หากพูดถึงนิยามของคำว่า ‘บ้าน’ สิ่งแรกที่หลายคนนึกถึงมักจะเป็นความสงบ หรือบรรยากาศผ่อนคลายที่สบายทั้งกายและใจ แต่จะเป็นอย่างไรเมื่อสถานการณ์ Covid-19 เปลี่ยนความคิดเหล่านั้นของเราไปอย่างสิ้นเชิง
หลังจากที่อยู่ร่วมกับโรคระบาดมาถึง 2 ปี สถานการณ์บังคับทำให้เราต้องใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับบ้านมากขึ้น หลายคนประสบปัญหาพื้นที่ทำงานและพื้นที่ผักผ่อนไม่เป็นสัดส่วนจนจิตใจเหนื่อยล้าและกลายเป็นความเครียดสะสม หรือต้องอาศัยอยู่กับครอบครัวใหญ่ตลอดเวลาแต่ไม่มีพื้นที่ส่วนตัวให้ได้ผ่อนคลาย ‘บ้าน’ ที่เคยเป็นสถานที่พักกาย พักใจ จึงถูกเปลี่ยนให้มีมิติและความหมายที่ลึกซึ้งมากกว่าที่เคย SC ASSET เปิดตัวโครงการใหม่ Bangkok Boulevard Donmueang – Chaengwattana ซึ่งเป็นโครงการแรกกับแบบบ้านซีรีส์ใหม่สุดพิถีพิถันในชื่อ ‘LANAI (ลา-ไน)’ ที่นำบรรยากาศความเป็นธรรมชาติมาผสมผสานกับการจัดสรรสเปซภายในของการอยู่อาศัยอย่างลงตัว พร้อมยกระดับชีวิตที่เปลี่ยนไปในทุกบริบท
นิยามของพื้นที่ธรรมชาติในแบบ LANAI
หากเราลองสังเกต บ้านโครงการส่วนมากมักให้ความสำคัญกับการออกแบบพื้นที่อยู่อาศัยภายใน พื้นที่เอาท์ดอร์อย่างคลับเฮาส์และสวนส่วนกลาง แต่สิ่งที่ยังขาด คือ พื้นที่กึ่งเอาท์ดอร์ของบ้านที่เปิดโอกาสให้ผู้อยู่อาศัยได้สัมผัสอากาศหรือความเป็นธรรมชาติได้บางครั้งบางครา
ความเชื่อของ SC ASSET ที่มองว่าการอยู่อาศัยที่ดีจะต้องดีไซน์และตอบโจทย์การอยู่อาศัยให้ถึงแก่น จึงสะท้อนผ่านบ้านซีรีส์ใหม่ด้วยเรื่องราวความผ่อนคลายภายในพื้นที่ LANAI (ลา-ไน) ซึ่งเป็นลานระเบียงในร่มที่มีต้นกำเนิดจากบ้านบนเกาะเล็กๆ ในฮาวาย ประเทศสหรัฐอเมริกา หากอธิบายให้เห็นภาพและเข้าใจง่ายมากขึ้น ‘ลา-ไน’ ก็คือพื้นที่ Semi-Outdoor ที่มีบริเวณกว้างมากพอให้รังสรรค์เป็นมุมพักผ่อนส่วนตัวขนาดย่อม จะเป็นมุมนั่งอ่านหนังสือ มุมทำงานเล็กๆ ที่เชื่อมต่อสู่สวน หรือ มุมจิบกาแฟยามเช้า พื้นที่เหล่านี้จะช่วยเติมเต็มการอยู่อาศัยได้เป็นอย่างดี โดยที่เราไม่จำเป็นต้องใช้เวลาอยู่ในห้องที่มีเครื่องปรับอากาศตลอดทั้งวัน ลดความอุดอู้ที่เกิดจากวิถีชีวิตการอยู่บ้านที่เปลี่ยนไปได้ไม่น้อย
LANAI บ้านซีรีส์ใหม่ที่ตอบโจทย์การอยู่อาศัยในยุคปัจจุบัน
จุดเด่นแรกของแบบบ้านซีรีส์ ‘ลา-ไน’ คือการให้ความสำคัญกับพื้นที่กึ่งภายนอกบ้าน เพื่อให้ผู้อยู่อาศัยได้สัมผัสกับลม แสงธรรมชาติและชื่นชมต้นไม้ พื้นที่สีเขียว ช่วยสร้างความผ่อนคลายเพราะบางครั้งการอยู่อาศัยก็ต้องพึ่งพาปัจจัยธรรมชาติเหล่านี้เช่นกัน ตัวบ้านออกแบบพื้นที่ระเบียงให้มีขนาดกว้างขวาง โดยจัดสรรให้มีพื้นที่ระเบียงในร่มทั้งบริเวณชั้น 1 และยาวตลอดแนวบริเวณชั้น 2 เสริมทัศนียภาพความเป็นส่วนตัวและป้องกันแสงแดดบางช่วงเวลาด้วย Dynamic Façade ที่ยืดหยุ่นและสามารถเปิด-ปิด ด้วยการพับได้อย่างสะดวก
