ความสวยใสของคนเราอาจจะหมายถึง ขาวอมชมพู ไร้ริ้วรอย หรือยังดูหน้าอ่อนกว่าวัยอยู่เสมอ อย่างไรก็ตามขึ้นอยู่กับแต่ละคนว่าจะตีความหมายออกมาอย่างไร แต่ถ้าให้พูดถึงความสวยใสของอาคาร คงจะหมายถึงความโปร่งใสที่เป็นพระเอกสำคัญของอาคารอย่างแน่นอน แต่ด้วยแสงแดดที่ให้ความร้อนตลอดทั้งปีของประเทศไทย สถาปนิกจึงต้องเลือกวัสดุโปร่งใสที่สามารถกรองความร้อนจากแสงแดดให้เข้ามาภายในอาคารได้อย่างพอดิบพอดี
เช่นเดียวกับ WIND Clinic คลินิกเสริมความงาม ที่สถาปนิกผู้ออกแบบอย่างคุณ สิทธิพล โกมลเวชกุล จากสุธีสถาปนิก เลือกที่จะใช้บล็อกแก้วใสให้เป็นฟาซาดขนาดใหญ่รอบอาคาร แถมยังหันหน้าออกไปสู่ทางทิศตะวันตกอีกด้วย อะไรที่ทำให้สถาปนิกเลือกที่จะออกแบบคลินิกให้สวยใสแต่ไม่กลัวแสงแดดเช่นนี้ไปดูกัน
จุดเด่นอยู่ใจกลางเมือง
บนพื้นที่กว่า 1,200 ตารางเมตร ตั้งอยู่กลางสี่แยกของตัวเมืองอุบลราชธานี พื้นที่หันออกไปสู่ด้านทิศตะวันตกโดยรอบลายล้อมไปด้วยอาคารสำนักงาน อาคารพาณิชยกรรม บ้านเรือนต่าง ๆ จากศักยภาพของพื้นที่มักจะมีผู้คนสัญจรผ่านไปมาอยู่ตลอดเวลา แต่มีข้อจำกัดอยู่ตรงที่แสงแดดในช่วงบ่ายจะให้ความร้อนเป็นอย่างมาก ทางเจ้าของที่ต้องการจะก่อตั้งคลินิกเสริมความงาม WIND Clinic ในพื้นที่ตรงนี้ จึงอยากให้ตัวอาคารมีดีไซน์ที่โดดเด่น หรูหรา สวยงาม ผสมผสานเข้าธรรมชาตติ อย่างต้นไม้ และแสงแดด แต่ไม่ต้องการความร้อนให้เข้ามาในอาคาร ซึ่งเป็นแนวคิดเดียวกันกับการให้บริการของสถาบันที่เน้นการปรับรูปหน้าให้สวยงามเป็นธรรมชาติ
ฟังก์ชันภายในออกแบบเสมือนกับโรงแรมหรู
ผู้ออกแบบ คุณ สิทธิพล โกมลเวชกุล จากสุธีสถาปนิก เลือกที่จะออกแบบพื้นที่ชั้น Ground Floor ให้เป็นพื้นที่จอดรถ และให้พื้นที่ชั้น 1 เป็นส่วนต้อนรับ ที่ให้ความรู้สึกหรูหราเสมือนกับ Lobby ของโรงแรม ด้วยการยกฝ้าเพดานให้เป็นโถงสูง และใช้วัสดุกระเบื้องหินสีเทา รวมถึงไม้ลามิเนตที่ให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติ ขณะเดียวกันก็ได้จัดวางโซฟาผ้าดูนุ่มสบายสีเทาสำหรับนั่งพักคอยรอรับบริการ ทั้งนี้ยังสามารถนั่งชมวิวธรรมชาติจากสวนขนาดเล็กภายในอาคารที่มีแสงสกายไลท์จากหลังคา หรือจะมองผ่านกระจกออกไปชมสวนภายนอกอาคารก็ทำได้เช่นกัน
