Search
Close this search box.

คอนโดมิเนียมและโฮมออฟฟิศโทนสีขาว-ดำ ใจกลางเมือง
ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ แต่อบอุ่นแสนสบาย ในสไตล์โมเดิร์นยุโรป

ความคุ้นเคยในที่ใดที่หนึ่งต้องใช้เวลา และเมื่อคุ้นชินแล้วก็ไม่อยากปรับเปลี่ยนไปไหน เพราะเกิดภาวะความสบายที่เราพอใจ เรามาเยี่ยมคอนโดมิเนียมสีขาวสะอาดตาย่านทองหล่อของ โอ๋ – อรุจิตร เลิศกิจจา อินทีเรียร์ดีไซน์เนอร์และผู้ก่อตั้ง COQUO STUDIO เจ้าของห้องสวยและตอบโจทย์การใช้งาน ที่ทำให้เราเห็นภาพชัดขึ้นว่าการออกแบบที่ดี ช่วยให้ชีวิตวิถีความเป็นเมือง ยังคงมีความสงบและสบายใจได้อย่างไร

คุณโอ๋เล่าให้ฟังถึงที่มาที่ไปของห้องนี้ว่า “เดิมทีโอ๋อยู่ที่คอนโดนี้อยู่แล้ว ห้องเดิมขนาด 80 ตรม. แต่มีข้อจำกัดเรื่องพื้นที่ ยิ่งในช่วง Covid เริ่มระบาดใหม่ๆ และรัฐบาลเริ่มขอความร่วมมือให้ Work from home ก็ทำให้ได้ใช้เวลาอยู่บ้านมากขึ้น รวมถึงกิจกรรมและไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไป ก็ทำให้รู้สึกว่าเราขาดห้องทำงานที่สามารถทำงานได้จริง รวมถึงการออกกำลังกายที่ต้องปรับเปลี่ยนจากการเข้ายิม มาเป็นออกกำลังกายเองที่บ้าน ก็ยิ่งรู้สึกว่าคอนโดห้องเดิมขาดพื้นที่ใช้สอยส่วนกลาง ที่สามารถทำกิจกรรมต่างๆ ได้ จึงเริ่มมองหาห้องขนาดใหญ่ขึ้นในคอนโดเดิม เพราะชอบบรรยากาศและการดูแลของที่นี่ รวมถึงโลเคชั่น ที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์และการทำงานของเราด้วย”

เก่าจากไป ใหม่สุด WOW

เมื่อพื้นที่ใช้สอยเดิมมีขนาดไม่ตอบโจทย์การใช้งาน ห้องใหม่ที่คุณโอ๋เลือกมีขนาด 108 ตรม. ซึ่งเพียงพอกับการเป็นโฮมออฟฟิศขนาดเล็กได้อย่างสบาย จากที่ได้คุยกันคุณโอ๋มีความชอบเรื่องของแอนทีคและรักในสไตล์มินิมัลเป็นทุนเดิม เมื่อออกแบบห้องใหม่ จึงใช้ความชอบในสไตล์มิกซ์แอนด์แมตท์มาใช้แบบเต็มๆ ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่เธอจะสนุกไปกับโปรเจครีโนเวทนี้

คุณโอ๋เล่าว่า “การเลือกซื้อคอนโดเก่ามารีโนเวทใหม่ ข้อแรกคือได้ราคาที่ถูกกว่า ในพื้นที่ใช้สอยที่มากกว่าการซื้อคอนโดใหม่ และเราเองเป็นอินทีเรียร์ดีไซน์เนอร์เวลาซื้อคอนโดใหม่มา และต้องรื้อของที่เค้าแถมมาออก เพื่อออกแบบใหม่เป็นสไตล์ที่ตัวเองชอบ ก็รู้สึกเสียดายของที่เค้าให้มาอีก เลยคิดว่าซื้อของเก่ามารื้อ น่าจะเหมาะกว่า ไม่ค่อยเสียดายดี และก็ตอบโจทย์การใช้งานของตัวเองได้ดีกว่ามาก แถมยังได้ความตื่นเต้น ท้าทายเล็กๆเวลาที่เราปรับปรุงเสร็จออกมา แบบ wow เวลามาดูเทียบกับภาพห้องเก่า”