ถึงแม้บ้านจะถูกออกแบบให้มีรูปลักษณ์โมเดิร์น เรียบง่ายและทันสมัยในคอนเซ็ปต์ ‘Modern Elegant’ แต่ก็ใช่ว่าจะนำเสนอผ่านวัสดุปูน คอนกรีต หรือกระจกในแบบโมเดิร์นดั้งเดิมเสมอไป ตัวบ้านดีไซน์เติมโทนไม้สีน้ำตาล หรือสอดแทรกพื้นที่ตั้งกระถางต้นไม้เติมความมีชีวิตชีวาของสีเขียว เพื่อสร้างบรรยากาศผ่อนคลายให้กับบ้านได้มากที่สุด
LANAI เลย์เอาท์ที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของครอบครัว
เมื่อก้าวเข้าสู่ภายใน ความรู้สึกโปร่ง โล่ง สบายทักทายเราผ่านการออกแบบระยะความสูงของฝ้ามากถึง 3.4 เมตร ทำให้บ้านขนาดใหญ่ดูไม่อึดอัดและกว้างขวางพร้อมรองรับทุกกิจกรรม ซึ่งเลย์เอาท์ภายในก็จัดสรรให้ผู้อยู่อาศัยสามารถใช้งานได้อย่างเต็มที่ โดยทุกฟังก์ชันเรียงรายเป็นสัดส่วน พื้นที่สำหรับแม่บ้าน ห้องครัวไทย และห้องน้ำถูกจัดสรรไว้ด้านหนึ่งของตัวบ้าน ในขณะที่อีกมุมหนึ่งเป็นพื้นที่รับประทานอาหารและห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่ของครอบครัว แทรกตัวไปด้วยห้องนอนส่วนตัว 2 ห้องที่ถูกออกแบบให้เหมาะสมสำหรับผู้สูงอายุ หรือจะปรับเปลี่ยนให้กลายเป็นห้องทำงาน หรือห้องออกกำลังกายก็ช่วยให้ไลฟ์สไตล์การอยู่บ้านเป็นสัดส่วนมากขึ้นได้
(ห้องนั่งเล่นที่เชื่อมต่อสู่ห้องรับประทานอาหาร)
การใช้งานฟังก์ชันยังมีขนาดที่เพียงพอต่อการอยู่อาศัยเป็นครอบครัวใหญ่ อย่างเช่น การใช้งานห้องครัวที่ออกแบบในลักษณะตัว U ซึ่งสามารถใช้งานพื้นที่ทำอาหารได้อย่างเต็มที่เชื่อมต่อสู่ส่วนเคาน์เตอร์บาร์และแพนทรี่ หรือพื้นที่เอาท์ดอร์รอบตัวบ้านที่สามารถดีไซน์ให้เป็นมุมพักผ่อน ไลฟ์สไตล์สเปซที่เชื่อมความสัมพันธ์ของความเป็นครอบครัวและบ้านได้อย่างลงตัว
เลย์เอาท์บ้านออกแบบให้มีทั้งมุมพักผ่อนของครอบครัว รวมถึงมุมส่วนตัวอย่างเป็นระบบระเบียบ Family Room แทรกตัวกลายเป็นใจกลางของพื้นที่บริเวณชั้นสอง จะดีไซน์ให้เป็นมุมเล่นเกม มุมดูภาพยนตร์ หรือมุมร้องคาราโอเกะของครอบครัวก็สามารถตอบโจทย์ทุกความต้องการ โดยพื้นที่ในส่วนที่เหลือจะเป็นห้องนอนที่มาพร้อมห้องน้ำส่วนตัวและฟังก์ชันภายในที่ครบครัน และที่สำคัญยังเชื่อมต่อสู่ระเบียงกึ่งเอาท์ดอร์ที่ถูกเรียกว่า ‘ลา-ไน’ ให้ผู้อยู่อาศัยได้มีชั่วโมงของธรรมชาติเข้ามาเป็นตัวช่วยบำบัดและผ่อนคลาย
(ห้องนอนที่ดีไซน์ให้มีฟังก์ชันภายในครบครันทั้งมุมทำงาน ห้องน้ำส่วนตัวรวม Walk-in Closet และพื้นที่ส่วนนอน)
(ห้องนอนที่ดีไซน์ให้มีฟังก์ชันภายในครบครัน เชื่อมออกสู่ ‘ลา-ไน’ หรือ ระเบียงยาวในร่มตลอดแนว)
(ห้องนอนมาสเตอร์ที่ดีไซน์ให้มีฟังก์ชันภายในครบครัน เชื่อมออกสู่ ‘ลา-ไน’ หรือ ระเบียงในร่ม)
บ้าน 3 รูปแบบของ LANAI ที่ดีไซน์พื้นที่ใช้สอยแตกต่าง
สำหรับครอบครัวขยายที่มีจำนวนสมาชิกและไลฟ์สไตล์แตกต่างกัน พื้นที่ใช้สอยภายในบ้านก็ย่อมต้องมีขนาดและการใช้งานที่แตกต่างกันตามไปด้วย ‘ลา-ไน’ บ้านซีรีส์ใหม่จึงออกแบบให้มี 3 รูปแบบเป็นทางเลือกสำหรับการอยู่อาศัย ซึ่งทุกรูปแบบยังคงคอนเซ็ปต์การแบ่งพื้นที่และการให้ความสำคัญของพื้นที่กึ่งเอาท์ดอร์เช่นเดียวกัน เพียงแต่แตกต่างกันด้วยขนาดพื้นที่ใช้สอย
