Pixel Bar & Gallery
แกลอรี่กึ่งค็อกเทลบาร์กับคอนเซ็ปต์ม่วนๆ
ที่เชื่อมโยงความสัมพันธ์ของผู้คนเข้าไว้ด้วยกัน

ทุกคืนในพื้นที่แห่งนี้ งานศิลปะจะทำหน้าที่เป็นจุดเชื่อมโยงที่รวมพิกเซลจำนวนมาก เข้ามาเป็นภาพใหม่ เพื่อสร้างประสบการณ์การรับรู้ใหม่ๆ ให้กับผู้คนที่แวะเวียนมาเยี่ยมเยือน

หมุดหมายใหม่สำหรับวันพักผ่อนนี้ พาทุกคนไปที่แกลอรี่กึ่งค็อกเทลบาร์เล็กๆ แห่งหนึ่ง ที่ตั้งอยู่ในโครงการ Hugz Mall ถนนศรีจันทร์ จังหวัดขอนแก่น ชื่อว่า Pixel Bar & Gallery ซึ่งเกิดจากความตั้งใจของเจ้าของร้านที่อยากให้ที่นี่เป็นพื้นที่ที่สามารถสร้างประสบการณ์ที่น่าจดจำและ เชื่อมโยงความสัมพันธ์ของผู้คนเข้าไว้ด้วยกัน 

คุณเจ-ปานะพันธ์ แซ่ซิ้ม จาก ซิ้ม สตูดิโอ (SIM Studio) ผู้รับหน้าที่ในการออกแบบครั้งนี้ เล่าถึงโจทย์ในการออกแบบว่า “โจทย์การออกแบบที่ได้รับมา คือเจ้าของร้านต้องการให้ที่นี่เป็นทั้งบาร์และร้านที่ทุกคนเข้ามานั่งพูดคุยกันได้ง่ายๆ สบายๆ เราเลยพยายามที่จะครีเอทสเปซที่สามารถสื่อสารกับผู้คนได้มากกว่าการตกแต่งให้สวยงามเพียงอย่างเดียว ซึ่งถ้าเราสามารถออกแบบให้ร้านพูดคุยกับพื้นที่แถวนั้นได้ โดยเป็นเสมือนคอมมูนิตี้เล็ก ๆ แห่งหนึ่งได้ด้วย ก็น่าจะดี”

การผสมผสานกันระหว่างงานศิลปะกับค็อกเทลบาร์

จากโจทย์ที่ต้องการสร้างพื้นที่ ให้ผู้แวะมาเยี่ยมเยือนสามารถมีส่วนร่วมด้วยกันได้ ท่ามกลางบรรยากาศสบายๆ ไม่อึดอัด พื้นที่ภายในร้านจึงแบ่งออกมาเป็น 2 ส่วนหลัก คือพื้นที่แกลอรี่เล็ก ๆ และพื้นที่ในส่วนของบาร์ ส่วนแรกต้อนรับเราด้วยโถงทางเดินเข้าร้านที่เป็นเสมือนอุโมงค์ยาว ซึ่งจัดเป็นแกลเลอรี่สวยๆ มีงานประติมากรรมจำลองเทพเจ้ากรีกตั้งเด่นอยู่สุดทางเดิน และในขณะเดียวกันก็สร้างบรรยากาศด้วยผนังสีขาวที่มีภาพศิลปะแนวแอบสแทร็กต์แขวนโชว์อยู่ขนาบทั้งสองข้าง ซึ่งผลงานแต่ละชิ้นที่เห็นกันอยู่นี้ ต่างก็เกิดจากไอเดียที่ทางเจ้าของร้านต้องการจับคู่เครื่องค็อกเทลเข้ากับงานศิลปะ โดยชวนให้ศิลปินที่ชื่นชอบมารังสรรค์ผลงานขึ้นตามคาแร็กเตอร์ของค็อกเทลซิกเนเจอร์แต่ละแก้วนั่นเอง

ภาพแสดงพื้นที่แปลนของร้าน
อุโมงค์แกลอรี่ศิลปะเล็กๆ ทำหน้าที่ต้อนรับแขกผู้มาเยือนก่อนนำไปสู่พื้นที่ด้านใน
อุโมงค์แกลอรี่ศิลปะเล็กๆ ทำหน้าที่ต้อนรับแขกผู้มาเยือนก่อนนำไปสู่พื้นที่ด้านใน

ปิดทึบแต่ไม่อึดอัด

จากโถงทางเดิน นำไปสู่พื้นที่ด้านในของบาร์ ซึ่งเป็นบริเวณที่ทางเจ้าของร้านต้องการให้มีบรรยากาศที่ดูครึกครื้น ผู้ออกแบบจึงเลือกที่จะจัดวางพื้นที่นั่ง ไม่ให้ทิ้งระยะห่างกันจนเกินไป โดยเลือกจัดวางพื้นที่ให้ดูหลวมๆ ไม่อึดอัด ด้วยเฟอร์นิเจอร์ในสไตล์วินเทจที่จัดวางเป็นที่นั่งที่สามารถรองรับลูกค้าหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นที่นั่งแบบคู่ ที่นั่งเดี่ยวหน้าบาร์ และที่นั่งเลานจ์มุมห้องสำหรับลูกค้ากลุ่มใหญ่ นอกจากนี้ การวางเฟอร์นิเจอร์แบบหลวมๆ ยังเพื่อรองรับสำหรับการใช้พื้นที่ภายในสำหรับการจัดนิทรรศการหรืองานต่างๆ ในอนาคต ซึ่งจะทำให้สามารถเคลื่อนย้ายได้ง่ายอีกด้วย

