La Poste du Louvre
ฟื้นคืนชีวิตเสน่ห์วันวานของสถาปัตยกรรมสไตล์ Haussmann Architecture

ปารีสมักได้รับยกย่องว่าเป็นเมืองที่สวยและโรแมนติกที่สุดในโลก ภาพความงดงามของเมืองแสนคลาสสิกนี้เกิดจากการตัดสินใจปรับโฉมเมืองครั้งใหญ่ของจักรพรรดินโปเลียนที่ 3 (Napoleon III) ซึ่งมอบหมายให้ Georges-Eugène Haussmann เป็นตัวตั้งตัวตีในการรีโนเวทปารีสทั้งเมืองขึ้นใหม่ให้กลายเป็นเมืองชั้นนำที่ทันสมัยและก้าวหน้าของโลก ซึ่งนั่นเป็นจุดกำเนิดของอาคารสไตล์ฝรั่งเศสสุดประณีตและหรูหราอลังการจนต่อมาถูกนิยามว่าเป็นสถาปัตยกรรมสไตล์  Haussmann Architecture ที่เป็นเอกลักษณ์มาจนถึงทุกวันนี้

การปฏิรูปปารีสของ Haussmann นั้นเกิดขึ้นหลัก ๆ ในช่วงปี ค.ศ.1853-1870 และมีอิทธิพลต่อการก่อสร้างสถาปัตยกรรมในเขตเมืองหลังจากนั้นเรื่อยมา หนึ่งในอาคารที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นเพชรแห่งปารีสที่สะท้อนถึงอัตลักษณ์สถาปัตยกรรมสไตล์ Haussmann Architecture ได้ยอดเยี่ยมที่สุดก็คืออาคาร La Poste du Louvre สำนักงานใหญ่ของการไปรษณีย์แห่งชาติฝรั่งเศสในยุคนั้นนั่นเอง อาคารนี้สร้างแล้วเสร็จในปี ค.ศ.1888 ทำหน้าที่เป็นศูนย์ไปรษณีย์กลางเรื่อยมาอย่างยาวนานจนถึงช่วงต้นศตวรรษที่ 21 ก่อนที่จะมีการตัดสินใจปรับโฉมอาคารเก่าคร่ำครึให้เกิดใหม่กลายเป็นสถาปัตยกรรมร่วมสมัยสุดชิคที่กลับมาเฉิดฉายอีกครั้ง

ฟื้นคืนชีพมาสเตอร์พีชแห่งกรุงปารีส

La Poste du Louvre เป็นอาคารสุดคลาสสิกที่สร้างขึ้นโดย Julien Guadet ตามแบบสถาปัตยกรรม Haussmann Architecture ที่มีเอกลักษณ์อยู่ตรงฟาซาดหิน (หรือปูน) ดูแข็งแกร่งทรงพลังแต่ลดทอนความทื่อแสนน่าเบื่อด้วยการตกแต่งรายละเอียดอ่อนช้อยประณีตเข้าไปบนฟาซาดอาคารที่ทำให้ดูหรูหรามีระดับ ตัวอาคารเป็นแผงตึกล้อมรอบทั้งสี่ทิศโดยเว้นพื้นที่สไตล์ Courtyard ไว้ตรงกลาง

รายละเอียดการออกแบบอาคารนี้ที่โดดเด่นอีกอย่างนั้นอยู่ด้านใน เอกลักษณ์ทางสถาปัตยกรรมที่ผสานเข้าไปกับอาคารคอนกรีตอย่างขัดแย้งทว่าลงตัวกับทั้งฟังก์ชันและกลายเป็นเสน่ห์เฉพาะตัวที่น่าสนใจขึ้นมาทันที คือส่วนของโครงเหล็กกล้าที่แข็งแกร่งและอ่อนช้อย ซึ่งแน่นอนว่าการก่อสร้างอาคารลักษณะนี้ในยุคนั้นล้วนได้แรงบันดาลใจมาจากหอไอเฟลที่เกิดขึ้นในยุคเดียวกัน (หอไอเฟลสร้างแล้วเสร็จในปี ค.ศ.1889) ซึ่งเอกลักษณ์โดดเด่นรูปแบบนี้นอกจากจะเห็นได้ใน La Samaritaine อันโด่งดังแล้วก็ยังมีที่ La Poste du Louvre แห่งนี้ด้วย

