Keep in Touch
รับข่าวสารเรื่องการออกแบบ สถาปัตยกรรม ไลฟ์สไตล์
ทางอีเมล ที่จะส่งตรงถึงคุณทุกเดือน ลงทะเบียนได้ที่ด้านล่างนี้เลย!
Menu
ตั้งต้นจากอาชีพโปรแกรมเมอร์ สู่นักชงกาแฟมือรางวัลที่สั่งสมประสบการณ์ เพื่อแสวงหาเมล็ดพันธุ์ดีจากแหล่งราคาสมเหตุสมผล พร้อมเสิร์ฟเป็นกาแฟหอมกรุ่นให้คอกาแฟได้ลิ้มลองในราคาที่ทุกคนเข้าถึงได้ง่าย จากคอนเซ็ปต์ทั้งหมดนี้จึงเป็นที่มาของ Hacking Coffee Roasters ที่ตั้งชื่อล้อไปกับศัพท์โปรแกรมเมอร์ พร้อมการรีโนเวทร้านกาแฟเก่าให้มีกลิ่นอายความ Sci-fi ผสาน Cyber Punk เสมือนสถาปัตยกรรมคือเครื่องจักรกลที่มีชีวิต ออกแบบโดยอินทีเรียดีไซน์รุ่นใหม่อย่าง Context Studio
อาคารที่เสมือนมีระบบคอมพิวเตอร์เป็นตัวควบคุม
จากโจทย์และคอนเซ็ปต์ที่ค่อนข้างเฉพาะทางและชัดเจนในตัวเอง คุณต้น– บดินทร์ พลางกูร ดีไซน์เนอร์ผู้รับหน้าที่ออกแบบจึงเริ่มต้นแนวคิดที่มีความ Futuristic นิด ๆ ผสมโลกดิสโทเปียหน่อย ๆ เพื่อให้บรรยากาศของร้านมีกลิ่นอายแบบหนังไซไฟที่หลายคนคุ้นเคย เริ่มต้นตั้งแต่บริเวณทางเข้าที่ดีไซน์ให้ลึกลับ น่าค้นหาด้วยการซ่อนทางเข้าหลักไว้บริเวณด้านข้าง และสร้างขอบเขตให้ชัดเจนด้วยการสร้างผนังยาวในโทนสีดำด้วยไม้สนเผา
เมื่อเข้าสู่ภายในร้าน โครงสร้างหลักอย่างเสา คาน และกระจก คุณต้นเลือกที่จะเก็บโครงสร้างเดิมไว้ทั้งหมด เพียงแต่เสริมแนวคิดเครื่องจักรกลให้ชัดขึ้นด้วยการครีเอทผนังอาคารหรือเสาบางส่วนด้วยการแปะวงจรไฟฟ้า มิเตอร์ที่หาซื้อมาจากร้านของเก่าหรือขอซื้อมาจากการไฟฟ้าโดยตรง ก่อนจะหล่อคอนกรีตทับ และทุบตามรอยแพทเทิร์นที่ทำสัญลักษณ์ไว้ เพื่อให้ได้เอฟเฟกต์ที่สมจริง เสมือนอาคารกำลังผุกร่อนให้เห็นเนื้อในตามธรรมชาติ และยังเป็นการนำวัสดุรีไซเคิลมาใช้ตกแต่งพื้นที่ด้วย
“ด้วยชื่อร้าน และคอนเซ็ปต์ เราคุยกับทางเจ้าของและอยากให้ลูกค้าที่เข้ามาเขารู้สึกว่า อาคารนี้มีคอมพิวเตอร์เป็นตัวครอบคลุมซ่อนอยู่ ตัวกำแพงต่าง ๆ พอทุบโครงสร้างออกมา มันเลยมีแผงวงจรคอมพิวเตอร์พวกนี้อยู่ โดยตัวแมสอาคารทั้งหมด ข้างใน เราพยายามทำให้ดูเป็นเครื่องจักรทั้งหมด” คุณต้นเล่า
ลึกลับในส่วนที่ต้องซ่อน ในขณะที่เปิดเพื่อสร้างปฏิสัมพันธ์กับผู้มาเยือน
ใจกลางของร้าน เป็นเคาน์เตอร์หลักที่เปรียบเสมือน Central Processing Unit ของคอมพิวเตอร์ บางส่วนของกำแพง ยังมีการออกแบบงานระบบให้สายไฟไปรวมจุดกันบริเวณตรงกลางเพื่อให้ทั้งหมดเข้าธีมที่วางไว้ในตอนแรก บาร์กาแฟหลักดีไซน์เนอร์เลือกใช้หินภูเขาจากจังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งมีเท็กเจอร์ที่ขรุขระตัดกับภาพลักษณ์ความไฮเทค หรือความ Futuristic ในส่วนอื่น ๆ ของอาคารให้ลงตัวไปด้วยกันได้ดี
จากทางเข้า บริเวณด้านขวาจะเป็นโซนวางเครื่องคั่วกาแฟที่ดีไซน์ให้เป็นห้องกระจก ทำให้ลูกค้าที่เข้ามาสั่งกาแฟสามารถมองเห็นบรรยากาศของการคั่วกาแฟไปด้วยในตัว ถัดจากเคาน์เตอร์บาร์ไปด้านหลังที่ค่อนข้างลึกลับ เป็นที่ตั้งของห้องโอมากาเสะ ที่เสิร์ฟคอร์สกาแฟสุดพิเศษซึ่งต้องจองล่วงหน้า สำหรับห้องนี้ ภายในหรือตั้งแต่ประตูทางเข้าจึงออกแบบให้ดูซุกซ่อนอยู่ เสมือนเป็นหนึ่งในตัวละครลับของภาพยนตร์ Sci-Fi