“ปกติเวลาจะซื้อโครงการที่ไหนสักแห่ง เริ่มแรกหลังไปดูห้องแล้ว จะต้องลองเอาแปลนเดิมมาลองจัดวางพื้นที่ใช้สอยดูก่อน ว่าสามารถปรับเปลี่ยน หรือ เพียงพอกับความต้องการของเราหรือเปล่า รวมไปถึงสามารถเพิ่มตู้เก็บของ เก็บเสื้อผ้าและรองเท้าของเราได้เพียงพอไหม” คุณโอ๋เล่าไปพร้อมเสียงหัวเราะ และเรามั่นใจว่าผู้หญิงร้อยทั้งร้อย ฝันอยากจะมีตู้เก็บเสื้อผ้าและรองเท้าแบบเต็มๆพื้นที่เช่นกัน คุณโอ๋เล่าเสริมต่อว่า “คอนโดส่วนใหญ่ถึงขนาดห้องใหญ่ แต่ก็มักจะมีพื้นที่เก็บของไม่เพียงพอ ปรากฎว่าพอมาดูห้องนี้และลองสเก็ตแปลนดู กลับตอบโจทย์เราได้ในหลายๆ ข้อ รวมถึงห้องนี้แปลนห้องเป็นห้องแบบหน้ากว้าง มีหน้าต่าง และ ระเบียงยาวตลอด ซึ่งเป็นข้อนี้ถูกใจมากๆ เพราะส่วนตัวเป็นคนชอบให้บ้านมีแสงธรรมชาติเข้าเยอะๆ พอเห็นห้องนี้แล้วรู้สึกว่าสามารถนำมาปรับการใช้งานให้เหมาะกับเราได้ไม่ยาก”

แปลนที่ตรงใจ

ความสนใจในเรื่องงานดีไซน์ต่างๆ ความชอบในการทำขนมและอาหาร การปลูกต้นไม้ หรือวาดภาพ กิจกรรมเหล่านี้ สะท้อนตัวตนของผู้อยู่ผ่านแปลนการใช้งานภายในห้อง เริ่มตั้งแต่เปิดประตูเข้ามา ด้านหน้าส่วนที่ติดกับประตูทางเข้า ออกแบบซ่อนห้องสำหรับเก็บของและส่วนซักล้าง สร้างความเป็นระเบียบในการจัดเก็บ และแบ่งการเก็บของสำหรับทำความสะอาด สต็อกของแห้ง และของที่นานๆหยิบมาใช้ครั้งได้เป็นอย่างดี

ภาพแปลนหลังจากปรับพื้นที่ใหม่

ถัดมาเป็นส่วนครัวรูปตัวแอล แบบมีไอแลนด์ อีกฝั่งออกแบบเป็นตู้เก็บของแบบเต็มพื้นที่ ภายในออกแบบอุปกรณ์ไว้ครบครัน สร้างความรู้สึกสบายตา ติดกันเป็นส่วนรับประทานอาหารซึ่งใช้เป็นพื้นที่เอนกประสงค์ไปในตัวเพราะอยู่ติดกับส่วนนั่งเล่น จึงออกแบบประตูกระจกบานเลื่อนสูงจรดฝ้า สามารถปิดแยกกับส่วนกันได้ เผื่อเวลาทำอาหารที่มีกลิ่นจะได้ ไม่รบกวนกัน

ห้องนั่งเล่น-รับแขก คุณโอ๋เน้นการใช้ Loose furniture ทั้งหมด โดยโซฟาผ้าสีครีมเป็นงานสั่งทำ จาก Misto Furniture คุณโอ๋เล่าเสริมว่า “ห้องนี้จะใช้โทนสีขาวเป็นหลัก อย่างโซฟาก็เลือกสีครีมเข้มขึ้นมานิดหน่อย พี่ชายใจดีทำให้เป็นของขวัญขึ้นบ้านใหม่ ส่วนผนังห้องนี้โอ๋ปล่อยขาวไว้ เหมือน Blank Canvas แม้แต่ Artwork ที่ติดบนผนัง ก็ตั้งใจไว้เลยว่าจะเพ้นท์เองโดยใช้เฉพาะสีขาว แต่ไปเน้นเล่น Texture เพื่อให้เล่นแสง เวลาเปิดไฟ”

