FAMELINE
ผู้นำวัสดุเปลือกอาคาร ที่ลื่นไหลไปพร้อมสถาปัตยกรรม

เมื่อสถาปนิกออกแบบงานที่มีเปลือกอาคารหรือการตกแต่ง ที่แตกต่างจากสถาปัตยกรรมเดิมๆ ที่เคยมีมา คำถามที่มักเกิดขึ้นคือ โปรเจกต์นี้จะถูกสร้างขึ้นจริงได้อย่างไร เพราะข้อจำกัดหลายๆ อย่างของเทคโลโนยีในปัจจุบัน จะดีหรือไม่ หากเรารู้ว่าปัจจุบันมีวัสดุอะไร ที่เหมาะจะนำไปทำอาคารที่มี Form หรือ Facade ที่แปลกใหม่

ผู้ผลิตวัสดุที่ตอบโจทย์

หนึ่งในผู้นำด้านนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ตกแต่งอาคาร และการออกแบบเชิงสถาปัตยกรรม คือ FAMELINE ซึ่งเป็นเบื้องหลังของงานสถาปัตยกรรมหลากหลายงาน ด้วยประสบการณ์ที่มากกว่า 25 ปี สามารถช่วยผลิตวัสดุที่ตอบโจทย์อาคารได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น Composite และ Solid นวัตกรรมสำหรับเปลือกอาคาร, Louver นวัตกรรมสำหรับแผง/ระแนงบังแดด, Ceiling นวัตกรรมสำหรับฝ้าเพดาน, Smart การนำเทคโนโลยี มาใช้ในงานผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่ เช่นระบบอัตโนมัติ มอเตอร์, Textile นวัตกรรมสำหรับผ้าใบ, Wall นวัตกรรมสำหรับผนังภายใน และ Roof นวัตกรรมสำหรับหลังคา เราอาจจะเคยเห็นวัสดุเหล่านี้บนอาคารต่างๆ จึงขอยกตัวอย่างผลงานที่มี FAMELINE เป็นเบื้องหลัง คือ

อาคารที่มีเปลือกห่อหุ้ม

Sahathai Terminal อาคารสำนักงานที่มี Facade สะดุดตาสำหรับคนที่ผ่านไปมา เปลือกอาคารที่ซ้อนกัน และโค้งออกคล้ายการพลัดปลิว ดีไซน์เนอร์มีการดัดแปลงนำเอา Decorative louver ซึ่งเป็นนวัตกรรมสำหรับแผงบังแดด และระแนง สำหรับตกแต่งมาใช้งาน 

โดยโครงการนี้เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ Litewood และผลิตภัณฑ์ Plank Clad รุ่น Corrugated ซึ่งตอบโจทย์ในเรื่องความสวยงามของการดีไซน์ ด้วยสีและขนาดที่เหมาะสมในการทำแผงขนาดใหญ่ที่มีรัศมีโค้งได้ตามแบบ และระแนงยังช่วยในการพรางสายตาจากคนภายนอก

ที่สำคัญคือ Decorative louvers เป็นวัสดุที่ใช้มีความแข็งแรง คงทน ต่อสภาพ ดิน ฟ้า อากาศ แต่มีน้ำหนักเบา ทำให้โครงสร้างอาคารไม่หนักฟอร์มอาคารจึงสามารถก้าวข้ามขีดจำกัดของการออกแบบ ไปได้ไกลกว่าที่คิด และง่ายต่อการติดตั้งหน้างานอีกด้วย

อาคารที่พรีเซ้นต์อัตลักษณ์ของบริษัทบนงานสถาปัตยกรรม

TCP Building อาคารที่นำสัญลักษณ์ ของบริษัทขึ้นมาโชว์บนตัวอาคารได้อย่างสวยงาม บริเวณที่เป็นรูปกระทิงมีมิติในการใช้วัสดุนูนเว้าสลับกันไป โดยที่อาคารนี้จะใช้ Aluminium Honeycomb Panel (AHP)  ซึ่งถูกพัฒนามาจากผลิตภัณฑ์กลุ่ม Composite

Aluminium Honeycomb Panel (AHP) จะเหมาะมากกว่ากับการทำอาคารรูปทรงแปลกใหม่ เพราะไส้กลางของ Panel เป็นแบบรังผึ้ง ทำให้มีข้อดีที่เหนือชั้นกว่าคือเรื่องของความแข็งแรง ทนทาน น้ำหนักวัสดุเบาเมื่อเทียบกับการรับน้ำหนักของตัววัสดุ รองรับกระบวนการตัดเป็น shape curved พับ เจาะ สามารถผลิตขึ้นรูปสำเร็จมาจากโรงงานได้ (Prefabricated) ทำให้ประหยัดเวลาเมื่อนำมาติดตั้งหน้างาน และยังสามารถกันไฟลาม Class A2 จากเหตุนี้ทำให้ Aluminium Honeycomb Panel (AHP) เป็นที่นิยมของดีไซน์เนอร์ในการเลือกใช้ทำอาคารฟอร์มใหม่ๆ