พื้นที่ภายใน ยกสเต็ปโซนที่นั่งบางส่วน เสริมด้วยการออกแบบม้านั่งแนวยาว เพื่อให้ตัวร้านมีบรรยากาศโคซี่พร้อมให้ผู้มาเยือนดื่มด่ำรสชาติกาแฟ ต่างจากร้านกาแฟเก่าที่เคยเปิดให้ลูกค้ามานั่งแช่เพื่อทำงานได้ทั้งวัน ติดกับโซนม้านั่งมีฟาซาดด้านหน้าที่ช่วยบังแสง โดยดีไซน์คุมธีมให้สามารถคอนโทรลเปิดปิดได้ เพื่อให้อาคารมีการเคลื่อนไว เสมือนเป็นเครื่องจักรจริง ๆ
(เฟอร์นิเจอร์ลอยตัว สั่งทำขึ้นพิเศษ โดยได้ไอเดียมาจากคอมพิวเตอร์สมัยเก่า)
ภูมิทัศน์ที่เข้ากันได้ดีกับสถาปัตยกรรมและพื้นที่ภายใน
ถัดมาที่ด้านหลังของอาคาร เป็นทั้งสวนสำหรับพักผ่อนหย่อนใจ และเชื่อมไปกับลานจอดรถ ด้านหลังนี้จึงกลายเป็นทางเข้าอีกทางสำหรับใครที่ขับรถมา บริเวณนี้คุณต้นดีไซน์ให้อาคารเสมือนเป็นเครื่องจักรกลที่มีชีวิตเช่นเดียวกัน แต่สร้างจุดเด่นให้อาคารด้วยการใช้ท่อ หรือมิเตอร์ไฟฟ้าที่สั่งทำขึ้นจากโรงงานมาตกแต่ง แต่อย่างไรก็ตามคุณต้นก็เล่าเสริมว่า “เราจะทำยังไง ? ให้ไม่รู้สึกว่าอาคารนี้มันเป็นการตกแต่งมากจนเกินไป นี่เป็นสิ่งที่เรากลัวมากเลยว่ามันจะไม่ใช่งานสถาปัตยกรรม จะเป็นแค่พร็อพดีไซน์ไหม มันจึงต้องดูจริง (ที่แปลว่าเราต้องทำงานจริง ๆ ใส่เข้าไปด้วย)”
ท่อที่นำมาตกแต่ง บางส่วนจึงมีการเดินระบบสำหรับใช้ในโรงคั่วกาแฟของทางเจ้าของ เพื่อให้งานเดคคอเรชันและฟังก์ชันสามารถไปด้วยกันได้อย่างลงตัว
เพื่อลดการดูแลรักษาในส่วนของภูมิทัศน์ การดีไซน์จึงไม่ได้เน้นต้นไม้ใหญ่มากนัก แต่ดีไซน์เนอร์กลับออกแบบให้สงบ ร่มรื่นได้ด้วยเสียงน้ำที่ไหลเวียนอยู่โดยรอบ ซึ่งฟอร์มของบ่อน้ำ เกิดจากการหล่อคอนกรีตที่อ้างอิงลักษณะมาจากการต่อวงจรไฟฟ้า ซึ่งจะมีจุดสำคัญอยู่ที่ใจกลาง ก่อนจะแจกจ่ายไปยังเส้นสายเล็ก ๆ ที่ไหลเวียนอยู่รายล้อม
“Sci-Fi นี่เป็นอะไรที่ผมชื่นชอบเป็นส่วนตัวอยู่แล้ว ถ้าทำบ้านตัวเองมันก็คงไม่ผิดจากนี้เท่าไร ดีเทลต่าง ๆ มันเลยอยู่ในหัวเรามาตลอด งานนี้สนุกสำหรับเรามาก เห็นภาพเข้าใจตรงกันได้ง่ายกับเจ้าของ งานทั้งหมดมันเลยออกมาลงตัว” คุณต้นทิ้งท้าย
เมื่อโจทย์ตั้งต้นของการออกแบบมาค่อนข้างชัด ทำให้ทั้งเจ้าของและดีไซน์เนอร์เองต่างก็ตั้งคำถามว่า การออกแบบนี้จะไปสุดได้มากแค่ไหน? ต้องใส่รายละเอียดมาเติมเต็มบรรยากาศมากเท่าไร? จึงจะทำให้ผู้ใช้งานอาคารเกิดความรู้สึกร่วมไปกับแนวคิดที่ตั้งไว้ได้มากพอ ซึ่งสำหรับร้าน Hacking Coffee Roasters แห่งนี้ก็คงเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของร้านกาแฟธีมชัด ที่พยายามเล่นกับดีเทล รายละเอียดปลีกย่อยต่าง ๆ ทั้งงานโครงสร้างสถาปัตยกรรม งานอินทีเรียดีไซน์ งานภูมิทัศน์หรือแม้แต่การเดคคอเรชันให้กลมกล่อมรวมกันได้อย่างลงตัว
Client : Hacking Coffee Roasters
LOCATION : Bangkok, Thailand
AREA : 680 sqm
Photography : DOF SKY|GROUND Photography
รับข่าวสารเรื่องการออกแบบ สถาปัตยกรรม ไลฟ์สไตล์
ทางอีเมล ที่จะส่งตรงถึงคุณทุกเดือน ลงทะเบียนได้ที่ด้านล่างนี้เลย!