เมื่อ นากางิง แคปซูล ทาวเวอร์ (Nakagin Capsule Tower) ถูกทำลายลงอย่างเป็นทางการไปเมื่อช่วงเดือนเมษายน 2022 ที่ผ่านมา หลายคนทั่วโลกต่างก็รู้สึกเสียดายในไอคอนิกแห่งสถาปัตยกรรมโมเดิร์นที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นไม่เหมือนใครนี้ แต่หลังจากที่สถาปัตยกรรมสไตล์ Metabolism ระดับมาสเตอร์พีชของ คิโช คุโรซาวะ (Kisho Kurokawa) หายไปจากโลกใบนี้ได้ไม่นาน สิ่งก่อสร้างหลังหนึ่งก็ได้ปรากฏตัวขึ้นเพื่อให้โลกได้รับรู้ราวกับว่าพระเอกระดับตำนานผู้จากไปนั้นแท้จริงแล้วมีทายาทที่ปกปิดไว้ซ่อนตัวอยู่บนโลกนี้อีกคน
สายเลือดสถาปัตยกรรมสไตล์ Metabolism Architecture
ทายาทที่ดูแว้บแรกก็รู้ทันทีว่าหน้าตาคล้ายกันแทบทุกกระเบียดนิ้วจนน่าประหลาดใจ สถาปัตยกรรมที่ว่านี้ก็คือ capsule house K วิลล่าเก่าแก่หลังหนึ่งที่ตั้งอยู่บนเทือกเขาในเมืองคารูอิซาวะ จังหวัดนากาโน ประเทศญี่ปุ่น เหตุที่มันหน้าตาเหมือนกับ Nakagin Capsule Tower ทุกประการนั้นก็เพราะว่าบ้านหลังนี้ก็คือสมบัติส่วนตัวของ Kisho Kurokawa ที่สร้างขึ้นบนแนวคิดและหลักการเดียวกันกับสถาปัตยกรรม Metabolism ที่มีชื่อเสียงนั่นเอง อันที่จริงแล้วทางเจ้าของก็ไม่ได้ตั้งใจจะปกปิดอะไรมากนัก เพราะยุคที่ Nakagin Capsule Tower โด่งดังนั้นวิลล่าแห่งนี้ก็เคยเป็นที่รู้จักผ่านสื่อมาบ้างแล้วเหมือนกัน
capsule house K เดิมทีมีชื่อว่า summer house K เป็นวิลล่าพักตากอากาศส่วนตัวที่ Kisho Kurokawa สร้างเองกับมือ สถาปัตยกรรมนี้สร้างขึ้นในปี 1973 หนึ่งปีให้หลังจากที่ Nakagin Capsule Tower สร้างแล้วเสร็จ เหตุผลในการก่อสร้างก็เพื่อที่จะทดลองการสร้างสถาปัตยกรรม Metabolism ในรูปแบบที่พักอาศัยส่วนตัวซึ่งมีสเกลเล็กลงมา โดยหวังว่าบ้านหลังนี้จะกลายเป็นต้นแบบที่จะขยายต่อไปในอนาคตด้วย
ด้วยเหตุที่ Nakagin Capsule Tower ไม่ได้ถูกพัฒนาไปตามแผนที่วางไว้ จากตึกล้ำสมัยในยุคก่อนจึงกลายมาเป็นอาคารล้าสมัยในยุคปัจจุบันแทน นั่นเลยทำให้ capsule house K ก็เริ่มเลือนหายไปจากความทรงจำพร้อมกันด้วย รวมถึงไม่ได้รับการดูแลเท่าที่ควรจนมีสภาพเก่าแก่คร่ำครึและรกร้างอย่างที่เห็น
ศิลปะแห่งการปะติดปะต่อ