ถัดมาทางด้านซ้ายจะเป็นส่วนของห้องตรวจ ที่ตกแต่งห้องให้เป็นสีขาวสลับกับไม้ลามิเนตสีเทาที่ออกแบบให้คล้ายคลึงกับฝาปะกน พร้อมกับเสริมลูกเล่นเล็ก ๆ ด้วยเส้นสีทองเพิ่มความหรูหรามากขึ้น ในบริเวณเดียวกันนี้ยังมีห้องให้บริการทางด้านความงามที่ตกแต่งห้องด้วยลายไม้สีเทาแบบเดียวกับห้องตรวจ เสริมด้วยไม้ซี่ระแนงและขั้นเสริมด้วยเส้นสีทองในบางส่วน เพื่อเพิ่มมิติของห้องให้มีความลึกตื้น ดูหรูหรายิ่งขึ้น บริเวณตรงกลางจัดวางเฟอร์นิเจอร์สีน้ำตาลกึ่งนั่งกึ่งนอนสำหรับบริการด้านความงามให้กับลูกค้า พร้อมปูผ้าขนนุ่มสีเทาเพื่อความสบายเท้า บริเวณด้านในสุดติดตั้งบาร์เครื่องมือต่าง ๆ สำหรับการให้บริการ
บริเวณพื้นที่ชั้น 2 มอบความเป็นส่วนตัวมากขึ้นกว่าชั้นที่ 1 โดยออกแบบพื้นที่สำหรับนั่งรอรับบริการให้เป็นแบบ Lounge ที่ตกแต่งพื้นด้วยวัสดุหินอ่อน และตกแต่งฝาผนังด้วยไม้ลามิเนตสีเทาทำลวดลายตารางคล้ายกับฝาปะกน พร้อมจัดวางเฟอร์นิเจอร์นุ่มสบายสีเทาอ่อนให้เป็นแบบกลุ่ม ที่สามารถมองเห็นวิว Lobby ชั้นล่าง และวิวสวนจากภายนอกได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังมีบาร์ไว้คอยบริการอาหาร และเครื่องดื่ม สำหรับการตกแต่งห้องตรวจ รวมถึงห้องให้บริการด้านความงามในชั้น 2 นี้จะมีความคล้ายคลึงกับห้องตรวจ และห้องให้บริการชั้นที่ 1
บริเวณชั้น 3 ออกแบบให้เป็นที่พักผ่อนส่วนตัวสำหรับเจ้าของ แต่ในปัจจุบันนี้ถูกปรับเปลี่ยนให้กลายเป็นพื้นที่สำหรับการประชุมสัมมนา ซึ่งห้องต่าง ๆ สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันได้ตลอดเวลา
สร้างความโดดเด่นทั้งกลางวัน และกลางคืน ให้กับคลินิกด้วย ‘บล็อกแก้ว’
ไฮไลท์สำคัญของคลินิกแห่งนี้ก็คือ บล็อกแก้ว รุ่น Half Series ลายหยาดเพชร จากแบรนด์ช้างแก้ว ที่สถาปนิกได้หยิบมาใช้ออกแบบเป็นฟาซาดของอาคาร จนออกมามีความโดดเด่น และแตกต่างจากอาคารโดยรอบ ไม่เพียงเท่านั้นขณะที่ตะวันกำลังตกดิน แสงจะเกิดการตกกระทบลงมาสู่บล็อกแก้ว ทำให้เกิดการสะท้อนที่เสริมความโดดเด่นให้เพิ่มยิ่งขึ้น นอกจากนี้ตัวบล็อกแก้วยังทำหน้าที่เป็นฉนวนกันความร้อนที่ช่วยกรองความร้อนจากทิศตะวันตก และให้แสงเข้ามาภายในอาคารได้อย่างพอดิบพอดี
เมื่อถึงช่วงเวลากลางคืนแสงจากภายในอาคารก็จะสะท้อนออกสู่ภายนอกเสมือนเป็นแผงโคมไฟให้กับพื้นที่โดยรอบ แถมตัวบล็อกแก้วยังทำให้อาคารโครงสร้างเหล็กนี้รู้สึกเบามากยิ่งขึ้นอีกด้วย
บล็อกแก้ว 3 ขนาด สามารถสร้างแพทเทิร์นได้อย่างหลากหลาย
