เมื่อวิถีชีวิตของทุกคนเปลี่ยนแปลงกันมากขึ้น ความต้องการที่จะมีคุณภาพชีวิตที่ดี จึงเป็นปัจจัยแรกๆ ที่ผู้คนให้ความสนใจในการใช้ชีวิต ไม่ว่าจะเป็น การออกแบบสเปซที่ดี สิ่งแวดล้อมที่ดี มองหาสิ่งที่ส่งเสริมการใช้ชีวิตให้ดียิ่งขึ้น และหนึ่งในนั้นอาจเป็นองค์ประกอบเล็ก ๆ แต่ส่งผลไม่เล็กอย่าง ‘งานวัสดุ’
นี่จึงเป็นที่มาของแนวคิดเพื่อการอยู่อาศัยที่ดีกว่าของ WDC ผู้นำเข้าวัสดุตกแต่งทั้งกระเบื้องปูพื้น และผนัง รวมถึงงานสุขภัณฑ์ที่มุ่งหวังส่งต่อทางเลือกของวัสดุที่คัดสรรมาให้แล้วว่าสวยงามทั้งดีไซน์ ใส่ใจทั้งนวัตกรรม และมีคุณภาพที่ดีในราคาที่ผู้คนสามารถเข้าถึงได้ หลังจากที่เราได้พูดคุยกับทีมผู้บริหารและมีโอกาสได้เยี่ยมชมโชว์รูมใหม่ที่เพิ่งเปิดตัว ณ อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น เราก็ไม่แปลกใจที่บริษัทวัสดุแห่งนี้จะอยู่คู่คนไทยมาเป็นเวลาเกือบ 2 ทศวรรษ
“ทางเจ้าของ เขาทำเรื่องเกี่ยวกับนำเข้า-ส่งออก หรือตัวผมเองก็มีโอกาสไปอยู่ต่างประเทศเยอะ ทั้งอเมริกา จีน สิงคโปร์ ยุโรป ออสเตรเลีย เราได้เห็นว่าเมืองนอกเขามีนวัตกรรม สินค้า วัสดุตกแต่งเยอะมาก ซึ่งเมื่อเกือบ 20 ปีที่แล้วทางเลือกวัสดุตกแต่งในไทยมันมีน้อยมาก เรามองเห็นจุดนั้นและคิดว่า แล้วทำไมเราไม่มาเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้กับคนไทยล่ะ” คุณแบงค์-บัณทิต หิรัญญนิธิวัฒนา CEO แห่ง WDC เริ่มต้นเล่า
Innovative, Design และ Value
ส่งต่อคุณภาพชีวิตผ่านการเลือกใช้วัสดุ
เมื่อสภาพแวดล้อมดี สเปซที่อยู่อาศัยดี แน่นอนว่าคุณภาพชีวิตที่ดีย่อมตามมา เป็นเหตุผลว่าทำไมยุคหลังผู้คนถึงให้ความสำคัญกับการออกแบบอาคารหรือที่พักอาศัยมากขึ้นเรื่อย ๆ
นอกเหนือจากการเป็นทางเลือกที่คุณแบงค์ CEO เล่าถึง แนวคิดสำคัญของ WDC เป็นความตั้งใจในการพัฒนาความเป็นอยู่ของผู้คนผ่านวัสดุตกแต่งที่เน้น 3 วิสัยทัศน์หลัก นั่นคือ Innovative, Design และ Value ที่มองหาและคัดสรรสินค้านวัตกรรมใหม่ ๆ ดีไซน์สวยจากทั่วโลก มาสะสมเป็นคอลเล็กชันทางเลือกใหม่ ๆ มากมาย เพื่อให้ลูกค้าหลายหลายกลุ่มไม่ว่าจะเป็น ผู้ใช้ทั่วไป นักพัฒนา เจ้าของอสังหาริมทรัพย์ ผู้รับเหมา รวมถึงกลุ่มดีไซน์เนอร์ สามารถนำวัสดุเหล่านี้ไปพัฒนา Living Space ที่ส่งเสริมคุณภาพชีวิตได้อย่างเหมาะสม
