บล็อกแก้วเป็นวัสดุที่อยู่คู่กับคนไทยมาอย่างยาวนาน ด้วยรูปแบบแพทเทิร์นที่มีความเป็นเอกลักษณ์ อีกทั้งยังมีความโปร่งใสให้แสงผ่านเข้ามาภายในอาคาร และช่วยให้ประหยัดพลังงานมากขึ้นอีกด้วย บล็อกแก้วจึงมักถูกหยิบมาใช้เป็นองค์ประกอบที่ช่วยเสริมภาพลักษณ์โดดเด่นให้กับอาคารอยู่เสมอ
เช่นเดียวกับคาเฟ่แห่งใหม่ล่าสุดอย่าง Hario Cafe Bangkok Sukhumvit 33 ซึ่งเป็นสาขาที่สองในประเทศไทยที่ทาง Hario แบรนด์แก้วชื่อดังจากประเทศญี่ปุ่นได้เปิดตัว โดยเป็นร้านที่ได้ผ่านฝีมือการออกแบบจาก Deline Architects ซึ่งได้หยิบนำบล็อกแก้วมาใช้ออกแบบคาเฟ่เป็นหลัก เพื่อส่งเสริมความเป็นแบรนด์ ‘King Of Glass’ ให้ออกมาโดดเด่น ซึ่งทำให้ไม่ว่าใครที่แวะเวียนผ่านไปมา ก็อยากแวะเข้ามาสัมผัสประสบการณ์การดื่มกาแฟกันไม่ใช่น้อยเลยทีเดียว
จากแบรนด์ Hario พัฒนามาสู่คาเฟ่เป็นสาขาที่ 2 ในประเทศไทย
มาทำความรู้จักกับ Hario แบรนด์ผลิตภัณฑ์แก้วที่ได้รับการขนานนามว่า ‘King Of Glass’ กันอีกครั้ง Hario มีสินค้าหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็น แก้วบีกเกอร์ หลอดวิทยาศาสตร์ จนไปถึงอุปกรณ์สำหรับกาแฟ ซึ่งพัฒนาต่อยอดจากอุปกรณ์ทำกาแฟด้วยการเปิดคาเฟ่ในประเทศญี่ปุ่น และมีสาขาแรกในประเทศไทยคือ ‘Hario Cafe Bangkok Chokchai 4’ ด้วยกระแสตอบรับที่ดีทั้งด้านคุณภาพของผลิตภัณฑ์ และรสชาติกาแฟที่อร่อย จึงทำให้ร้านต้องขยายสาขาเพิ่ม และด้วยเหตุผลนี้ Hario Cafe Bangkok Sukhumvit 33 จึงได้เปิดตัวเป็นสาขาลำดับที่สองในเวลาต่อมา
สร้างประสบการณ์ให้นักดื่มกาแฟด้วยการออกแบบ
ผู้ออกแบบ คุณ คงศักดิ์ วิจักขณทูล จาก Deline Architects เลือกที่จะวางแนวคิดให้คาเฟ่ช่วยมอบประสบกาณ์ให้เหล่านักดื่ม ด้วยการจัดวาง Slow bar เป็นวงกลมสีขาว โดยที่ฝั่งหนึ่งให้บริการดริปกาแฟ ส่วนอีกฝั่งหนึ่งให้บริการด้วยเครื่องไซฟ่อน ซึ่งนักดื่มทุกคนจะได้รับประสบการณ์ในการมองเห็นและกระบวนการต่าง ๆ ในการทำกาแฟทุกขั้นตอน พร้อมพูดคุยกับบาริสต้า ถึงเทคนิควิธีการและที่มาของเมล็ดกาแฟชนิดต่าง ๆ ที่รายล้อมไปด้วยบรรยากาศผลิตภัณฑ์จาก Hario
ถัดมาด้านในเป็นส่วนของ Speed Bar ออกแบบให้มีความโค้งมนพร้อมใช้วัสดุโทนสีน้ำตาล และเทาเข้มเป็นวัสดุหลัก และเปิดช่องฝ้าเพดานวงกลมให้มองเห็นบนพื้นที่ชั้นสอง โดยบรรยากาศของบาร์จะให้ความสุขุม และดูลึกลับ เหมาะแก่การซื้อกาแฟเพื่อนำกลับไปดื่ม หรือต้องการความรวดเร็วในการดื่ม ขณะรอบาริสต้าชงกาแฟ ยังสามารถนั่งบนโต๊ะบาร์ชมวิวสวนญี่ปุ่นได้อีกด้วย
บ่งบอกตัวตนของคาเฟ่ผ่าน ‘บล็อกแก้ว’
ด้วยความเป็นเจ้าแห่ง “King Of Glass”ของแบรนด์ Hario สถาปนิกจึงหยิบบล็อกแก้วแบบขุ่น (แก้วพิรุณ) และใส (หยาดเพชร) สลับไปมาให้หน้าตาอาคารเกิดเป็นจุดเด่นขึ้นมา ให้ผู้คนที่เดินผ่านไป-มาเกิดความสงสัยจนเดินเข้ามาภายในร้านคาเฟ่ได้โดยปริยาย ทั้งนี้บล็อกแก้วยังช่วยให้แสงเข้ามาภายในร้านได้อย่างพอดิบพอดี นอกจากนี้ตัวบล็อกแก้วยังถูกติดตั้งที่โถงบันไดแบบโค้งมน ที่ช่วยขับเน้นแนวคิด และเสริมแสงสว่างให้กับโถงบันไดได้ตลอดทั้งวัน
