“ถ้าคุณทำงานที่รัก จะรู้สึกเหมือนไม่ต้องทำงานไปทั้งชีวิต” หลายคนคงเคยได้ยินประโยคนี้ แล้วสงสัยว่าเป็นเรื่องจริงหรือไหม หรือ คนที่ทำแบบนั้นมีจริงหรือเปล่า… อยากบอกว่ามีอยู่จริง หนึ่งในคนที่เรารู้จักที่สามารถนำความชอบมาทำเป็นอาชีพได้ คือ นอสสึ เพื่อนสมัยเรียนคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ที่ปัจจุบันผันตัวเองมาเป็น นักวาดภาพประกอบ และ Content creator ที่สร้างคอนเทนต์ให้ผู้ชมหลักล้านมากมายหลายคลิป
นักวาดภาพประกอบ ประจำคณะ
หลายคนอาจจะคุ้นหน้าคุ้นตา ตัวการ์ตูนแมวตาแป๋วจากแพลตฟอร์มต่าง ๆ ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา แต่ใครจะรู้ว่า เจ้าของลายเส้นตัวการ์ตูนแมวที่ทำให้คนหลงรัก เป็นสถาปนิกที่คอยสร้างสรรค์สถาปัตยกรรมที่สวยงามมากมาย
“ ช่วงจะเข้ามหาลัย ก็คือชอบวาดรูป แล้วก็ที่บ้านอยากให้อยู่สายวิทย์ ทีนี้ก็เลย เราก็เลยหาแล้วว่าอะไรมันจะแมตช์กันระหว่าง การที่เราชอบวาดรูปไปเลย กับการที่เราอยู่สายวิทย์ มันก็สถาปัตย์นี่แหละที่ตอบโจทย์ที่สุด ”
หากย้อนกลับไปสมัยเรียนนอสสึเป็นที่รู้จักของคนในคณะ เพราะเป็นนักวาดรูปประจำคณะ หากมีการทำป้ายคัตเอาท์ในงานคณะ นอสสึจะเป็นคนแรก ๆ ที่เพื่อนนึกถึงเสมอ เมื่อเรียนจบ นอสสึไปทำงานกับอาจารย์ที่มีชื่อเสียงในด้านงานออกแบบ แต่นอสสึยังไม่ทิ้งความชอบในเรื่องการวาดรูปไป เพราะยังคงวาดรูป ลงใน Social ส่วนตัวตลอด
ตัวประกอบ สู่ ตัวแสดงหลัก
เดิมทีตัวการ์ตูนที่วาดจะเป็นเด็กผู้ชายหัวฟ้าที่มีแมวมาเป็นองค์ประกอบบ้างเป็นบางครั้งบางคราว จนช่วงโควิดที่มีเวลาอยู่บ้านมากขึ้น ทำให้นอสสึมาโฟกัสกับงานอดิเรก และ ได้ใช้เวลากับแมวของตัวเอง แล้วพบว่าแมวมีพฤติกรรมบางอย่างที่น่าจะนำว่าเล่าเป็นเรื่องราวผ่านเพจใน Facebook จึงนำการ์ตูนที่เคยวาดในอดีตมาพัฒนาให้มีคาแรกเตอร์ที่ชัดเจนมากขึ้น กลายมาเป็นการ์ตูนที่มีเรื่องราวเกี่ยวข้องกับแมวเป็นหลัก เหมือนที่เราเห็นกันทุกวันนี้
จุดเริ่มต้นของการเป็นที่รู้จัก
“ งานที่ทำให้คนรู้จัก คือเพจของนอสสึ จริงๆ มันไม่ใช่ว่าทำปุ๊บแล้วก็ดังภายในไม่กี่วัน คือมัน คือมันผ่าน ผ่านช่วงเวลา 2-3 ปีที่ผ่านมา จนมาทำ NFT มันก็จะเริ่มเป็นกระแสของคนต่างชาติที่เขาจะเข้ามาตามเรา แล้วก็จนล่าสุดได้ทำ แล้วก็ทำเป็นคอนเทนต์วิดีโอแนวตั้ง เป็นคอนเทนต์วิดีโอแนวตั้งสั้น แล้วลงทุกแพลตฟอร์ม แบบ TikTok YouTube Facebook Reels ”
ชื่อเสียงของนอสสึไม่ได้มาจากการสร้างงาน 1 ชั้นแล้วโด่งดังเป็นที่แจ้งเกิด แต่เป็นการสะสมผลงานมาตลอด ค่อยๆมีฐานผู้ติดตามมากขึ้น ปัจจุบันที่นอสสึมีคลิปที่มีเป็นไวรัลที่มียอดผู้ชมแตะหลักล้านหลายคลิป จนมีผู้ติดตามผ่าน เพจ Facebook มากกว่า 68,000 คน และ TIKTOK มากกว่า 83,000 คน ที่น่าสนใจคือนอสสึมีโอกาสไปร่วมงานกับนักวาดภาพดัง ๆ หลายคน เป็นประสบการณ์ที่น่าประทับใจ รวมถึงเป็นโอกาสในการพัฒนาตัวเองเมื่อเราได้อยู่กับคนเก่งในด้านที่เราสนใจ
