ด้วยราคาคอนโดมิเนียมกลางเมืองกรุงเทพฯ ที่ดูเหมือนว่าราคาจะสูงขึ้นทุกขณะ และยังมีขนาดห้องที่เล็กกว่าเดิมขึ้นไปทุกที ปัจจุบันการเลือกคอนโดมิเนียมเพื่ออยู่การอาศัยจึงได้เลือกทำเลที่ตั้งถัดออกมาจากใจกลางเมืองเล็กน้อย แต่มาพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่มีมากกว่า เพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนเมืองให้ได้มากที่สุด
เช่นเดียวกับ Aspire เอราวัณ ไพร์ม คอนโดมิเนียมสุดสมาร์ทที่ตอบโจทย์ ทั้งเรื่องของดีไซน์ที่ใหม่ สะดวกสบาย ปลอดภัยเข้ากับวิถีชีวิตยุคปัจจุบันด้วย Smart Living และ Standard Hygiene กับส่วนกลางที่สามารถพาเพื่อนมาร่วมทำกิจกรรมด้วยกันได้มากถึง 30 จุด บนพื้นที่ที่มีการจัดเตรียมไว้โดยเฉพาะ พร้อม Unit Layout ห้องหน้ากว้าง แยกสัดส่วนการใช้งานชัดเจนพร้อมใช้งานได้จริงทุกตารางเมตร
Smart Living การอยู่อาศัยที่สะดวกสบายผ่านการสัมผัส
ระบบ Smart Living ช่วยทำให้การอยู่อาศัยสะดวกสบายเพียงแค่ใช้นิ้วสัมผัสไปบน Smart Application เท่านี้ผู้อยู่อาศัยก็สามารถจองได้ทั้งห้องประชุม ห้องดูหนัง ตอบโจทย์ทุกการใช้งาน จะมาแบบเดี่ยวก็มี Hot Desk หรือแบบกลุ่มก็มีเป็นห้องแบบ Private หรือ ขับรถยนต์เข้า – ออกโครงการได้อัตโนมัติจากการอ่านป้ายทะเบียนรถด้วยระบบ CCTV และยังสามารถลงทะเบียนผู้มาเยือนด้วยทะเบียนรถยนต์พร้อมประทับตาเข้าออกผ่านมือถือ เมื่อขับเข้ามาที่พื้นที่จอดรถ และเห็นว่ามีที่จอดว่าง แต่กลับมีรถจอดขวางอยู่ และไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ก็สามารถค้นหาเจ้าของเพื่อติดต่อได้โดยง่าย และรวดเร็ว ภายใน Application จะแจ้งเตือนเมื่อมีผู้มาเยือน หรืออยู่เกินเวลา หากผู้อยู่อาศัยต้องการความเป็นส่วนตัวก็สามารถกดปฏิเสธการต้อนรับของผู้มาเยือนได้ เพื่อเสริมความปลอดภัยที่มากขึ้น การเข้า-ออกประตู และตู้เซฟ ใช้ระบบ Smart Locker นอกจากนี้ Application ยังสามารถติดตามพัสดุ ติดต่อช่างสำหรับงานซ่อมแซม หรือจองพื้นที่ส่วนกลาง รวมไปถึงหากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขณะออกกำลังกายใน ฟิตเนส และห้องอบไอน้ำ ยังมีปุ่มฉุกเฉินสำหรับเรียก รปภ. หรือตำรวจได้ การใช้ Application จะไม่มีเรื่องติดขัดใด ๆ เพราะอาคารทั้งหมดครอบคลุมด้วยระบบอินเทอร์เน็ตที่รวดเร็ว ซึ่งไม่ว่าจะทำกิจกรรม หรือ พักผ่อน ก็สะดวกสบายคลายกังวล
สร้างสุขภาวะที่ดีด้วย Standard Hygiene