วิลล่า capsule house K สร้างขึ้นในรูปแบบ Module Structure ตามพื้นฐานแนวคิดสถาปัตยกรรม Metabolism นั่นก็คือการนำเอาหน่วยเซลล์ย่อย ๆ มาต่อกัน (Plug-in) จนกลายเป็นหน่วยใหญ่ หน่วยย่อยยังสามารถถอดประกอบหรือปรับเปลี่ยนใหม่ได้สะดวกและสามารถเพิ่มจำนวนเพื่อเพิ่มยูนิตหรือขยายพื้นที่ใช้สอยได้เสมอ ตลอดจนสามารถเติมแต่งเพื่อสร้างสรรค์อาคารได้อย่างไม่จำกัดรูปแบบอีกด้วย ตามอุดมคตินั้นอาคารนี้สามารถปรับเปลี่ยนได้ทั้งฟังก์ชั่นและดีไซน์ซึ่งนั่นจะทำให้อาคารหลังนี้กลายเป็นสถาปัตยกรรมที่ดูร่วมสมัยได้ตลอดกาล
องค์ประกอบทางสถาปัตยกรรมของ capsule house K ประกอบไปด้วยส่วนที่เป็นโครงสร้างหลักที่เรียกว่า “แก่นอาคาร (Main Shaft)” ซึ่งจะเป็นโครงสร้างแกนกลางถาวรบนรากฐานที่แข็งแกร่งมั่นคง แก่นอาคารนี้สร้างด้วยคอนกรีตพร้อมแบ่งพื้นที่ใช้สอยภายในเป็นโถงห้องสองชั้น แล้วก็รวมถึงพื้นที่ใช้สอยภายนอกแบบเอนกประสงค์ซึ่งเป็นส่วนดาดฟ้าอาคารที่สามารถใช้เป็นลานจัดปาร์ตี้รวมถึงเป็นจุดนั่งพักผ่อนชมวิวกลางแจ้งไปในตัว อันที่จริงแล้วถึงแม้จะเป็นดาดฟ้าแต่ส่วนนี้ก็เป็นเสมือนหน้าบ้านไปพร้อมกัน เพราะเมื่อมาถึงตัววิลล่าเราก็จะเจอกับพื้นที่บริเวณนี้ก่อนเป็นอันดับแรกซึ่งอาคารใช้สอยจะอยู่ในระดับต่ำลดหลั่นกันลงมาด้านล่างนั่นเอง
เมื่อเดินลงมาตามบันไดด้านข้างจนเข้าสู่ตัวอาคารก็จะลงมาพบกับห้องโถงหลักบนชั้นแรก ซึ่งโซนนี้จะเป็นห้องนั่งเล่นที่เป็นห้องอาหารไปในตัว ซึ่งส่วนนี้ยังเป็นจุดเชื่อมต่อส่วนประกอบอาคารที่เรียกว่า “แคปซูล (Capsule)” โดยพื้นที่แกนจะกลายเป็นห้องเอนกประสงค์ศูนย์กลางที่เชื่อมต่อไปยังห้องต่าง ๆ ออกแบบให้เป็นห้องนั่งเล่นผสานกับห้องอาคารในสไตล์ Modern Wooden Cottage กลิ่นอายตะวันตกที่ตกแต่งด้วยงานไม้เป็นหลัก
ในส่วนชั้นนี้นั่นเองที่ใช้เป็นจุดเชื่อมต่อส่วนประกอบของอาคารที่เรียกว่า “แคปซูล (Capsule)” ซึ่งจะเป็นกล่องสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดใหญ่ราว 4 เสื่อตามสไตล์ญี่ปุ่นในขนาดเดียวกับแคปซูลของ Nakagin Capsule Tower โดย capsule house K จะต่อแคปซูลออกไปออกไปอีก 4 ยูนิตจากผนังอาคาร 3 ด้านเพื่อต่อให้เป็นห้องสำหรับใช้สอยประโยชน์ต่างกันไป
ส่วนแก่นอาคารหลัก ยังสามารถเดินลงบันไดไปได้อีกชั้น ซึ่งชั้นล่างสุดนี้ ออกแบบให้เป็นห้องนอนหลักขนาดใหญ่ตกแต่งในกลิ่นอาย Modern Wooden Cottage เรียบง่ายที่สอดคล้องกับสไตล์การแต่งห้องด้านบน เน้นงานไม้เป็นหลักสอดผสานกันตั้งแต่ผนัง เตียง เฟอร์นิเจอร์ ไปจนถึงบันไดวนที่นำเอาท่อนไม้ดิบ ๆ มาวางเรียงตัวกันอย่างสวยงาม อีกจุดเด่นของห้องนี้เห็นจะเป็นกระจกโดมใสบานใหญ่อันเป็นเอกลักษณ์ที่นอกจากจะเปิดมุมมองชมวิวธรรมชาติได้กว้างขึ้นแล้วก็ยังทำให้แสงธรรมชาติส่องเข้าสู่ตัวอาคารเพื่อช่วยสร้างเสน่ห์ให้บรรยากาศภายในได้ดีเช่นกัน