ตรงส่วนกลางของห้องออกแบบเป็นผนังกั้นสัดส่วน ให้เป็นผนังหลักของบ้านจะมีรายละเอียดของงาน คิ้วบัวที่มากกว่าส่วนอื่น ซึ่งเป็นการลดทอนลวดลายในงานคลาสสิกมาปรับให้ดูร่วมสมัย เป็นแผงสำหรับซ่อนบานเลื่อนที่สามารถเปิดทะลุกับโซน ห้องทำงาน ซึ่งหากเปิดสองส่วนนี้ทะลุกัน จะได้ห้องแบบพาโนรามา มีแสงธรรมชาติเข้ามาได้อย่างเต็มที่ และอีกมุมที่เราชอบมากๆคือ Bar cabinet หรือมุมเครื่องดื่ม กาแฟ ชา หรือ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต่างๆ ออกแบบเป็นชั้นโชว์วางหนังสือตำราอาหารและหนังสือ Life style ต่าง ไว้ใช้เป็นแรงบันดาลใจในงานออกแบบ ในโทนสีที่คุณโอ๋ใช้ประจำจนคล้ายเป็น Signature อย่างสีขาว-ดำ และในห้องนี้ใช้สีขาว 80% และ สีดำ 20% ซึ่งเป็นเปอร์เซ็นต์การ Balance สีที่คุณโอ๋มักใช้ในงานออกแบบอยู่เสมอ

แสงธรรมชาติเป็นสิ่งสำคัญในห้องขนาดไม่ใหญ่มาก คุณโอ๋ออกแบบกำหนดให้แสงธรรมชาติ เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของห้องในทุกๆ พื้นที่ โดยมีหน้าต่างบานใหญ่ ช่องแสงต่างๆมีพื้นที่ระเบียงนั่งเล่น สนุกกับการปลูกต้นไม้ และชอบนั่งเล่นรับแสงแดด ยามเช้าที่ระเบียง โดยใช้พื้นไม้สักแบบสามารถติดตั้งได้เองมาปูเต็มพื้นที่ ทำให้บรรยากาศดูนุ่มนวล สบายตาขึ้น รวมถึงการติดกระจก 3 ชั้นเพิ่มเติมทั้งห้องด้วย เพื่อช่วยซับเสียงรบกวน ความวุ่นวายของเมืองภายนอก ลดปัญหากวนใจเรื่องเสียงที่หลีกเหลี่ยงไม่ได้

ใกล้กันเป็นห้องทำงานซึ่งเป็นการออกแบบห้องที่อยู่ตรงกลางของบ้านให้รู้สึกว่าไม่เป็นห้อง แต่เป็นสเปซที่เชื่อมต่อถึงกัน เป็นความตั้งใจของคุณโอ๋เอง “โอ๋ปรับพื้นที่ส่วนนี้ที่จากเดิมเป็นห้องนอนห้องที่ 2 ลดขนาดลงรวมถึงรื้อห้องอาบน้ำในห้องนอนนี้ออกไปด้วย แต่ยังคงเก็บส่วนอ่างล้างมือและชักโครกไว้ โดยสลับประตูเข้าห้องน้ำนี้ให้เข้าจากด้านนอกของส่วนห้องทำงานแทน และใช้งานเป็นห้องน้ำรับแขก

ส่วนพื้นที่อาบน้ำเดิมก็กลายเป็นมุมเก็บหนังสือและอุปกรณ์ทำงานในออฟฟิสแทน และยังมีพื้นที่หน้าห้องเพียงพอ ที่จะปรับเป็นส่วนออกกำลังกาย พวก Body weight และ cardio ได้อีกด้วย มีติดกระจกบานใหญ่เพิ่ม สำหรับตอนออกกำลัง แต่ก็ช่วยหลอกตาให้สเปซตรงนี้ดูกว้างขึ้นด้วย ส่วนห้องทำงานนี้ก็ออกแบบประตูบานเลื่อนขนาดใหญ่ทั้งสองฝั่งของห้อง โดยบานที่ติดกับส่วนออกกำลังกาย ใช้เป็นกระจกลอนลูกฟูก เพราะต้องการให้มีแสงธรรมชาติส่องผ่าน โอ๋มีความสุขกับการปรับ Layout ห้องนี้มาก รู้สึกเป็น Multi functions ที่สอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของเรา”

