ในอดีตจนถึง ปัจจุบัน แนวคิดในการออกแบบของสถาปัตยกรรม ไม่ว่าจะด้วยเรื่องของการสร้างรูปทรง หรือพื้นที่ว่างทางสถาปัตยกรรม ล้วนมาจากปัจจัยต่าง ๆ ที่มีความเกี่ยวข้องกับตัวสถาปัตยกรรมโดยตรงอย่าง สถานที่ เวลา บริบท การคงอยู่ของสถาปัตยกรรมไม่ได้เพียงแต่ทำหน้าที่เพื่อการใช้สอย หรืออยู่อาศัยเพียงเท่านั้น แต่สถาปัตยกรรมนั้นทำหน้าที่ตัวกลางระหว่างมนุษย์ และธรรมชาติ
เมื่อ Owner สองสามีภรรยา ผู้เป็น Coaching และนักศิลปะบำบัด ที่ตัดสินที่จะย้ายหนีความวุ่นวายจาก กรุงเทพมหาครฯ มาสู่เมืองเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ ภายใต้บรรยากาศพื้นที่ ๆ ของบ้านพักอาศัย และสตูดิโอสำหรับจัดกิจกรรมเชิงศิลปะ ตั้งอยู่ท่ามความร่มรื่นของภูเขาสูง สถานที่ที่มีพลังความเชื่อ ความศักดิ์สิทธิ์ ในเชิงของธรรมชาติ และจิตวิญญาณ ที่ได้รับการออกแบบโดย JaiBaan Studio
Design With Nature
คุณต่าย สถาปนิกผู้ออกแบบจาก JaiBaan Studio แบบเล่าให้เราฟังถึงแนวคิดในการออกแบบ ของ Soulitude House
“นอกจากการออกแบบตัวบ้าน เราเริ่มตั้งพื้นที่เลยครับ พื้นที่ตรงนี้ตั้งอยู่บนที่ดอน จะมีการเก็บน้ำได้อย่างไร จะฟื้นพื้นที่ได้อย่างไร เราเริ่มจากตรงนั้น ด้วยขนาดพื้นที่ 5 ไร่ เราเลยมาคิดกันว่าจะทำอย่างไรให้ตัวบ้าน หรือสตูดิโอ ไม่รู้สึกถึงความอ้างว้าง ซึ่งนำมาสู่คำตอบที่เรามองกันว่า ถ้าหากเราสามารถ Enclosed Space พื้นที่บางมุมได้ มันก็จะทำให้บ้านรู้สึกอบอุ่นขึ้นได้ ”
ในการออกแบบทีมสถาปนิกผู้ออกแบบพยายามที่จะซ่อนส่วนของพื้นที่ทางเข้าเพื่อสร้างความเป็นส่วนตัวให้แก่ผู้ใช้งาน และเพื่อเป็นการสร้าง Inner Court ภายใน ด้วยความที่พื้นที่ของ Soulitude House ถูกแบ่งผู้ใช้งานออกเป็น 2 กลุ่มซึ่งได้แก่ส่วนที่พักอาศัยของ Owner และผู้พักอาศัยชั่วคราวที่เข้ามา Workshop หรือประกอบกิจกรรมเชิงศิลปะภายในพื้นที่
โดยนอกจากการที่สามารถสัมผัสกับพื้นที่ธรรมชาติโดยรอบนั้น ผู้ออกแบบยังมีแนวคิดให้ผู้ใช้งานอาคารสามารถรับรู้ได้ถึงธรรมชาติภายในตัวเองด้วยพื้นที่ภายในของ Soulitude House ที่มีการถูกแบ่งพื้นที่การใช้งานออกเป็น 2 ส่วน โดยส่วนแรกเป็นพื้นที่ส่วนที่พักอาศัยของทาง Owner ประกอบไปด้วยห้องนอน 1 ห้อง และส่วนของฝั่งที่เป็นสตูดิโอศิลปะ และห้องบำบัด พื้นที่ประกอบกิจกรรมที่มีขนาดกว้าง และเงียบ เพื่อการสร้างสมาธิของผู้ใช้งาน
บ้านที่เป็นที่พำนักทางจิตวิญญาณของผู้อยู่อาศัย
บ้านหลังนี้ถูกออกแบบขึ้นภายใต้แนวคิดที่ว่าด้วย “บ้านคือที่พำนักทางจิตวิญาญของผู้อยู่อาศัย” ด้วยมุมมองของผู้ออกแบบที่เชื่อว่าบ้านสามารถเป็นพื้นที่เยียวยาจิตใจของผู้อยู่อาศัยได้ ซึ่งปรากฏออกมาภายในรูปแบบของ Form อาคารที่เราจะสังเกตเห็นได้จากรูปทรงของหลังคาที่มีลักษณะเป็นเส้นโค้งที่แสดงออกถึงความรู้สึกโอบล้อม หรือรั้วด้านหน้าที่ผู้ออกแบบต้องการมอบความรู้สึกให้เหมือนการโอบกอดสเปซนี้ไว้ เพื่อสร้างความรู้สึกที่สงบแก่ผู้ที่เข้ามาใช้งานอาคาร
