรือเยื้องกัน นอกจากนี้ยังควรต้องคำนึงถึงทิศทางลมประจำฤดูด้วยที่พัดผ่านเข้ามาในตัวบ้าน ตัวอย่างเช่นฤดูร้อนลมพัดมาจากทางทิศใต้ ฤดูหนาวลมพัดมาจากทิศเหนือลงใต้ และฤดูฝนลมพัดเข้ามาทุกทิศทาง การเลือกรูปแบบของช่องเปิดที่ใช้ทำให้สามารถควบคุมทิศทางของลมที่เข้ามาในตัวบ้านได้อีกด้วย
ดีไซน์เนอร์ฝากมาบอก
“ การถ่ายเทของอากาศภายในบ้านเป็นเรื่องสำคัญ แม้พื้นที่ในบ้านจะสวยงามเพียงไหนแต่หากพื้นที่ในบ้านร้อนอบอ้าวไม่มีการระบายของอากาศ ความงามก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้ เพราะฉะนั้น ช่องลม เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ไม่ควรละเลยเพื่อให้ภายในบ้านมีอากาศที่ถ่ายเทได้สะดวกสร้างความสบายให้แก่ผู้อยู่อาศัยและยังสามารถช่วยลดความอับชื้นได้อีกด้วย ”
Dtip
1. การจัดวางน้ำพุ หรือ บ่อน้ำบริเวณในสวนมีส่วนช่วยให้อากาศภายในบ้านเย็นสบาย
2. ต้องมีช่องให้ลมออก การติดตั้งหน้าต่างภายในเพียงด้านเดียวมีส่วนทำให้ลมไม่เข้า และทำให้อากาศไม่ถ่ายเทดั้งนั้นควรมีช่องสำหรับให้ลมออกด้วย
3. ติดตั้งหน้าต่างที่เหมาะสม ควรติดตั้งหน้าต่างในความสูง 1 เมตรขึ้นไปซึ่งมีส่วนช่วยในการลดความร้อนบนเพดานได้ดี และการเลือกติดตั้งในทิศทางที่เหมาะสมโดยทิศเหนือและทิศใต้มีอากาศหมุนเวียนได้ดี
เสียงมา สมาธิไป
มลพิษทางเสียงคือตัวปัญหาที่จะเข้ามาทำลายความสงบสุขภายในบ้านซึ่งอาจทำให้คุณเสียสมาธิหรือก่อความลำคานให้กับผู้อยู่อาศัยได้ หลายๆท่านอาจเลือกไม่ได้เมื่อทำเลที่ตั้งของบ้านหรือสถานที่ทำงานอยู่ใก้ลกับถนนที่มีการสัญจรเกิดขึ้นตลอดเวลา ในขั้นตอนการเลือกใช้วัสดุก่อสร้างจึงมีความจำเป็นที่สามารถช่วยลดปัญหากวนใจเหล่านี้แต่ต้นได้เป็นอย่างดี ตัวอย่างเช่นการเลือกใช้วัสดุกรุผนังที่สามารถช่วยดูดซับเสียงและกันความร้อนได้ไปในตัว หรือการก่อผนัง2ชั้นและทำการเว้นช่องตรงกลาง รวมกับการใช้วัสดุซับเสียงอีกชั้น หรือการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่อย่างเช่นตู้หนังสือมาช่วยซับเสียงทำหน้าที่เป็นบัพเฟอร์กรองเสียงอีกชั้น อาจเป็นทางเลือกที่ช่วยให้สภาพแวดล้อมในบ้านของคุณน่าอยู่ขึ้นมาก
ดีไซน์เนอร์ฝากมาบอก
“ การเลือกใช้วัสดุในการก่อสร้างเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ในการเลือกใช้วัสดุประเภทไม้อาจทำให้เสียงจากภายนอกสามารถเข้าสู่ตัวบ้านได้ หากให้ดีใช้เป็นอิฐก่อแล้วฉาบปูนอาจเป็นทางเลือกที่สามารถกันเสียงจากภายนอกได้ดีกว่า ”
Dtip
1. การเลือกใช้ผ้าม่านเป็นตัวช่วยลดเสียงจากหน้าต่าง ผ้าม่านที่มีเนื้อหนาสามารถเป็นตัวช่วยในการลดเสียงจากภายนอกได้ดีเพราะผ้าม่านจะทำหน้าที่ลดความรุนแรงของคลื่นเสียงได้
2. การลดเสียงจากภายนอกด้วยเฟอร์นิเจอร์หรืองานบิ้วอิน การวางตู้หนังสือ หรือ การติดตั้งบิ้วอินชั้นวางทีวีรวมไปถึงตู้ขนาดใหญ่ที่สามารถปิดทับบริเวณผนังนั้นไว้ได้สามารถช่วยกรองและลดเสียงที่จะเข้ามาภายในของบ้านได้
3. ปลูกต้นไม้รอบบ้านนอกจากต้นไม้จะให้ร่มเงารอบบ้านแล้วต้นไม้ยังสามารถช่วยกรองเสียงและเป็นอีกวิธีที่สามารถช่วยลดคลื่นเสียงที่จะเข้าสู่ตัวบ้านได้อีกด้วย
ระวังสัตว์เลี้ยง และ สัตว์ไม่ได้เลี้ยง
สัตว์เลี้ยงตัวโปรดของคุณอาจนำสุขภาพไม่ดีมาให้คุณโดยไม่รู้ตัวหากเราดูแลจัดการพวกเขาไม่ดี ในการเลือกเลี้ยงสัตว์เลี้ยงควรมีการฝึกการกำหนดขอบเขตกิจกรรมของพวกเขาที่ชัดเจน เพื่อช่วยให้เราสามารถดูแลทำความสะอาดพื้นที่ภายในบ้านได้อย่างสะดวก หรือการดูแลจานอาหารของน้องๆหมั่นทำความสะอาด เปลี่ยนน้ำ เพื่อเป็นการป้องกันมดและแมลงหรือแม้แต่หนู ที่อาจเข้ามาก่อความลำคานให้กับคุณหรือสัตว์เลี้ยงจนทำให้เกิดสภาพแวดล้อมที่ไม่น่าอยู่และเป็นปัญหาในด้านอื่นๆต่อไปในอนาคต
จากเทคนิคตัวอย่างการปรับสภาพแวดล้อมที่กล่าวมานี้น่าจะเป็นไอเดียให้เพื่อนได้ลองกลับไปเช็คและลองเริ่มต้นลงมือลองปรับเปลี่ยนสภาพแวดล้อมภายในบ้าน การเริ่มต้นที่ดีมาจากการลงมือทำค่อยๆทำทีละนิดเพื่อนๆอาจจะสัมผัสได้ถึงความเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นได้
ภาพจาก
Tokyo apartments renovated by Norm Architects and Keiji Ashizawa Design.
Sivandiego – The details Design by MHS
A New York City Loft Space Designed Designer Christina Loucks
Galeria Zipper São Paulo / Brazil / 2010
architects Marià Castelló and José Antonio Molina
StudioAC inserts plywood unit complete with dog bed into Toronto home
รับข่าวสารเรื่องการออกแบบ สถาปัตยกรรม ไลฟ์สไตล์
ทางอีเมล ที่จะส่งตรงถึงคุณทุกเดือน ลงทะเบียนได้ที่ด้านล่างนี้เลย!