“ ตอนนั้นเราเริ่มทำเป็นคอนเทนต์ว่า เราวาดวอลล์เปเปอร์ให้กับลูกค้าที่เขาเสียแมวไป แล้วมันก็ดึงดูดคนที่เขารักแมวมากๆ คนที่เขาเอ็นดู เขาก็เข้ามาจ้างเราต่อ มันก็ปากต่อปากพูดกันไป อันนี้ก็จะเริ่มรู้จักกันมากขึ้น จนเริ่มมีได้ไปออกงานด้วย ไปออกงาน Mango Art Festival เมื่อพฤษภาที่ผ่านมา ”
คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ให้อะไรกับเรา
แม้ปัจจุบันนอสสึจะไม่ได้ประกอบอาชีพสถาปนิกเป็นหลัก แต่ไม่รู้สึกเสียดายช่วงเวลาที่ผ่านมาในการเรียนคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มากกว่า 5 ปี เพราะชอบสังคมที่เรียน การได้มีโอกาสเจอคนที่มากความสามารถในหลาย ๆ ด้าน ไม่ใช่โอกาสที่จะหากันได้ง่าย ๆ มีเพื่อนที่เก่งในเรื่องการใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ คนที่ออกแบบสถาปัตยกรรมเก่ง หรือ แม้กระทั่งคนที่วาดรูปเก่งกว่าตัวเรา
เกิดเป็น Community ที่กลายเป็น Connection ในอนาคต รวมถึง ทักษะต่าง ๆ ที่ได้เรียนรู้ระหว่างเรียนในคณะ กระบวนการคิด และ วางแผน เมื่อจะสร้างสิ่งใดขึ้นมา เราจะต้องคิดให้จบขบวนการ
การทำการ์ตูนแมวก็เหมือนกัน ใน 4 ช่องบนพื้นที่ว่าง เราต้องคิดว่าจะเราเล่าอะไรลงไป เริ่มยังไง จบแบบไหน ทุกอย่างจะต้องถูกคิดมาหมดก่อนที่จะวาดจริง หรือแม้กระทั่ง ทักษะในการวาดรูป ได้มาจากการเรียนวิชา Drawing ช่วง ปี 1 ที่ต้องวาด Perspective นอสสึก็นำความรู้มาต่อยอด สร้างเป็นการ์ตูนแมวขึ้นมา
“ สิ่งที่เราได้จากการเรียนสถาปัตย์อีกอย่างหนึ่ง มันก็คือทักษะการที่เราถ่ายทอดเรื่องราวออกมา เพราะว่าตอนที่เราเรียนสถาปัตย์สิ่งที่เราชอบคือ เราจะอธิบายแบบของเรายังไงให้คนอื่นทั่วไปเข้าใจได้ง่ายที่สุด มันก็เลยสอดคล้องกับการ์ตูนของเราด้วยที่ การ์ตูนของเรามันก็จะเป็นเส้นที่เข้าใจง่าย แล้วก็จบภายในไม่กี่ช่อง ให้คนเข้าใจ ”
หากใครเรียนคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์คงรู้กันดีว่า คณะนี้ให้บางสิ่งกับเราที่มีประโยชน์มากกว่าความรู้ด้านการออกแบบ แต่ยังให้ทักษะการทำงานกับคน การแบ่งเวลา ที่สามารถนำไปใช้ได้ไม่ว่าจะประกอบวิชาชีพไหนก็ตาม
อนาคตของนอสสึจ้า – NorseJA
ปัจจุบันแมวเหล่านี้ ได้ถูกสร้างออกมาเป็น 4 มิติ บนโลกของความจริงแล้ว ไม่ว่าจะเป็น Sculpture รูปวาดบนผ้าใบ หรือ แม้แต่เคสมือถือที่เราสามารถพกติดตัวได้ กลายเป็นตัวการ์ตูนที่สามารถจับต้องได้มากขึ้น
“ เรารู้สึกว่าเรายังไม่อยากจะหยุดแค่วาดรูปอย่างเดียว แล้วช่วงหลังๆ พอเราเริ่มมาในอุตสาหกรรมวาดรูป เราก็เจอกับ Community และ อื่นๆ อีกมากมาย มันมีหลาย ๆ อย่างที่คนทั่วไปไม่รู้ อย่างเช่น เรื่องแกลเลอรี เป็นตัวกลางระหว่างศิลปินกับคนที่ซื้องานศิลปะ เราก็อยากจะเปิดแกลเลอรีเหมือนกัน ”
ในเส้นทางของการเป็นนักวาดภาพ ยังมีอีกหลายอย่างที่น่าเรียนรู้ และ พัฒนาได้อีกเราสามารถเติบโตบนเส้นทางสายนี้ได้ เมื่อก่อนเราวาดภาพลงแค่ Facebook ต่อมามีแพลตฟอร์มต่าง ๆ เช่น Tiktok X (Twitter) เข้ามาทำให้ภาพวาดของเราไปได้ไกลขึ้น ในอนาคตอาจจะมีอะไรบางอย่างเข้ามาเป็นกระบอกเสียง ทำให้งานศิลปะแพร่หลายได้มากกว่าเดิม
รับข่าวสารเรื่องการออกแบบ สถาปัตยกรรม ไลฟ์สไตล์
ทางอีเมล ที่จะส่งตรงถึงคุณทุกเดือน ลงทะเบียนได้ที่ด้านล่างนี้เลย!