สร้างสรรค์แพทเทิร์นของอาคารด้วยขนาดบล็อกแก้วที่ไม่เหมือนใคร
คาเฟ่แห่งนี้ใช้บล็อกแก้วจากแบรนด์ช้างแก้วขนาด 90 x 190 มิลลิเมตร นอกจากนี้ยังมีขนาดให้เลือกอีก 2 แบบ คือ 190 x190 มิลลิเมตร และ 240 x 240 มิลลิเมตร และมีขนาดความหนาตั้งแต่ 60 – 100 มิลลิเมตร ไม่เพียงเท่านั้นตัวบล็อกแก้วยังมีแพทเทิร์นที่หลากหลาย ซึ่งบล็อกแก้วทั้งหมดผลิตขึ้นจากเทคโนโลยีจากประเทศเยอรมนี ทำให้ช่วยลดการเผาผลาญพลังงาน และวัสดุทุกชิ้นสามารถนำกลับมารีไซเคิลใหม่ได้ จากประสบการณ์ในการผลิตบล็อกแก้วมานานถึง 27 ปี ทำให้แบรนด์ช้างแก้วการันตีเรื่องคุณภาพทำให้เหล่าสถาปนิกมักนิยมหยิบมาใช้กัน
เทคนิคการติดตั้งบล็อกแก้วให้แข็งแรง เนี้ยบ และสวยงาม
การติดตั้งบล็อกแก้วมีลักษณะเหมือนอิฐบล็อกทั่วไปกล่าวคือต้องมีเสาเอ็นทับหลัง แต่แตกต่างที่บล็อกแก้วต้องมีเหล็กเส้นกลมขนาด 6 มิลลิเมตร จำนวนสองเส้นในทุกระยะ 40 เซนติเมตร เสริมทั้งแนวตั้ง แนวนอน และขนาดพื้นที่ควรมีความกว้างและความสูงไม่เกิน 6 เมตร พื้นที่รวมกันต้องไม่เกิน 15 ตารางเมตร
หากพื้นที่มีขนาดใหญ่กว่าที่กล่าวไว้ข้างต้นควรเพิ่มเสาเอ็นทับหลัง แต่ถ้าสถาปนิกไม่ต้องการเสาทับหลังทางวิศวกรของแบรนด์ช้างแก้วแนะนำให้ใช้เหล็กรูปพรรณ ตัว T-beam หรือ เหล็กฉาก หากยังมีข้อจำกัดในเรื่องในการรับน้ำหนักจำเป็นต้องเสริมด้วยเหล็กตระกูล H-beam เพิ่ม ซึ่งทางแบรนด์ไม่ได้เน้นแค่เพียงความแข็งแรงเท่านั้น แต่ยังดูแลเอาใจใส่ในเรื่องของความเนี้ยบ และความสวยงามในการก่อบล็อกแก้วด้วยการใช้ Spacer อุปกรณ์ในการจัดแนวบล็อกแก้วให้ช่างสามารถก่อได้ง่าย และตรงมากขึ้นกว่าการกะระยะจากเอ็น
การวางบล็อกแก้วให้โค้งมนสวยงามจำเป็นต้องจัดร่องด้านในให้ได้ระยะ 1 เซนติเมตร ในแถวแรกและค่อยจัดไปตามองศาของความโค้ง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความชำนาญของช่างด้วย ต้องยอมรับว่ามีโอกาสคลาดเคลื่อนได้เสมอ แต่ไม่ควรคลาดเคลื่อนเกิน 1-2 มิลลิเมตร ซึ่งเป็นระยะที่สายตาสามารถสังเกตเห็นความแตกต่างได้
มีวิศวกรช่วยแนะนำการก่อสร้างให้ออกมาตรงแบบที่สุด
ตัวคาเฟ่ยังเลือกใช้วัสดุอย่างบล็อกแก้วจากแบรนด์ช้างแก้ว ที่มีความหลากหลายทั้งเรื่องขนาด และลวดลาย ซึ่งยังมีวิศวกรคอยให้คำแนะนำตลอดช่วงการออกแบบจนไปถึงการก่อสร้าง ช่วยให้อาคารเป็นไปตามที่ออกแบบไว้ได้มากที่สุด สำหรับสถาปนิก นักออกแบบ หรือบุคคลทั่วไปที่ต้องการติดตั้งบล็อกแก้วควรเข้าปรึกษากับทางแบรนด์ตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นเพื่อให้การออกแบบ ก่อสร้างเป็นไปได้อย่างง่ายดายและไม่เกิดปัญหาที่จะเกิดขึ้นในอนาคต โดยสามารถติดต่อได้ที่ www.facebook.com/bccchangkaew และ http://www.bangkokcrystal.co.th/ หรือ โทร 02-674-8478-80
รับข่าวสารเรื่องการออกแบบ สถาปัตยกรรม ไลฟ์สไตล์
ทางอีเมล ที่จะส่งตรงถึงคุณทุกเดือน ลงทะเบียนได้ที่ด้านล่างนี้เลย!