บ้านที่ดีในความรู้สึกอาจจะไม่จำเป็นต้องโดดเด่น หวือหวา หรือมีราคาทีแพงอะไร แต่ความสำคัญต้องมีฟังก์ชันครบองค์ประกอบที่จะทำให้ตอบโจทย์การใช้ชีวิต ได้ในทุกๆ อิริยาบถ เมื่อกลับมาจากการทำงานหนัก บ้านจึงเป็นสถานที่ที่เราได้พักกาย และใจได้ในยามเหนื่อยล้าทุกช่วงเวลา
เหมือนกับบ้าน BAAN KHUN MOR OHM ในตัวเมืองจังหวัดเชียงใหม่ เมื่อคุณหมอโอมกลับมาจากการทำงานที่หนัก และกดดันทั้งวัน บ้านหลังนี้จึงเปรียบเสมือนกับเป็นพื้นที่อิสระสำหรับการพักผ่อนให้กับตัวคุณหมอ การออกแบบได้สถาปนิกเจ้าถิ่นอย่าง Mitr Architects เข้ามาสร้างสรรค์บ้านให้ดูดิบ เนี้ยบ เท่ ได้ไม่เหมือนใคร
ความเครียดจากการทำงานของหมอทำให้บ้านเกิดความเป็นส่วนตัว
จากโจทย์ของคุณหมอโอมที่ต้องการให้สถาปนิกออกแบบบ้านชั้นเดียว โดยที่คุณหมอมีพื้นที่อยู่ 1 แปลง จึงนำพื้นที่นี้มาพูดคุยกับทางสถาปนิก ในเรื่องของความต้องการ และให้สถาปนิกออกแบบบ้านให้ตรงกับไลฟ์สไตล์ของคุณหมอได้อย่างเต็มที่
“บ้านหลังนี้เริ่มวิเคราะห์ที่ตัวบริบทเป็นหลัก บริเวณรอบบ้านรายล้อมไปด้วยถนน และที่พักอาศัยทั้ง 4 ด้าน ด้วยอาชีพหมอศัลยกรรม และผ่าตัดใหญ่ ซึ่งเป็นงานที่มีรายละเอียด จึงมีความเครียดและความกดดันที่สูงมาก คุณหมอจึงต้องการให้บ้านมีความเป็นส่วนตัว ดูผ่อนคลาย และร่มรื่น”
ความดิบเท่ แต่เนี้ยบตามที่คุณหมอต้องการ
ในช่วงแรกสถาปนิกต้องการให้บ้านหลังนี้ดูอบอุ่นผ่อนคลาย แต่เมื่อสัมผัสถึงวิถีชีวิตของคุณหมอ ที่ต้องการความมืด ในการดูภาพยนต์ และต้องการสวนสีเขียว รวมไปถึงพื้นที่ในการจัดปาร์ตี้สำหรับรองรับพื้นฝูง จึงได้ปรับเปลี่ยนแผนการออกแบบใหม่ แต่นั่นก็ไม่ใช่อุปสรรคอะไรเพราะเป็นสไตล์การออกแบบที่สถาปนิกถนัดอยู่แล้ว
“ตอนแรกเราอยากให้บ้านรู้สึกอบอุ่น สว่าง และผ่อนคลาย ซึ่งจะดูขัดแย้งกับที่มันเสร็จแล้ว เพราะพอเราได้สัมผัสกับตัวคุณหมอโอมแล้วเขาต้องการให้บ้านเป็นสีดำ และในตอนกลางวันเขาชอบดูภาพยนตร์ในห้องมืดๆ เมื่อดูเสร็จเปิดผ้าม่านออกมาก็มีคอร์ทยาร์ดสวนสีเขียว การออกแบบจึงใช้เหล็ก คอนกรีต และสีดำ มาใช้เป็นวัสดุหลัก พร้อมจัดวางอาคารไว้แนวขอบไซต์ที่ดินตามกฎหมาย”
ในพื้นที่ห้องนั่งเล่น ประกอบไปด้วยพื้นที่นั่งดูทีวี รับประทานอาหาร และในส่วนห้องครัวที่ถูกทำให้ยกระดับขึ้นเป็นสัดส่วนและไฮไลท์อยู่ตรงที่สถาปนิกยกหลังคาในส่วนบริเวณนี้ทั้งหมดให้เป็นดับเบิ้ลสเปซ และติดตั้งกระจกสี่เหลี่ยมเป็นแพทเทิร์น เพื่อรับแสงจากทิศตะวันออก ให้เข้ามาภายในอาคาร และยังสามารถมองเห็นเครื่องบินได้จากช่องหน้าต่าง ก่อนจะเดินเข้าไปที่โถงทางเดินที่เชื่อมไปยังพื้นที่ห้องนอน และห้องน้ำ
“ที่เรายกหลังคาขึ้นเพราะมันเป็นทิศตะวันออก และเราก็ทดลองด้วยว่าถ้าหันหน้าไปฝั่งสนามบิน ก็คิดว่าจะต้องเห็นเครื่องบินผ่านตรงนี้พอดี ซึ่งเราสามารถเดินขึ้นไปมองด้วยบันไดเหล็กพับบางตรงบริเวณหลังคาจอดรถ ที่สามารถเดินวนรอบไปบนหลังคาทุกส่วนได้เลย เราจะเห็นพื้นที่ที่กว้างขึ้นเหมือนกับเป็นชั้น 2 ครึ่งของบ้าน ซึ่งก็จะเป็นพื้นที่ที่สามารถเห็นถึงดอยสุเทพในทางทิศตะตก และทางทิศตะวันออกก็จะเห็นเครื่องบินขึ้น แต่ก็ไม่ได้มีเสียงดังอะไร เพราะค่อนข้างอยู่ไกลพอสมควร”