ถึงเวลาต้องเปลี่ยนแปลง

แม้จะมีประสบการณ์ทำวัสดุตกแต่งอาคารมามากกว่า 25 ปี แต่ FAMELINE ก็ยังไม่หยุดพัฒนา เพราะเมื่อวันที่ 30 กันยายน – 1 ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา ทางบริษัทได้จัดงาน FAMELINE RALLY REBRAND 2023 เส้นทาง กรุงเทพฯ-พัทยา เป็นการขอบคุณลูกค้าที่เชื่อมั่นใน FAMELINE มาตลอด รวมทั้งมีการประกาศรีแบรนด์ครั้งยิ่งใหญ่ โดยในงานมีการกล่าวถึงแนวทางที่เปลี่ยนไปจากเดิม รวมถึง ที่มาที่ไปของการรีแบรนด์ทั้งในแง่ของ Brand Architecture และ Brand Identity ด้วย

จากสิ่งที่ดีอยู่แล้ว สู่ ‘สิ่งที่ดีกว่า’

โดยการ Rebrand ครั้งนี้ FAMELINE เตรียมที่จะเปลี่ยนแปลงภาพลักษณ์องค์กรให้ทันสมัย จดจำง่ายขึ้น เข้ากับงานดีไซน์ได้ง่ายมากขึ้น รวมถึงการปรับ Pillar brand ใหม่ เพื่อแบ่งแยกหมวดหมู่ของผลิตภัณฑ์ ให้ชัดเจนมากขึ้น เช่น เดิมทีผลิตภัณฑ์ Aluminium Composite Panel จะอยู่ภายใต้ชื่อแบรนด์ KNAUF จนหลายคนเกิดความสับสน ทางทีมผู้บริหารจึงมีความคิดจะรวมผลิตภัณฑ์ทุกอย่างอยู่ภายใต้ชื่อแบรนด์ FAMELINE เท่านั้น ซึ่งเป็นชื่อที่ผู้ออกแบบคุ้นเคยมากกว่า เพราะมีผลิตภัณฑ์ที่ใช้งานอยู่แพร่หลาย

FAMELINE เป็นบริษัทที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องจึงมีผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา การปรับโครงสร้างของแบรนด์ จะทำให้เกิดความง่ายต่อการจดจำของผู้คน หรือแม้กระทั่งวันที่ต้องการเพิ่มหมวดหมู่ผลิตภัณฑ์ก็ทำให้ได้โดยง่าย FAMELINE ไม่เพียงแต่ปรับเรื่องโครงสร้างแบรนด์เท่านั้น แต่ยังปรับเปลี่ยน Logo ซึ่งปัจจุบันเป็น Wordmark ที่ทุกตัวอักษรมาจาก Modular grid systems เพื่อสื่อถึงที่มาที่เหมือนกับการออกแบบโครงสร้างของงานสถาปัตยกรรม ส่วนสีเขียวเป็นสีดั้งเดิมจากระบบอัตลักษณ์เดิมของ FAMELINE แต่เปลี่ยนเฉดสีให้เข้มขึ้น เพื่อต้องการย้ำถึงความยั่งยืน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมของแบรนด์ให้ชัดเจน

“การ Rebrand ในครั้งนี้ ไม่ใช่เป็นแค่การปรับอัตลักษณ์ของแบรนด์หรือออกแบบโลโก้เท่านั้น แต่เป็นการปรับโครงสร้างของแบรนด์ (Brand architecture) ให้มีความชัดเจนและสอดคล้องกับแนว ทางการพัฒนาผลิตภัณฑ์ภายใต้พันธกิจ ที่เราจะเป็นผู้พัฒนาสินค้าและบริการ ที่ตอบโจทย์ความต้องการ ของสถาปนิกและเจ้าของอาคารในอนาคต” คุณบัญญัติ วิจิตรประไพ กล่าวถึงแนวทางในอนาคตของ FAMELINE

ในอนาคต FAMELINE ยังคงมีแผนจะพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่อย่างต่อเนื่อง และเพิ่มหมวดหมู่ของผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายมากขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ออกแบบอาคารที่มีความมุ่งมั่น จะทำให้คุณภาพชีวิต ความเป็นอยู่ของผู้ใช้งานอาคารดีขึ้น โดยบริษัทมุ่งพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีในการผลิต และเพิ่มการใช้วัสดุที่สามารถรีไซเคิลได้ เป็นการลดภาวะโลกร้อนและเรือนกระจกของโลกใบนี้ รวมถึงแนวทางการใช้วัสดุที่คงทน เพื่อสร้างความยั่งยืนให้กับงานสถาปัตยกรรม หากใครสนใจรายละเอียดผลิตภัณฑ์แบบไหนสามารถดูได้ที่
FAMELINE

Writer
Pornpawee Dithisawatwet

Pornpawee Dithisawatwet

สถาปัตยกรรมทุกอย่างมีความหมายซ่อนอยู่ เราค้นพบและนำมาบอกเล่า