Captivate แบบบ้านขนาดใหญ่ที่สุด มีฟังก์ชัน 5 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ ห้องรับแขก ห้องครัว ห้องรับประทานอาหาร ห้อง Family Room ห้องแม่บ้าน และที่จอดรถ 3 คัน บนพื้นที่ใช้สอยกว่า 360 ตารางเมตร
Shade บ้านขนาดกลางที่มีฟังก์ชัน 5 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ ห้องรับแขก ห้องครัว ห้องรับประทานอาหาร ห้อง Family Room และที่จอดรถ 2 คัน บนพื้นที่ใช้สอย 279 ตารางเมตร
Calm บ้านขนาดกระทัดรัดที่มีฟังก์ชันมากถึง 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ ห้องรับแขก ห้องครัว ห้องรับประทานอาหาร ห้อง Family Room และที่จอดรถ 2 คัน บนพื้นที่ใช้สอย 231 ตารางเมตร
ฟังก์ชันส่วนกลางที่พร้อมยกระดับทุกการอยู่อาศัย
ไม่เพียงตัวบ้านที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการ แต่ฟังก์ชันที่พร้อมยกระดับคุณภาพชีวิตยังส่งต่อสู่การดีไซน์พื้นที่ส่วนกลางเพื่อรองรับทุกกิจกรรมของผู้อยู่อาศัย ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ Club House Fitness Kid’s room Co-working Space สระว่ายน้ำ พื้นที่สีเขียวส่วนกลางตลอดจนซุ้มประตูทางเข้า โดยทั้งหมดออกแบบภายใต้แนวคิด ‘Futuristic’ ที่นำเส้นสายลื่นไหล ลบเหลี่ยมมุม มาสร้างความโดดเด่นให้กับพื้นที่โครงการได้เป็นอย่างดี สภาพแวดล้อมการอยู่อาศัยที่เป็นมิตร จึงพร้อมยกระดับการใช้ชีวิตของสมาชิกครอบครัว
Live – Work – Play ลงตัวในทุกบทบาทของชีวิต
ถึงแม้สถานการณ์ Covid-19 จะลดชั่วโมงและจำกัดชีวิตของเราให้แคบลง แต่แน่นอนว่าสุดท้ายแล้วบทบาทของชีวิตก็ไม่ได้มีเพียงการอยู่อาศัยภายในบ้านเพียงเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการพบปะเพื่อนฝูง สังสรรค์ สนุกกับการเดินทางและการทำงาน การจะเลือกบ้านสักหลัง ลงหลักปักฐานเป็นที่อยู่อาศัยจึงจำเป็นต้องใส่ใจบทบาทของชีวิตในทุกแง่มุม
Bangkok Boulevard Donmueang–Chaengwattana พร้อมตอบโจทย์ดังกล่าว ด้วยทำเลที่ตั้งแถบชานเมืองติดถนนนาวงศ์– สรงประภาในย่านดอนเมือง-แจ้งวัฒนะ ซึ่งใกล้ทางด่วนเพียง 5 นาที อีกทั้งยังใกล้แลนด์มาร์ค โรงพยาบาล สถานศึกษา หรือแหล่งรวมไลฟ์สไตล์ที่ครบครัน ทำให้เราสามารถอยู่อาศัยได้อย่างเงียบสงบ ห่างไกลความวุ่นวาย ในขณะที่ยังคงเดินทางสะดวก ไม่จำเป็นต้องละทิ้งไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตในแบบ Live-Work-Play ที่ยังเดินทางเข้าสู่ภายในเมืองได้ง่ายดาย
ฟังก์ชันการอยู่อาศัยที่ครอบคลุมทุกบริบทและความต้องการจึงทำให้โครงการ Bangkok Boulevard Donmueang–Chaengwattana กลายเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจซึ่งสามารถตอบโจทย์รูปแบบการใช้ชีวิตของสมาชิกครอบครัวในยุคปัจจุบันได้อย่างสมบูรณ์แบบ โดยราคาเริ่มต้นโครงการอยู่ที่ 10 – 20 ล้านบาท ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมทาง 065-505-8555 หรือ Line @BBDJ
รับข่าวสารเรื่องการออกแบบ สถาปัตยกรรม ไลฟ์สไตล์
ทางอีเมล ที่จะส่งตรงถึงคุณทุกเดือน ลงทะเบียนได้ที่ด้านล่างนี้เลย!