“ในส่วนภายนอกบ้านออกแบบให้มีการปิดมิดชิดทั้งบ้าน เพราะคุณหมอชอบความเป็นส่วนตัว เราจึงเลือกทำด้านหน้ารั้วให้ปิดทึบด้วยเหล็กพับทั้งหมด แต่พอปิดทึบเราก็เลยอยากให้สเปซภายนอกไหลเข้ามาบ้างด้วยการ ยกตัวรั้วให้สูงขึ้น ประมาณ 60- 70 เซนติเมตร และเปิดช่องแสงด้านล่าง เพื่อให้ลม และแสงผ่านได้ แต่ในระยะของคนมองจะไม่สามารถเห็นได้”
สำหรับสวนที่เป็นคอร์ทยาร์ด สถาปนิกได้แนะนำสวนญี่ปุ่น หรือสวนหินให้กับทางคุณหมอ เพราะว่าคุณหมอมีข้อจำกัดในการต้องดูแลเพราะไม่ค่อยมีเวลา สวนญี่ปุ่นจึงดูตอบโจทย์ ซึ่งสามารถดูและได้ง่าย มีความเนี้ยบ และดูสดชื่นอยู่ตลอดเวลา
ดีไซน์ที่ไม่จบแค่ในแบบ
บ้านหลังนี้สถาปนิกเลือกที่จะเริ่มต้นออกแบบ จนไปถึงการก่อสร้างให้แล้วเสร็จ เนื่องจากสถาปนิกจะเห็นถึงปัญหา และรายละเอียดที่ต้องแก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งในหลายๆ จุดไม่สามารถที่จะทำจบแค่ในกระดาษได้เพียงอย่างเดียว เพราะมุมมอง และขนาดจริงจะเป็นตัวแสดงภาพของความงามออกมาได้อย่างชัดเจนที่สุด
“เป็นโปรเจกต์ที่เราเป็นส่วนหนึ่งของการก่อสร้างเลยก็ว่าได้ ทั้งงานสถาปัตยกรรม อินทีเรีย เพราะเจ้าของค่อนข้างไว้ใจ และเปิดความอิสระในการออกแบบ และก่อสร้างให้เราได้เยอะมากทีเดียว ในบางทีเวลาเราทำแบบในสตูดิโอเราอาจจะไม่ได้มองเห็นภาพทั้งหมดของงาน พอเราอยู่หน้างานเราสามารถปรับรายละเอียด ปรับไอเดียบางส่วนเพื่อให้เกิดความลื่นไหลเป็นเรื่องเดียวกัน และนำเสนอกับทางคุณหมอไป ซึ่งเขาก็ยินดี เพราะเราไม่ได้ไปเพิ่มในส่วนของงบประมาณเข้าไป และเรามองว่าไม่ได้เป็นอุปสรรคอะไร แต่เป็นความสนุกมากกว่าที่เราได้ทำงานกับเจ้าของบ้านที่เปิดโอกาส ให้กับเรา และช่างของเรา”
ตอบโจทย์ทุกการอยู่อาศัย และความต้องการ
“การออกแบบบ้านหลังนี้เราเน้นไปที่ฟังก์ชันความต้องการของคุณหมอเป็นหลัก และถัดมาค่อยคิดถึงหน้าตาอาคารให้ออกมาเรียบง่ายที่สุด เจาะลึกที่รายละเอียดต่างๆ อย่างหลังคากับผนัง ใส่เส้นเซาะร่องเพื่อให้เกิดความเนี้ยบ หรือแผ่นเหล็กพับ เราไม่ได้นำเหล็กทั้งชิ้นมาแปะ เราสั่งให้เขาพับมาจากโรงงานก่อน เพื่อให้เข้ามุมได้คมมากขึ้น เราอยากเห็นคุณหมอยิ้ม เพราะฉะนั้นสิ่งที่เราทำเสร็จมันก็ต้องตอบโจทย์การอยู่อาศัย ซึ่งเราค่อนข้างสนุกตั้งแต่ออกแบบจนจบการก่อสร้างเนื่องจากแนวคิดมันมากจากความเรียบง่ายจึงไม่ค่อยมีอุปสรรคให้เป็นกังวลเลย และเมื่อบ้านหลังนี้มีอายุมากขึ้นเราเชื่อว่าจะยังคงความเนี้ยบ เท่ แบบนี้ตลอดไป เพราะการอยู่อาศัยไลฟ์สไตล์แบบคุณหมอ”
Type : House Design, Residential
Location : Suthep, Chiang Mai, Thailand
Site Area : 428 sq.m.
Built Area : 290 sq.m.
Design : 2020-2021
Construction Cost : 4.5 M.
Architect : Mitr architects
Interior Designer : SS : Studio Sifah
Structure Engineer : Jar Pilawan
Photographer : Bo Thodsaporn
รับข่าวสารเรื่องการออกแบบ สถาปัตยกรรม ไลฟ์สไตล์
ทางอีเมล ที่จะส่งตรงถึงคุณทุกเดือน ลงทะเบียนได้ที่ด้านล่างนี้เลย!