Keep in Touch
รับข่าวสารเรื่องการออกแบบ สถาปัตยกรรม ไลฟ์สไตล์
ทางอีเมล ที่จะส่งตรงถึงคุณทุกเดือน ลงทะเบียนได้ที่ด้านล่างนี้เลย!
Menu
“รับเป็นคั่วอ่อน คั่วกลาง หรือ คั่วเข้มครับ” ส่วนใหญ่แล้วเราจะได้ยินประโยคนี้จากร้านกาแฟ Hi end โซนในเมือง แต่เจ้าของร้าน Dope daily เอ่ยคำถามนี้ทุกครั้งที่ลูกค้าสั่งกาแฟ รวมถึงเราด้วย เมื่ออยากรู้ต่อว่า 3 แบบนี้ต่างกันมากมั้ย คุณกิต เจ้าของร้านก็อธิบายอย่างใจเย็นถึงรสชาติที่จะออกมาต่างกัน แสดงถึงความใส่ใจที่มีต่อลูกค้าและผลงานของตัวเอง ได้เป็นอย่างดี
ความท้าทายจากคาเฟ่ในเมืองสู่ปริมณฑล
หลังจากนั้นเรามีโอกาสได้พูดคุยกับคุณกิต ก็ไม่แปลกใจเลยที่ Dope daily จะใส่ใจรายละเอียดของกาแฟอย่างนี้เพราะตัวคุณกิตเอง ทำเบเกอรี่ และเครื่องดื่มขายในโซนสุขุมวิทมาก่อน แต่ตอนนั้นใช้เป็นระบบ Delivery เมื่ออยากทำหน้าร้านก็มาดูที่ดินของพ่อแม่ที่มีอยู่ แล้วเกิดความท้าทายอย่างมากเพราะการเปลี่ยน Location ร้าน ก็ทำให้ Target ลูกค้าเปลี่ยนไป จากคนเมืองย่านเศรษฐกิจในเมืองหลวง เป็นคนชนชั้นกลางแถบปริมณฑล ส่งผลอย่างมากต่อการนำเสนอเมนู การตั้งราคา สิ่งที่คุณกิตต้องทำคือการให้ความรู้แก่คนที่เข้ามาคาเฟ่ในเรื่องกาแฟ เบเกอรี่ โดยใช้ Storytelling skills บ่งบอกถึงบริบทของเมล็ดกาแฟ ทำให้ลูกค้ามีประสบการณ์ที่ดีในการกินกาแฟ
“ของที่ดีควรมีคุณค่าของมัน ผมเลยไม่ยอมลดคุณค่ามัน ไม่ยอมให้ถูกจนเกินไปและจับต้องยากจนเกินไป”
คุณกิต เจ้าของร้านพูดถึงแนวคิดในการทำร้านกาแฟ
ไม่ใช่ครั้งเดียว แต่เป็นครั้งแรก
เรื่องของผลิตภัณฑ์ คุณกิตเชื่อมั่นในตัวเองว่าสามารถควบคุมคุณภาพได้ เพียงแต่คิดว่ามุมมองภายนอกก็เป็นเรื่องสำคัญ เพราะนั่นคือแรงดึงดูดแรกที่จะทำให้เขาเปิดใจลองเข้ามาร้านสักครั้งหนึ่ง หลักจากนั้นบรรยากาศภายในร้าน และประสบการณ์ในการกินกาแฟจะทำให้เขากลับมาอีกรอบ หรืออาจจะมาทุกวันเหมือนชื่อร้าน Drop daily เลยก็เป็นได้ คุณกิตเลยตัดสินใจติดต่อไปทาง GLA Design Studio ให้ออกแบบหน้าร้านสำหรับ ร้านกาแฟที่คนสามารถกลับมาได้ทุกวันโดยไม่เบื่อ และคนที่เข้ามาใช้บริการต้องเข้ามาได้ทั้งกลางวันและกลางคืน
สถาปัตยกรรมที่เคลื่อนย้ายได้
เนื่องจากบริบทรอบข้างของ Dope daily เป็นพื้นที่ชานเมืองกึ่งอุตสาหกรรมเล็ก ๆ มีบ้านคนอยู่เยอะแต่ถนนเส้นนี้กลับไม่มีคาเฟ่อยู่เลย ดังนั้นหากจะมีร้านกาแฟมาเปิดสักแห่งจะต้องดูดึงดูดคนที่ผ่านไปมา แต่คนต้องรู้สึกว่ามาบ่อยๆได้โดยไม่น่าเบื่อ โดยมีข้อจำกัดตรงที่พื้นที่บริเวณนี้อาจจะถูกเวียนคืนเมื่อไรก็ได้ ดังนั้นเจ้าของร้านเลยอยากได้โครงสร้างที่สามรถถอดประกอบ ยกย้ายไปได้ หากถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนสถานที่จริง ๆ สถาปนิกจาก GLA Design Studio จึงคิดว่าการทำคาเฟ่นี้จะต้องเป็นโครงสร้างเบาทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น โครงสร้างเหล็ก สกรู แผ่นไม้เบา เพื่อให้ติดตั้งง่ายและยกออกง่ายเมื่อถึงเวลา
กลางวันต้องโดดเด่น กลางคืนต้องสะดุดตา