คุณโค๊ก สถาปนิกผู้ออกแบบจาก JaiBaan Studio เราถึงตำแหน่งของที่ตั้งว่า
Soulitude House ถูกออกแบบมาให้หลายมุมของอาคารสามารถ Face หาดอยหลวง แต่ว่าทีมผู้ออกแบบเลือกที่จะขยับตัวอาคารให้เบี่ยงเข้ามาด้านในของพื้นที่ด้วยเหตุผลในเรื่องของการจัดการพื้นที่ เพื่อให้เกิดพื้นที่โล่งที่สามารถใช้ประกอบการทำกิจกรรมอื่น เพื่อให้ตัวอาคารแนบชิดกับไซต์ และอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญคือการที่ทางทีมผู้ออกแบบไม่ต้องการให้บริเวณด้านหน้าของอาคารปะทะกับทิศของดอยหลวงด้วยความเชื่อที่ว่าด้วยพลังงานของดอยหลวง ที่จะขัดกับความต้องการของบ้านหลังนี้ที่ต้องการความสงบ ทีมสถาปนิกผู้ออกแบบจึงเลือกให้อาคารหลังเล็กรับวิวจากดอยหลวงแทนอาคารหลักในขณะที่อาคารหลักยังคงเผยมุมมองบางส่วนให้ผู้ใช้งานอาคารสามารถเห็นดอยหลวงได้บ้างจากช่องเปิดของอาคาร
บ้านหายใจได้
บ้านหลังนี้หากสังเกตดูจะไม่มีเครื่องปรับอากาศ แต่ว่าจะมีการเลือกใช้อิฐช่องลม การใช้ประตูเกล็ดแทน สถาปนิกผู้ออกแบบยังเล่าต่อว่า บ้านหลังนี้มีการเลือกใช้วัสดุที่มีความเป็นธรรมชาติอย่างกระเบื้องดินเผา อิฐ ไม้ ปูน ซึ่งเป็นวัสดุที่ไม่ได้มีการตกแต่งมากนัก เพื่อสร้างความรู้สึกของความกลมกลืนระหว่างธรรมชาติภายในพื้นที่ ไม่ได้เป็นอะไรที่ปรุงแต่งมาก วัสดุที่มีการเลือกใช้ในการบ้านหลังนี้ ทีมผู้ออกแบบได้มีแนวคิดและวิธีการเลือกสรร ด้วยการเลือกใช้วัสดุที่มีความ Humble ด้วยสีสันที่ไม่ฉูดฉาด ไม่มันวาว อีกทั้งยังมีการลดความคม และความเนี๊ยบของวัสดุออก อย่างงานอิฐ งานไม้ กระเบื้องดินเผา คอนกรีตขัดต่าง ๆ ที่มีความคราฟต์ และเคารพต่อบริบทพื้นที่โดยรอบที่เงียบสงบของภูเขา
งานออกแบบ Soulitude House ของ JaiBaan Studio สะท้อนให้เห็นถึงความถ่อมตัว และความเคารพต่อธรรมชาติภายในพื้นที่โดยรอบ การอยู่ร่วมกันระหว่างมนุษย์ สิ่งมีชีวิต ภายใต้ธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่อย่างเคารพซึ่งกันและกัน การคงอยู่ของสถาปัตยกรรมไม่ได้เพียงแต่ทำหน้าที่เพื่อการใช้สอย หรืออยู่อาศัยเพียงเท่านั้น แต่สถาปัตยกรรมนั้นทำหน้าที่ตัวกลางระหว่างมนุษย์ และธรรมชาติให้สามารถอยู่ร่วมกันได้
Project Name: The SOULITUDE
Architecture Firm: Jaibaan Studio
Website: https://www.facebook.com/Jaibaan
Completion Year : 2024
Gross Built Area: 350 sq.m.
Photographer credits: Tanatip Chawang
รับข่าวสารเรื่องการออกแบบ สถาปัตยกรรม ไลฟ์สไตล์
ทางอีเมล ที่จะส่งตรงถึงคุณทุกเดือน ลงทะเบียนได้ที่ด้านล่างนี้เลย!
Subscribe now to keep reading and get access to the full archive.