ในเวลานี้ไม่ว่าจะเป็นโรคระบาด ฝุ่น ก็เป็นปัญหาสำคัญสำหรับที่พักอาศัย Standard Hygiene จึงเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์เพื่อสร้างวิถีชีวิตใหม่ที่เน้นไปที่ความปลอดภัย และสุขภาวะที่ดีของผู้อยู่อาศัย ด้วยการออกแบบให้อาคารสามารถถ่ายเทอากาศได้ง่าย พร้อมทาสีแบบพิเศษลดการสะสมของเชื้อโรค และออกแบบฉากกั้นกระจกในพื้นที่ส่วนกลาง นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยีเข้าช่วยเสริมทัพ ไม่ว่าจะเป็น ประตูอัตโนมัติลดการสัมผัส เครื่องฟอกอากาศอนุภาคไฟฟ้าทำลายเชื้อรา ไวรัส และแบคทีเรียไม่ให้แพร่กระจาย รวมไปถึงฟิล์มป้องกันแบคทีเรีย และไวรัสติดตั้งไว้ในลิฟต์ และที่จับประตูทุกส่วน
พื้นที่ทั้ง 4 ขนาด สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันได้ตามต้องการ
อีกสิ่งที่น่าสนใจคือ พื้นที่ใช้สอยภายในห้องที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการของผู้อยู่อาศัย แบ่งพื้นที่ได้อย่างเป็นสัดส่วน มีขนาดห้องให้เลือกมากถึง 4 ขนาด ได้แก่
รูปแบบ A ขนาด 27 ตารางเมตร ขนาดห้องกะทัดรัด มีให้เลือก 3 Type โดย Type ที่ 1 มีขนาด 5.22 x 5.15 เมตร เมื่อเปิดเข้าไปในห้องจะพบกับส่วนของ แพนทรี่ก่อนที่เป็นส่วนของพื้นที่รับแขก จากนั้นจึงเข้าสู่ห้องนอน และห้องน้ำ นอกจากนี้ยังมี Type ให้เลือกอีก 2 แบบ คือ ขนาด 5.37 x 5.15 ซึ่งมีความคล้ายคลึงกับ Type ที่ 1 แต่สลับห้องนอนมาอยู่ทางด้านขวา ส่วนแพนทรี่ และพื้นที่รับแขกสลับมาอยู่ทางด้านซ้ายแทน และ Type สุดท้าย ขนาด 3.64 x 7.20 ห้องแนวยาวออกแบบให้เป็น Open Plan ที่ให้ความรู้สึกห้องมีขนาดใหญ่มากยิ่งขึ้น
รูปแบบ B ขนาด 32 ตารางเมตร ขนาดห้องกำลังพอดี โดย Type ที่ 1 ขนาด 5.40x 6.05 เมตร เมื่อเดินเข้าไปจะพบกับห้องรับแขก เมื่อเดินถัดมาจะเป็นพื้นที่ในส่วนของครัว และห้องน้ำ ส่วนพื้นที่ด้านในสุดติดระเบียงจะเป็นส่วนของห้องนอน และห้องแต่งตัว นอกจากนี้ยังมีอีก 2 Type ให้เลือก คือขนาด 5.40 x 6.05 เมตร มีการปรับเปลี่ยนห้องครัวไปไว้แทนที่ห้องแต่งตัว แต่ส่วนอื่น ๆ จะเหมือนกับ Type ที่ 1 และ Type สุดท้ายมีขนาด 5.40x 6.05 เมตร ห้องนี้จะเหมือนกับ Type ที่ 1 เช่นกัน แต่ได้เพิ่มระเบียงสำหรับเชื่อมต่อการเข้าถึงสระว่ายน้ำส่วนกลางได้ง่ายมากขึ้น
รูปแบบ C ขนาด 35-38 ตารางเมตร มีทั้งหมด 4 Type โดย Type ที่ 1 มีขนาด 5.40x 6.70 เมตร เมื่อเดินเข้าไปจะพบกับแพนทรี่ และส่วนรับแขก จากนั้นจึงเข้าสู่ห้องนอนที่อยู่ด้านในสุด และห้องนอนทางด้านขวา ใน Type ที่ 2 มีขนาด 5.40x 6.70 เมตร ได้มีการเพิ่มส่วนครัวให้มีขนาดใหญ่ขึ้น และลดขนาดห้องนอนที่สองลง ใน Type ที่ 3 ขนาด 6.70 x 5.67 เมตร มีการจัดวางฟังก์ชันเหมือน Type ที่ 2 ซึ่งมีหน้าที่กว้างกว่า แต่ได้แนวยาวที่สั้นลง และสุดท้าย Type ที่ 4 มีขนาดและการจัดวางแบบ Type ที่ 1 แต่มีการเสริมระเบียงที่เชื่อมต่อกับสระว่ายน้ำส่วนกลางได้