เมื่อเราเข้ามาอยู่ในตัวคาเฟ่ เราจะมองไม่เห็นวิวทัศน์ภายนอก จะเห็นแต่กระถางต้นไม้รอบอาคารที่อยู่ใกล้มาก ๆ เท่านั้น เพราะบริบทของคาเฟ่เเห่งนี้เป็น อู่ซ่อมรถ โกดัง คอนเทนเนอร์ ซึ่งสถาปนิกพิจารณาดูแล้วว่าไม่น่ามอง จึงเลือกใช้กระเบื้องลอนคู่โปร่งแสง เพราะทำให้สถาปนิกเลือกวิวที่อยากให้ผู้ใช้งานคาเฟ่มองได้ นั่นคือแถบกระถางต้นไม้ที่ถูกจัดเรียงไว้ ใกล้ตัวอาคาร และยังเป็นการนำแสงธรรมชาติเข้ามาโดยไม่เห็นสภาพแวดล้อมภายนอก ทำให้คาเฟ่นี้ไม่จำเป็นต้องเปิดไฟเลยในตอนกลางวัน ซึ่งการใช้กระเบื้องลอนคู่โปร่งแสงยาวตลอดแนวอาคารทำให้คนที่ผ่านไปมาบนถนนเส้นนี้สะดุดตากับอาคาร ไม่ว่าจะเป็นกลางวันหรือ กลางคืนที่มีที่เหมือนมีแสงพุ่งออกมาจากอาคาร เป็นสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นมากพอสมควร ที่สำคัญคือการเบื้องลอนคู่นี้สามารถเปลี่ยนเป็นแผ่น ๆ ได้ เมื่อต้องทำการซ่อมบำรุง ไม่ต้องเปลี่ยนทั้งแผง จึงยิ่งตอบโจทย์กับการ Flexible
มีดีต้องโชว์
สถาปนิกตั้งใจออกแบบคาเฟ่เเห่งนี้เป็นเหมือน Showcase ที่ดึงดูดคนเข้ามา โดย แบ่งการดึงดูดคนที่เข้ามา 3 Layers คือ ภายนอกอาคาร ภายในอาคาร และ Courtyard หลังอาคาร เมื่อเรายืนอยู่ด้านนอกจากเห็นด้านในราง ๆ ราวกับว่าอาคารหลังนี้น่าค้นหา เมื่อเข้ามาด้านในทางเจ้าของก็อยากจะพรีเซ้นต์ความเป็นเบเกอรี่เลยทำพื้นที่ภายในให้เกิดความ cozy จึงสร้างบรรยากาศภายในเป็นไม้ สีเขียว ให้คนที่มารู้สึกสบายเหมือนอยู่บ้านใช้เวลาอยู่ได้นาน รวมถึงสินค้าของที่นี่เป็น Homemade เจ้าของจึงอยากจะโชว์กระบวนการทำให้คนเห็น จึงออกแบบห้องครัวให้ด้านหนึ่งเป็นกระจกที่สามารถมองผ่านเข้ามาได้ ส่วนพื้นที่สวนด้านหลัง ในอนาคตเจ้าของร้านจะทำสวนกระถางให้เป็นพื้นที่ Outdoor
“คนทำธุรกิจจะมองออก สมัยนี้เราต้องการโชว์ของ ทำไมต้องใช้เครื่องทำกาแฟนี้หล่ะ ทำไมต้องใช้เตาอบนี้ อุปกรณ์แบรนด์นี้มายังไง กลุ่มลูกค้าที่พอมีความรู้ด้านนี้ เห็นของที่เราใช้ก็จะให้ความสนใจ เพราะเราใช้ของมีคุณภาพ” คุณกิตกล่าวถึงไอเดียทำครัวแบบเปิดให้คนเห็น
การออกแบบคาเฟ่กับบ้าน
บ้านกับคาเฟ่มันคนละจุดประสงค์ บ้านจะต้องตอบโจทย์ในการอยู่ระยะเวลานานเพราะชีวิตคนเราคงไม่ได้ปลูกบ้านอยู่หลายครั้ง แต่สำหรับคาเฟ่ การใช้เวลาจะสั้นกว่า ดังนั้นต้องทำให้คนที่เข้าประทับใจได้ในเวลาอันสั้น การออกแบบคาเฟ่จึงจำเป็นที่ทำให้คนมองมาแล้วสะดุดตา
“เวลาที่เราดีไซน์บ้าน จะมี Sequence ของมัน ฟังก์ชั่นบางอย่างที่นำพาไป เหมือนเป็นหนังที่ยาว แต่คาเฟ่เหมือนเป็นหนังสั้นที่ คนเข้ามาแล้วต้องสรุปเลยว่าชอบหรือไม่ชอบ พี่ว่าการดีไซน์ที่ดีต้องทำให้คนกลับมาอีก” คุณแก้ว สถาปนิกกล่าวถึงความแตกต่างระหว่างการออกแบบบ้าน และ คาเฟ่
Drop daily กลายเป็นร้านกาแฟแห่งรายละเอียดสำหรับคนที่ชื่นชอบกาแฟ เป็นพื้นที่โชว์เคสให้กับคนทำกาแฟ และเป็นสถาปัตยกรรมที่ดึงดูดสายตาผู้คนที่ผ่านไปมาทั้งกลางวัน และ กลางคืนได้เป็นอย่างดี
Project Name :Dope Daily Cafe
Location : Bangphli, Samut Prakan
Architecture Firm :GLA DESIGN STUDIO Co., Ltd.
Year : 2023
Area : 110 ตรางเมตร
Lead Architects :Rinrada N.
Interior Designer : Chisnucha P.
Landscape Design : Tanaphorn S.
Construction : Jirawat P
Photographer : Tanatip Chawang , Soopakorn S.
รับข่าวสารเรื่องการออกแบบ สถาปัตยกรรม ไลฟ์สไตล์
ทางอีเมล ที่จะส่งตรงถึงคุณทุกเดือน ลงทะเบียนได้ที่ด้านล่างนี้เลย!