ยกตัวอย่างเช่น MICROTEC Technology กระเบื้องกันลื่นอัจฉริยะที่เมื่อพื้นเปียก จะเพิ่มค่า R ที่ช่วยกันลื่น เพิ่มความปลอดภัยในการใช้งานสำหรับเด็กและคนชรา หรือ QUADRA Bigslab กระเบื้องลายหินอ่อนไซส์ใหญ่พิเศษ
พัฒนาร่วมกับทีมผู้ผลิตจากทั่วทุกมุมโลก
อีกหนึ่งจุดเด่นที่น่าสนใจ คือ ทาง WDC คัดสรร และทำการผลิตร่วมกับเครือข่ายพาร์ทเนอร์ที่มีคุณภาพจากทั่วทุกมุมโลก จากกลุ่มคนที่มี Passion เดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นยุโรป จีน อินโดนีเซีย มาเลเซีย หรืออเมริกาใต้ ทำให้เกิดคอลเล็กชันใหม่ที่กลายเป็น Specialist ของงานกระเบื้องที่ไม่เหมือนใคร และด้วยคลังความรู้ know-how จากทั่วโลกที่เก็บสะสมไว้ยังทำให้ WDC รับบทบาทเสมือนเป็นที่ปรึกษาด้านวัสดุที่สามารถชี้แนะถึงปัญหา ความเหมาะสม หรือเทรนด์ของวัสดุให้กับกลุ่มลูกค้าได้เป็นอย่างดี
“กับทีมพาร์ทเนอร์เหล่านี้ เราเป็นเหมือนเพื่อนกันไปแล้ว ใช่ว่าไปนั่งโต๊ะใส่สูทผูกไทน์คุยกันนะ เราเหมือนเพื่อนที่นัดเจอ กินข้าวคุยเล่นสนิทกันมากกว่า ทุกครั้งที่ได้คุยกันในลักษณะนั้น มันเลยมักจะเกิดอะไรที่สร้างสรรค์ใหม่ๆ ขึ้นมาเสมอ”
Research, Experience, Trends
วัสดุแต่งบ้านเปรียบเสมือนแฟชั่นที่ไม่มีวันหมดอายุ
“เพราะทุกวันนี้ดีไซน์อย่างเดียวมันไม่พอเพียง ดีไซน์ต้องมาคู่กับนวัตกรรมและความคุ้มค่า แต่ละผลิตภัณฑ์ที่เราคัดสรรมา มันจึงเกิดจากการที่เราไปค้นคว้า วิจัย ศึกษาตลาดผู้บริโภค เราไปดูตลาดหินของเมืองนอก ยุโรปเขามีอะไรดี หินบราซิลอะไรแจ๋ว เพื่อให้เราพัฒนาสิ่งเหล่านี้ไปถึงจุดที่เราสามารถรู้ได้ว่า เทรนด์อีก 5 ปี หินตัวนี้จะมาแน่นอน”
จากความเชื่อที่ว่าวัสดุตกแต่งบ้านก็เปรียบเสมือนแฟชั่นที่ไม่มีวันหมดอายุ การจะเลือกสรรวัสดุ และผู้ผลิตในแต่ละครั้ง WDC ยึดหลักคิดด้วย Research (การค้นคว้า), Experience (ประสบการณ์) และ Trends (ความนิยม) ที่พยายามทำความเข้าใจถึงตลาดการดีไซน์ทั้งในไทยและระดับโลก เพื่อให้ผลิตภัณฑ์ที่จะถึงมือลูกค้าตรงกับความต้องการมากที่สุด ตั้งแต่การค้นคว้าว่าหินอะไรกำลังจะหมดไปจากโลก ไปจนถึงเทรนด์ของสี ที่คุณแบงค์เปรียบเหมือนกางเกงส์ยีนส์ขาม้าที่วันดีคืนดีก็กลับมาฮิตอีกครั้ง เพราะฉะนั้นต้องตามเทรนด์เหล่านี้ให้ทันอยู่เสมอ
สินค้าหลากหลายที่มีให้เลือกสรร