ในส่วนห้องนอน คุณโอ๋ออกแบบไว้อย่างเรียบง่ายมาก เน้นการใช้เฟอร์นิเจอร์ลอยตัวแบบสั่งทำสั่งหมด โดยเตียงสั่งทำจาก Misto Furniture เช่นเคย และ โต๊ะหัวเตียงจาก Perridot Design ทั้ง 2 ร้านเป็น Partners ที่คุณโอ๋รวมงานด้วยมาตลอดห้องนอนหลักนี้คงไว้ในตำแหน่งเดิม แต่ปรับเพิ่มตู้เสื้อผ้าใหม่เป็นตู้สูงเต็มทั้งผนัง มีความยาวถึง 8 เมตร ห้องน้ำ ปรับเปลี่ยนอ่างอาบน้ำเป็นแบบตั้งพื้น ทำให้ห้องรู้สึกโล่งโปร่งขึ้น ดูสบายตา ห้องอาบน้ำ จากเดิมที่มีขนาดเล็กมาก คุณโอ๋ปรับขยายให้มีขนาดที่ใช้งานได้จริงแบบไม่อึดอัด และออกแบบซ่อนช่องวางแชมพูตรงผนังด้วย

Serene & Sensibility

คุณโอ๋ชอบเดินทาง และเวลาเดินทางหรือหาแรงบันดาลใจจาก Magazine ออกแบบ ก็มักจะสะดุดตาและหลงรักอพาร์ทเมนต์ ใน Copenhagen และ Paris เป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องโทนสี คิ้วบัวผนังต่างๆ การให้แสงสว่าง และการใช้ Loose furniture แบบผสมผสานความหรูหรา และความเรียบง่ายเข้าไว้ด้วยกัน แต่ก็ยังคงความอบอุ่น แบบมีกลิ่นอายของความโรแมนติกด้วย “คอนโดห้องนี้ เป็นบ้านหลังที่ 3 ที่โอ๋ออกแบบสำหรับตัวเอง บ้านแต่ละหลังของโอ๋ ออกแบบด้วยสไตล์ที่ต่างกัน ต่างเหตุผล ด้วยวัยและรูปแบบการใช้ชีวิตของตัวเองที่เปลี่ยนไป หรือกิจกรรมที่เพิ่มขึ้นตามช่วงเวลาของชีวิต คอนโดห้องนี้ โอ๋อยากได้เป็นบ้านที่รู้สึกนุ่มนวลผ่อนคลาย อารมณ์กลับมาจากทำงาน ทำอาหาร และทานข้าวใต้แสงเทียน อารมณ์ประมาณนั้นที่จิตนาการไว้ตอนที่ออกแบบห้องนี้”

เชื่อว่าบ้านที่ดี เกิดจากปัจจัยหลายอย่างที่นอกเหนือจากความสวยงาม ทั้งการจัดวางผังที่ดี การจัดเก็บที่เป็นระเบียบ เพื่อสร้างความสะดวกสบายอย่างแท้จริง และอย่างที่คุณโอ๋ทิ้งท้ายไว้ ว่าเธอมองตัวเองเป็นแบบ Very visual person คือ อยากให้ทุกอย่างสวยงาม เป็นระเบียบ เรียบง่าย ซึ่งทั้งหมดนั้นก็ส่งผ่านทางงานออกแบบของเธอเอง ยึดหลัก “Less is More” ไม่มากไป ไม่น้อยไป แต่สบายตาและสบายใจ เท่านั้นเองค่ะ

Owner: อรุจิตร เลิศกิจจา
Interior Designer: COQUO STUDIO
Photographer: Piwat Shevakittekun

Writer
Ajchara Jeenkram

Ajchara Jeenkram

อินทีเรียดีไซน์เนอร์ แม่ฟูลไทม์ของเจ้าเด็กสองคน คอลัมน์นิสต์บางเวลา ที่ยังเชื่อว่าโลกใบนี้ ขับเคลื่อนด้วยพลังบวก ความสุขและรอยยิ้ม

Discover more from Design Makes A Better Life.

Subscribe now to keep reading and get access to the full archive.

Continue reading