การรีโนเวทเริ่มต้นขึ้นเมื่อปี ค.ศ.2012 ภายหลังจากที่ Dominique Perrault Architecture บริษัทของสถาปนิกชื่อดังชนะการแข่งขันแบบในครั้งนั้นไป แนวทางในการปรับโฉมครั้งนี้มีหัวใจสำคัญที่กำหนดขึ้นมาว่า Permeable ซึ่งแปลความได้ว่าการแทรกซึมผสานเข้าไปซึ่งก็หมายถึงการผสานการออกแบบสมัยใหม่ให้กลมกลืนลงตัวกับสถาปัตยกรรมเก่าให้มากที่สุดและดีที่สุดนั่นเอง ส่วนจุดประสงค์ด้านการใช้งานการปรับโฉมอาคารครั้งใหญ่นี้ก็เพื่อปรับเปลี่ยนจากรูปแบบการใช้งานเดิมมาเป็นการใช้สอยอาคารแบบ Mixed-use development project จัดสรรพื้นที่ใหม่ให้มีฟังก์ชั่นใช้งานหลากหลายรูปแบบมากขึ้นขณะเดียวกันก็ไม่ลืมที่จะคงเอกลักษณ์ดั้งเดิมของสถาปัตยกรรม Haussmann Architecture ที่มีเสน่ห์และทรงคุณค่าไว้เช่นเคย

โฉมใหม่ในความเลอค่าแบบดั้งเดิม

La Poste du Louvre โฉมใหม่เพิ่งจะรีโนเวทแล้วเสร็จและเปิดตัวไปเมื่อช่วงปลายปี ค.ศ.2021 ที่ผ่านมา จากการเป็นแค่ศูนย์กลางทางไปรษณีย์พื้นที่ถูกปรับเปลี่ยนให้กลายเป็นสถานที่ราชการ ศูนย์การค้า โรงแรมหรู ไปจนถึงการแบ่งพื้นที่ออฟฟิศสำหรับให้เช่า ส่วนหนึ่งของ La Poste du Louvre นี้ยังคงเป็นศูนย์ไปรษณีย์ที่ปรับเปลี่ยนรีดีไซน์ใหม่ให้สวยทันยุคทันสมัยแล้วยังผสมผสานกลิ่นอายพิพิธภัณฑ์ที่แฝงการเล่าเรื่องราวในอดีตของการไปรษณีย์ฝรั่งเศสไปพร้อมกันด้วย

นอกจากนั้น ภายในบริเวณนี้ยังมีสถานีตำรวจ ศูนย์รับเลี้ยงเด็ก ไปจนถึงร้านค้ามากมาย ตลอดจนมีการปรับโฉมพื้นที่ Courtyard ด้านในใหม่ให้มีลุคเท่ทันสมัยด้วยการเสริมโครงเหล็กสีดำให้สอดคล้องกับโครงเหล็กแบบดั้งเดิมที่ถูกอนุรักษ์ไว้นั่นเอง ซึ่งพื้นที่ส่วนนี้สอดคล้องกับการออกแบบโซนออฟฟิศให้เช่าที่มีการปรับเปลี่ยนการตกแต่งอาคารให้เรียบร้อยทันสมัยแบบยุคปัจจุบัน ในขณะเดียวกันก็สามารถสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายศิลปะแบบดั้งเดิมของรายละเอียดเสาเหล็กแสนคลาสสิกพร้อมความสูงโปร่งของโถงอาคารแบบอดีตซึ่งทำให้ที่นี่มีเสน่ห์ไม่เหมือนใคร

อีกรายละเอียดน่าสนใจที่มีการอนุรักษ์ไว้เช่นเดียวกับโครงเหล็กดั้งเดิม (รวมไปถึงบันไดเหล็กดั้งเดิม) ก็คือจิตรกรรมบนเพดานอาคารซึ่งทางสถาปนิกเลือกที่จะคงเอกลักษณ์อาคารนี้ไว้เพื่อสร้างเสน่ห์ให้กับการรีโนเวทพื้นที่ใหม่ครั้งนี้ด้วย โดยเอกลักษณ์ตรงจุดนี้เคยเป็นอัตลักษณ์เด่นอย่างหนึ่งบริเวณพื้นที่ให้บริการของไปรษณีย์และเป็นการสะท้อนถึงความร่ำรวยทางศิลปวัฒนธรรมของฝรั่งเศสในยุคนั้นที่ควรอนุรักษ์สืบผ่านสู่ยุคปัจจุบันด้วย

ซ่อนโรงแรมเอาไว้ที่ชั้นบน

เพชรเลอค่าที่สุดก็คือเพชรที่ประดับอยู่บนยอดมงกุฎ สำหรับ La Poste du Louvre โฉมใหม่นี้ก็ประดับด้วยเพชรยอดมงกุฎเม็ดใหม่ที่ทำให้อาคารนี้เลอค่าไม่แพ้อดีต เพชรที่ว่านี้ก็คือโรงแรม Hôtel Madame Rêve ที่พักระดับพรีเมี่ยมแสนมีสไตล์ล่าสุดแห่งปารีสที่มาในกลิ่นอาย Modern Classic & French Vintage ที่มีเสน่ห์น่าหลงใหลทีเดียว