คลินิกแห่งนี้ใช้บล็อกแก้วจากแบรนด์ช้างแก้วขนาด 190 x 90 x 80 มิลลิเมตร และยังมีขนาดให้เลือกอีก 2 แบบ คือ 190 x190 มิลลิเมตรและ 240 x 240 มิลลิเมตร ความหนาตั้งแต่ 60 – 100 มิลลิเมตร ซึ่งบล็อกแก้วแต่ละรุ่นยังมีลวดลายให้เลือกอย่างหลากหลาย ผลิตด้วยเทคโนโลยีจากประเทศเยอรมนี ทำให้ช่วยลดการเผาผลาญพลังงาน และวัสดุทุกชิ้นสามารถนำกลับมารีไซเคิลใหม่ได้ จากประสบการณ์ในการผลิตบล็อกแก้วมานานถึง 27 ปี จึงการันตีในเรื่องของคุณภาพความเนี้ยบ และความสวยงาม ไม่ว่าจะเป็นการตกแต่งอาคารด้วยบล็อกแก้วรุ่นใดก็สามารถให้ความโดดเด่นได้เช่นเดียวกันกับคลินิก WIND Clinic
วิธีติดตั้งบล็อกแก้วสูงถึง 6 เมตร ให้แข็งแรง เนี้ยบ และสวยงาม
ปกติแล้วการติดตั้งบล็อกต้องมีเสาเอ็นทับหลัง และเสริมด้วยเหล็กเส้นกลมขนาด 6 มิลลิเมตร จำนวนสองเส้นในทุกระยะ 40 เซนติเมตร เสริมทั้งแนวตั้ง แนวนอน ด้วยขนาดความกว้างและความสูงไม่ควรเกิน 6 เมตร พื้นที่รวมกันต้องไม่เกิน 15 ตารางเมตร
สำหรับ WIND Clinic สถาปนิกได้ออกแบบให้บล็อกแก้วเรียงสูงถึง 6 เมตร วิศวกรจากแบรนด์ช้างแก้วจึงแนะนำให้ใช้เหล็กรูปพรรณ ตัว T-beam หรือ เหล็กฉาก และเสริมด้วยเหล็กรูปพรรณ H-beam เพื่อรับน้ำหนักบล็อกแก้วให้มากขึ้น และใช้ Spacer อุปกรณ์จัดแนวก่อบล็อกแก้วให้ช่างก่อสร้างสามารถก่อบล็อกแก้วได้ง่าย และตรงมากขึ้นกว่าการกะระยะจากเอ็น
หมดกังวลเรื่องการก่อสร้างเพราะมีวิศวกรช่วยแนะนำให้เป็นไปตามแบบมากที่สุด
คลินิก WIND Clinic ได้เลือกใช้วัสดุบล็อกแก้วจากแบรนด์ช้างแก้ว ที่มีความโดดเด่น กันความร้อนแต่ยังคงให้แสงเข้ามาภายในอาคารในปริมาณที่พอดิบพอดี อีกทั้งยังมีวิศวกรคอยให้คำแนะนำตลอดช่วงการออกแบบจนไปถึงการก่อสร้าง ซึ่งช่วยให้อาคารเป็นไปตามแบบได้มากที่สุด
สำหรับสถาปนิก นักออกแบบ หรือบุคคลทั่วไปที่ต้องการติดตั้งบล็อกแก้วควรเข้าปรึกษากับทางแบรนด์ตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นออกแบบ เพื่อให้ก่อสร้างเป็นไปได้อย่างง่ายดายและไม่เกิดปัญหาที่จะเกิดขึ้นในอนาคต โดยสามารถติดต่อได้ที่ www.facebook.com/bccchangkaew และ http://www.bangkokcrystal.co.th/ หรือ โทร 02-674-8478-80
รับข่าวสารเรื่องการออกแบบ สถาปัตยกรรม ไลฟ์สไตล์
ทางอีเมล ที่จะส่งตรงถึงคุณทุกเดือน ลงทะเบียนได้ที่ด้านล่างนี้เลย!