ไม่ใช่แค่เทรนด์เหล่านั้นที่ต้องตามให้ทัน ทางแบรนด์ยังขยายขอบเขตของการเลือกสรรวัสดุให้มากขึ้นด้วยการคัดสรรวัสดุที่หลากหลาย TERRAZZO Collection ก็ไม่ได้มีให้เลือกเพียงชนิดเดียว จะชอบลวดลายของหินขนาดใหญ่ กลางหรือเล็ก ที่ WDC ก็มีให้อย่างครอบคลุม หรือแม้แต่เรื่องโทนสีในแต่ละคอลเล็กชัน ก็ยังเลือกสรรมาได้เหมาะสมกับเทรนด์การออกแบบของคนไทย และยังมีให้เลือกหลายสีสัน ซึ่งทุกสีสามารถนำไปใช้ออกแบบได้จริง และมิกซ์แอนด์แมตช์ได้ง่าย
Impossible is Possible
มองหาความเป็นไปได้ใหม่ ๆ อยู่เสมอ
เมื่อโจทย์หลัก คือการมุ่งพัฒนาชีวิตผู้คน ทีมแบรนด์จึงมีการคิดอยู่เสมอว่าจะทำอย่างไรให้สินค้าพัฒนาไปได้ดีขึ้นได้เรื่อย ๆ จาก Pain Point ของผู้ใช้งานจริงที่ได้พบเห็น จากแนวคิดดีไซน์เนอร์และผู้รับเหมา นำมาสู่ความเป็นไปได้ใหม่ ๆ ที่เกิดจากการคิดนอกกรอบ อย่างกระเบื้องคอลเล็กชันใหม่ล่าสุดที่เพิ่งมีการเปิดตัว ณ โชว์รูมแห่งใหม่ขอนแก่นในชื่อ “SPOT Glazed Texture Invention” ซึ่งเป็นกระเบื้องสามมิติเทคโนโลยีผิวสัมผัสเสมือนหินธรรมชาติ ที่นำแนวคิดความทนทาน ดูแลรักษาง่ายของงานกระเบื้องเข้ามาผสมผสานกับรูปลักษณ์ความเป็นธรรมชาติของหินจริงได้อย่างลงตัว การันตีด้วยรางวัล Red Dot Design Awards จากประเทศเยอรมนี และ Green Lebel Certification จากสภาสิ่งแวดล้อมประเทศสิงคโปร์
ยกระดับวงการดีไซน์และวัสดุไทยให้เป็นที่รู้จัก
หนึ่งในการมองหาความเป็นไปได้ใหม่ ๆ อยู่เสมอ คือแนวคิดในการยกระดับวงการดีไซน์และวัสดุไทยให้เป็นที่รู้จัก ผ่านการชักชวนสถาปนิกแนวหน้าของไทยที่รู้จักกันไปทั่วโลกอย่างคุณดวงฤทธิ์ บุนนาค แห่ง DBALP มาสร้างสรรค์คอลเล็กชันใหม่ ‘MEDIATE Collection’ ซึ่งเป็นวัสดุกระเบื้องทดแทนหิน ที่ออกแบบพื้นผิวและโทนสีพิเศษได้แรงบันดาลใจจากความเป็นธรรมชาติ เพื่อให้กระเบื้องเป็นวัสดุที่สอดประสานให้งานออกแบบและสถาปัตยกรรมกลายเป็นเนื้อเดียวกัน (coherence) ได้อย่างงดงามและน่าสนใจ ซึ่งสำหรับวัสดุตัวนี้อาจจะต้องรอติดตามชมกันต่อไปในช่วงต้นปี 2022 นี้
“ที่ผ่านมาผู้ผลิตในประเทศไทย มักจะเน้นสถาปนิกและผู้ออกแบบชาวต่างชาติอย่างอิตาลี หรือญี่ปุ่น มาร่วมมือสร้างสรรค์เป็นคอลเล็กชันพิเศษ แต่เรายังไม่ค่อยเห็นบทบาทของสถาปนิกไทยในการออกแบบวัสดุเท่าไรนัก ทาง WDC เราเลยเห็นความสำคัญของฝีมือชาวไทยตรงนี้ เพื่อยกระดับให้ดีไซน์เนอร์ไทยเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก”