ในส่วนของ Hôtel Madame Rêve นี้เป็นโรงแรมหรูจำนวน 82 ห้องในเครือ Laurent Taïeb Group ที่ทางเจ้าของอย่าง Laurent Taïeb ลงมานั่งแท่นเป็น Art Director ในการวางแนวทางของโรงแรมนี้ด้วยตัวเอง ซึ่งเขาได้เลือกเนรมิตความคลาสสิกหรูหราแบบวันวานรวมถึงกลิ่นอายวินเทจสไตล์ฝรั่งเศสให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง ตลอดจนคุมโทนสีของทั้งโรงแรมด้วยการเลือกใช้วัสดุ เฟอร์นิเจอร์ ตลอดจนรายละเอียดต่าง ๆ ในโทนสีเหลือง-น้ำตาลเป็นหลักเพื่อสะท้อนถึงความรุ่งเรืองแบบ Golden Age ของศิลปวัฒนธรรมในยุคก่อน

ความคลาสสิกที่โดดเด่นที่สุดต้องยกให้กับ Madame Rêve Café ในส่วนโถงอาคารด้านในไปจนถึงลานคาเฟ่กลางแจ้งด้านนอก การตกแต่งในส่วนนี้เน้นความคลาสสิกแบบยุคก่อนโดยมีพระเอกในโถงเป็นโคมไฟระย้าที่ได้อิทธิพลมาจากศิลปะสไตล์ The Vienna Secession Movement

อีกส่วนที่โดดเด่นก็คือโซนห้องพักที่ตกแต่งในกลิ่นอาย Modern French Vintage ได้อย่างมีเสน่ห์ ซึ่งจุดเด่นก็คือการเลือกเฟอร์นิเจอร์หนังสีครีมที่แมตช์กับเฟอร์นิเจอร์ไม้สีเข้มกับผนังห้องไม้โอ๊คที่ทำให้กลิ่นอายทั้งหมดหลอมรวมกันได้มีเสน่ห์ย้อนยุคกลิ่นอายวันวานได้ยอดเยี่ยม และด้วยความที่โรงแรมแห่งนี้ตั้งอยู่บนพื้นที่ชั้นบนสุดของ La Poste du Louvre ที่ทำให้เห็นวิวเมืองปารีสในมุมสูงอย่างงดงามตลอดเวลา ไฮไลท์หนึ่งก็คือระเบียงห้องพักแต่ละห้องที่มีเสน่ห์ในแบบที่ต่างกันไปตั้งแต่เช้าจรดค่ำ นอกจากนี้ยังมีโซนคาเฟ่และลานพักผ่อนริมระเบียงของโรงแรมที่ปัจจุบันกลายเป็นแหล่งแฮงค์เอาท์ยอดนิยมแห่งใหม่ของปารีส

และด้วยเสน่ห์ทั้งหมดทั้งมวลนี้ทำให้ Hôtel Madame Rêve ที่ถึงแม้จะเป็นโรงแรมเปิดใหม่แต่ก็ได้คะแนนพุ่งพรวดจนสามารถคว้าอันดับ 9 ในลิสต์ The 100 Best Hotels in the World โรงแรมที่ดีที่สุดในโลกประจำปี 2022 ที่จัดโดยสื่อทรงอิทธิพลของโลกอย่าง Travel+Leisure ได้สำเร็จ และแน่นอนว่าความสำเร็จครั้งนี้เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้ La Poste du Louvre โฉมใหม่นี้โด่งดังไปทั่วโลกมากยิ่งขึ้น ตลอดจนทำให้สถาปัตยกรรมสไตล์ Haussmann Architecture กลับมามีคุณค่าในความทรงจำของคนยุคปัจจุบันอีกครั้งได้อย่างน่าภาคภูมิ

Photo Credit
La Poste du Louvre: https://lapostedulouvre.fr/
Hôtel Madame Rêve: https://madamereve.com/en/
Dominique Perrault Architecture: www.perraultarchitecture.com

Writer
Tada Ratchagit

Tada Ratchagit

นักเขียนที่หลงรักการถ่ายภาพ หลงเสน่ห์การเดินทาง หลงใหลงานดีไซน์ไปจนถึงสถาปัตยกรรมทุกยุค ตลอดจนสนใจเรื่องราวของสิ่งแวดล้อมและวิถีชีวิตยั่งยืน