ย้อนกลับขึ้นไปชั้นบน ซึ่งเป็นส่วนเชื่อมต่อกับแคปซูลยูนิตต่าง ๆ ตัวแคปซูลทำจากโครงทรัส (Truss) หุ้มด้วยแผ่นโลหะโดยตกแต่งภายในให้แต่ละยูนิตแตกต่างกัน ซึ่ง 3 ยูนิตเป็นสไตล์ล้ำสมัยในรูปแบบเดียวกันกับยูนิตของ Nakagin Capsule Tower ซึ่ง 2 ใน 3 เป็นห้องสีขาวคลีนพื้นพรมสีเทาผสานบานหน้าต่างกระจกโดมใสอันเป็นเอกลักษณ์
ตกแต่งผนังสไตล์ล้ำยุคที่ฝังเฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ไฟฟ้าทันสมัย (ในยุคนั้น) แบบบิ้วท์อิน มาพร้อมแปลนห้องน้ำประตูวงรีที่มีเอกลักษณ์ ทั้งสองห้องนี้ยังปรับใช้งานได้แบบเอนกประสงค์โดยสามารถเสริมเตียงเพื่อปรับเป็นห้องนอนหรือนำเตียงออกแล้วเสริมเก้าอี้ (โซฟา) เพื่อปรับเป็นห้องนั่งเล่นได้เช่นกัน ส่วนอีก 1 ยูนิตสไตล์ล้ำสมัยที่เหลือออกแบบให้เป็นห้องครัวลุคขาวคลีนที่ดูโมเดิร์นแต่เปลี่ยนหน้าต่างกระจกโดมใสให้เป็นกระจกแบบบานเลื่อนแทนเพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งาน
จิตวิญญาณดั้งเดิมที่ร่วมสมัยได้ตลอดกาล
อีกหนึ่งยูนิตที่เหลือดูเหมือนจะเป็นมาสเตอร์พีชของการตกต่างภายในวิลล่าหลังนี้เพราะภาพที่เห็นสวนทางกับการรับรู้ที่มีมาอย่างแน่นอนซึ่งแคปซูลยูนิตนี้ตกแต่งห้องในสไตล์วะชิสึ (Washitsu) ซึ่งเป็นห้องสไตล์ญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมที่มักเรียกกันติดปากว่าห้องแบบ Tatami Room นั่นเอง ห้องนี้จะปูด้วยเสื่อตาตามิตามภูมิปัญญาญี่ปุ่นดั้งเดิม แบ่งสัดส่วนและตกแต่งผนังตามแบบแปลนโบราณ ตลอดจนผสานกลิ่นอายวัฒนธรรมดั้งเดิมเข้าไปอย่างมีเสน่ห์ตั้งแต่ประตู/หน้าต่างบานเลื่อนที่เรียกว่าโชจิ (Shoji) อันเป็นโครงประตู/หน้าต่างไม้หุ้มปิดผิวด้วยกระดาษสีขาวขุ่น ไปจนถึงหลุมก่อไฟกลางห้องสำหรับชงชาหรืออุ่นอาหารตามวัฒนธรรมท้องถิ่นแบบดั้งเดิม
สิ่งที่ทำให้ยูนิตนี้มีเสน่ห์เฉพาะตัวมากยิ่งขึ้นก็คือการผสานหน้าต่างกระจกโดมใสอันเป็นอัตลักษณ์ล้ำสมัยของสถาปัตยกรรม Metabolism นี้ได้อย่างกลมกลืนลงตัว ซึ่งนั่นเป็นหนึ่งในความตั้งใจของ Kisho Kurokawa ที่ต้องการจะสื่อสารว่าสถาปัตยกรรม Metabolism นั้นถึงแม้จะเป็นแนวคิดตลอดจนดีไซน์ล้ำสมัยเพียงใดแต่ตัวตนที่แท้จริงภายในก็สามารถรองรับการผสานหลอมรวมสิ่งเก่ากับสิ่งใหม่ให้อยู่ร่วมกันอย่างกลมกลืนได้เช่นกัน การมาของความล้ำสมัยไม่ใช่ว่าจะทดแทนจนต้องทิ้งจิตวิญญาณดั้งเดิมอันทรงคุณค่าไป ตรงกันข้ามมันยังสามารถร่วมสืบสานไปพร้อมกันได้ด้วย ซึ่ง capsule house K นี้เป็นตัวอย่างที่เห็นและสัมผัสได้จริง