ในส่วนของพื้นที่บาร์ด้านใน ผู้ออกแบบยังได้สร้างกำแพงทึบสามด้าน เพื่อสร้างความเป็นส่วนตัวให้กับบริเวณพื้นที่ด้านใน แต่ยังคงรักษาลักษณะเดิมของกรอบหน้าต่างโค้งที่หลงเหลือมาจากโครงสร้างของอาคารเดิมไว้ เพื่อสร้างจุดโฟกัสสำหรับมุมมองภายใน  และตกแต่งด้วยการใช้ผ้าม่านที่มีความพลิ้วไหว เพื่อไม่ให้สเปซดูแข็งจนเกินไป

“หน้าต่างที่เป็นทรงโค้งติดกันสามบาน เป็นหน้าต่างที่มีอยู่แล้วจากโครงสร้างของอาคารเดิม เราเลยอยากที่จะคงเสน่ห์ความรู้สึกของอาคารเดิมตรงนี้ไว้ เลยเลือกที่จะปิดทับส่วนผนังของมันไป แต่ยังคงฟอร์มไว้เหมือนเดิม ซึ่งก็เพิ่มความน่าสนใจดี และยังอยู่ในตำแหน่งที่ตรงกับบริเวณเวทีของร้านด้วย”

วัสดุที่ขับเน้นบรรยากาศให้โดดเด่น

อีกสิ่งที่ขับเน้นบรรยากาศในร้านให้ดูน่าสนใจ คือบริเวณเคาน์เตอร์บาร์ ซึ่งเตะตาด้วยด้วยวัสดุอย่างกระจก ตัดกับเส้นสายสีทองเหลืองแวววาว ซึ่งทำให้ชั้นวางด้านหลัง กลายเป็นอีกพื้นที่ของของบาร์ที่มีความโดดเด่นมากขึ้น เมื่อเทียบกับผนังปูนปั้นสีขาวเรียบง่ายโดยรอบ

“บริเวณชั้นวางด้านหลังของเคาน์เตอร์ เราใช้พื้นหลังเป็นกระจก ทำให้ลูกค้าที่แวะมา อาจจะมองกระจกดูตัวเองบ้าง ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่ลูกค้าทำกันอยู่บ่อยๆ ส่วนอีกฝั่งของร้านเป็นกระจกใสที่สามารถเปิดออกไปเห็นวิวภายนอก แต่ในขณะเดียวกัน เมื่อปิดม่านก็สร้างพื้นที่ส่วนตัวให้กับบริเวณภายในร้านได้เช่นกัน”

ในขณะที่โครงสร้างของเสา เป็นสิ่งที่ถูกสร้างเพิ่มขึ้นมาเอง เพื่อสร้างความรู้สึกถึงความเป็นเสาในอาคารเก่า และยังเป็นสิ่งที่ช่วยแบ่งพื้นที่ระหว่างส่วนของบาร์และเวทีได้อย่างพอดีพอดี นอกจากนี้ฝ้าเพดานภายในของตัวร้าน ยังถูกยกขึ้นให้สูง เพื่อเพิ่มความรู้สึกโปร่งสบายให้กับพื้นที่ภายใน และลดความรู้สึกไม่สบายที่เกิดจากผนังทึบทั้งสามด้าน

นอกจากพื้นที่แห่งนี้ จะต้อนรับผู้คนที่แวะมาเยี่ยมเยือน ด้วยผลงานศิลปะที่คัดสรรมากับมือแล้ว ที่นี่ยังต้อนรับลูกค้าทั้งขาจรและขาประจำที่แวะมาดื่มเครื่องดื่มเย็นๆ ด้วยไอเดียการจับคู่เมนูเครื่องดื่มค็อกเทลซิกเนเจอร์เข้ากับงานศิลปะได้อย่างสร้างสรรค์ ท่ามกลางบรรยากาศการตกแต่งของร้านที่ให้อารมณ์ความรู้สึกดูหรูหรา แต่อยู่สบาย ไม่อึดอัด

หากใครมีโอกาสแวะมาเที่ยวเมืองขอนแก่น Pixel Bar & Gallery เป็นอีกหนึ่งบาร์น่าสนใจที่มาพร้อมคอนเซ็ปต์สุดสร้างสรรค์ ไม่ว่าจะเป็นแกลอรี่ที่คุณสามารถมาชมผลงานศิลปะ เมนูเครื่องดื่มค็อกเทลแสนอร่อย รวมไปถึงการให้ความสำคัญกับความรู้สึกของผู้ใช้งานในสเปซแห่งนี้ 

Project: Pixel Bar and Gallery
Location: Khonkaen
Design Firm: SIM STUDIO
Building Area: 100Sqm.
Construction: Sathapanik Premratana
Clients: MBA KK
Photographer: Jinnawat Borihankijanan

Writer
Saovapak Ayasanond

Saovapak Ayasanond

อดีตกองบรรณาธิการนิตยสารบันเทิงที่ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะผันตัวมาเป็นนักเล่าเรื่องสายบ้านและสถาปัตยกรรม จนกระทั่งพบว่าการออกแบบเต็มไปด้วยคุณค่าและเรื่องราวที่น่าสนใจไม่แพ้กัน