Customer Experience
ประสบการณ์ของผู้ใช้งานเป็นสำคัญ
ด้วยความที่มองว่าการพัฒนาทางด้าน Customer Experience มีความสำคัญไม่น้อยไปกว่าแนวคิดอื่น ๆ การออกแบบโชว์รูมในทุกสาขาของ WDC จึงให้ความสำคัญกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นในพื้นที่ค่อนข้างมาก ซึ่งล่าสุดคือโชว์รูมแห่งใหม่บนถนนมิตรภาพ อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ซึ่งถึงแม้จะมีขนาดไม่ใหญ่นัก แต่ทุกจุดของพื้นที่ 385 ตารางเมตรนี้ก็อัดแน่นไปด้วยตัวอย่างของวัสดุ และไอเดียดี ๆ ที่เพิ่มการรับรู้และประสบการณ์กับผู้มาเยือน
จากบริเวณทางเข้า เราจะพบกับส่วน reception ต้อนรับแบบ self-service cafe เล็ก ๆ ที่จะนั่งสบาย ๆ หรือจะนั่งเจรจาธุรกิจแบบ Informal ก็สามารถทำได้ ก่อนจะเชื่อมไปยังพื้นที่จัดแสดงส่วนต่าง ๆ ที่ Mock-up สินค้าและยังสามารถใช้เป็นพื้นที่รับรองลูกค้าได้จริง ส่วนในโซนของการจัดแสดงกระเบื้อง ทีมดีไซน์เนอร์พยายามจะเน้น Mock-up สินค้าภายในพื้นที่ขนาดค่อนข้างใหญ่ เพื่อให้ลูกค้าสามารถเข้าใจแนวทางการปูกระเบื้องแบบต่าง ๆ ซึ่งบางลวดลายจะมีรายละเอียด และความ Random ที่ไม่ซํ้ากัน ส่วนที่เราชอบเป็นพิเศษ คือ พื้นที่โชว์สินค้าที่มีฟังก์ชันชัดเจนในตัวเองและใช้งานได้จริง อย่างห้องประชุมเปิด
โซนจัดแสดงกระเบื้องเต็มแผ่น ถูกแบ่งพื้นที่ด้วยขนาดของกระเบื้องเป็นหลักเพื่อให้ง่ายต่อการจัดแสดง จัดเก็บ อีกทั้งลูกค้ายังสามารถเดินชมและเข้าใจถึงสเกลของกระเบื้องได้ง่าย ๆ ด้วยตนเอง สามารถหยิบขึ้นมาเปรียบเทียบ หรือวางเรียงเพื่อดูลายแผ่นต่อแผ่นได้อย่างสะดวก โดยเริ่มจากกระเบื้องขนาด 60 x 120, 60 x 60, Mega tile, 30 x 60, 30 x 30, Synthetic Woods และ Decorative material (Mosaic, Subway Tile)
สำหรับใครที่กำลังมองหาไอเดีย วัสดุตกแต่งพื้น ผนังใหม่ ๆ หรือเริ่มสนใจการออกแบบตกแต่งบ้านด้วยตนเอง สามารถเข้าไปชมได้ที่เว็ปไซต์ www.wdc.co.th สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 043-085-688 , 085-496-4946 หรือจะมาเยี่ยมชมโชว์รูมแห่งใหม่ที่ WDC Showroom khonkaen บนถนนมิตรภาพ อำเภอเมืองจังหวัดขอนแก่น เปิดให้บริการแล้ววันนี้ เวลา 09.00-18.00 น.
รับข่าวสารเรื่องการออกแบบ สถาปัตยกรรม ไลฟ์สไตล์
ทางอีเมล ที่จะส่งตรงถึงคุณทุกเดือน ลงทะเบียนได้ที่ด้านล่างนี้เลย!