รูปแบบ D ขนาด 46 ตารางเมตร โดย Type ที่ 1 มีขนาดส่วนรับแขก และห้องนอนที่กว้างขวาง รวมไปถึงส่วนครัวที่ถูกจัดวางไว้อย่างเป็นสัดส่วน ส่วน Type ที่ 2 มีการจัดวางแบบ Type ที่ 1 เพียงแค่สลับฟังก์ชันจากซ้ายไปขวา แต่ที่แตกต่างกันชัดเจนคือ Type ที่ 2 มีระเบียงที่เชื่อมต่อกับสระว่ายน้ำส่วนกลางได้
ฟังก์ชันส่วนกลางที่มีมากถึง 30 จุด
พื้นที่ส่วนกลางมากถึง 30 จุด โดยเริ่มจากพื้นที่ชั้นแรก ที่ภายในประกอบไปด้วย พื้นที่พักคอย พื้นที่ Co-Working Space ขนาดใหญ่ และห้องประชุมที่เพิ่มความเป็นส่วนตัวมากขึ้นในการทำงาน ซึ่งสามารถจองล่วงหน้าได้ ไม่ต้องคอยลุ้นว่าจะมีพื้นที่ว่างหรือไม่ และอินเทอร์เน็ตฟรีที่ครอบคลุมทุกพื้นที่ส่วนกลาง หากอยากยืดเส้นยืดสายก็สามารถเดินออกไปรับลมบนสวนขนาดใหญ่ พร้อมเชิญชวนให้คุณเล่นกีฬาอย่างบาสเก็ตบอลอยู่ตลอดเวลา เมื่อเหนื่อยล้า และเริ่มหิวก็สามารถแวะเข้าร้านสะดวกซื้อที่เปิดตลอด 24 ชั่วโมง
เท่านั้นยังไม่พอในบริเวณพื้นที่ชั้น 7 ยังมี Co-Working Space ห้องเลาจน์ ห้องดูหนัง ฟิตเนส และสระว่ายน้ำ หรือถ้าอยากจะเปลี่ยนบรรยากาศอีก ชั้นดาดฟ้าก็มีพื้นที่สำหรับนั่งเล่น ทำงาน พร้อมชมเมืองกรุงเทพฯ และสมุทรปราการ ได้อีกด้วย
Aspire Erawan Prime ตั้งอยู่ในทำเลที่ดีมีชัยไปกว่าครึ่ง
จะเห็นว่าเส้นทางสุขุมวิทที่สามารถเข้าถึงได้ง่ายด้วยรถไฟฟ้า ทำให้ผู้คนสนใจเข้ามาอยู่อาศัยกันมากขึ้น และส่งผลถึงสิ่งอำนวยความสะดวกที่มากขึ้นตามลำดับ เช่นเดียวกับ Aspire เอราวัณ ไพร์ม ที่ตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิทติดกับสถานีช้างเอราวัณ ที่ในอนาคตพื้นที่บริเวณโดยรอบจะกลายเป็นพื้นที่มีมูลค่าเพราะห้างร้านจะเริ่มเข้ามาก่อตั้ง เนื่องจากเป็นสถานีที่เชื่อมต่อกับเส้นอโศก-สยาม โดยไม่ต้องเปลี่ยนสถานี และโมโนเรลสายสีเหลืองก็กำลังจะแล้วเสร็จในปีนี้อีกด้วย
คอนโดมิเนียมทำเลที่ดี ๆ แบบนี้ราคาเริ่มต้น 2.05 ล้านบาท ซึ่งหากจองวันนี้เพียง 666 บาท ผ่อนเริ่มเดือนละ 3,990 บาท/เดือน พร้อมเข้าอยู่ได้เลย ราคาแบบนี้ดีกว่าเช่าเป็นไหน ๆ สำหรับใครที่สนใจสามารถดูรายละเอียดหรือลงทะเบียนโครงการได้ที่ https://bit.ly/3LWRQDp หรือติดต่อสอบถามได้ที่ 1623
รับข่าวสารเรื่องการออกแบบ สถาปัตยกรรม ไลฟ์สไตล์
ทางอีเมล ที่จะส่งตรงถึงคุณทุกเดือน ลงทะเบียนได้ที่ด้านล่างนี้เลย!