สมบัติอีกชิ้นที่เกือบสูญหายไป
อันที่จริงแล้ว capsule house K นี้ก็เกือบจะสูญหายไปจากใบโลกนี้เช่นเดียวกับ Nakagin Capsule Tower เพราะอย่างที่ทราบกันว่าแนวคิดสถาปัตยกรรม Metabolism นั้นได้รับความสนใจขึ้นมาเพียงระยะสั้นตลอดจน Nakagin Capsule Tower ก็ไม่ได้ถูกปรับเปลี่ยนพัฒนาไปตามแผนที่วางไว้ทำให้สถาปัตยกรรมเสื่อมโทรมไปตามกาลเวลา เหตุนี้เองทำให้ภายหลังบริษัท Kisho Kurokawa Architect and Associates (KKAA) ของ Kisho Kurokawa ล้มละลายจนเขาต้องทยอยขายทรัพย์สินส่วนตัวเพื่อนำมาเคลียร์หนี้สินซึ่งทรัพย์สินที่ถูกขายทอดตลาดออกไปก็รวมถึง capsule house K ด้วยเช่นกัน
แต่เมื่อถึงวันที่ Nakagin Capsule Tower ต้องถูกทำลายลงจริง ๆ Mikio Kurokawa ลูกชายของ Kisho Kurokawa จึงเกิดความเสียดายและไม่อยากให้ capsule house K ต้องมีจุดจบเดียวกันกับ Nakagin Capsule Tower ทาง Mikio Kurokawa ผู้ซึ่งเป็น CEO ของ MIRAI KUROKAWA DESIGN STUDIO Co., Ltd. จึงได้จับมือร่วมกับ Toshihiko Suzuki สถาปนิก, ดีไซน์เนอร์, และอาจารย์คณะสถาปัตยกรรมของ Kogakuin University ในโตเกียว ก่อตั้งโปรเจกต์ระดมทุนสาธารณะขึ้นเพื่อหางบประมาณมาอนุรักษ์บ้านหลังนี้เอาไว้ จนในที่สุดก็ได้เงินเพียงพอเพื่อที่จะซื้อ capsule house K กลับคืนมาอยู่ในครอบครอง
แต่การที่จะรักษา capsule house K ให้คงอยู่ต่อไปได้นั้นก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเสียทีเดียว ตลอดจนงบประมาณในการดูแลรักษาในแต่ละปีก็เป็นเงินไม่ใช่น้อย Mikio Kurokawa จึงตัดสินใจวางแผนปรับเปลี่ยนให้ capsule house K กลายเป็นแหล่งเรียนรู้ด้านสถาปัตยกรรมแนว Metabolism ตลอดจนปรับเปลี่ยนวิลล่าส่วนตัวให้กลายเป็นสถานที่พักตากอากาศที่เปิดให้ทุกคนสามารถมาเช่าพักได้ นอกจากสถาปัตยกรรมจะถูกอนุรักษ์ไว้แล้วการตกแต่งภายในตลอดจนเฟอร์นิเจอร์ส่วนตัวของ Kisho Kurokawa ทุกชิ้นก็จะยังถูกคงสภาพไว้เช่นเดิมทุกประการ สำหรับใครที่สนใจอยากมาลองพักเพื่อสัมผัสคุณค่ามรดกทางสถาปัตยกรรมชิ้นสำคัญชิ้นหนึ่งของโลกนี้ก็สามารถติดต่อเข้าพักได้ที่ Capsule Architecture Project โดยวิลล่าทั้งหลังสามารถรองรับการเข้าพักแบบกลุ่มได้ถึง 7 คน โดยมีราคาเข้าพักอยู่ที่ประมาณ ¥200,000 หริประมาณ 52,225 บาทต่อคืน
โชคดีที่ capsule house K กลับมาเป็นที่รู้จักและเริ่มโด่งดังไปทั่วโลกอีกครั้ง แต่นั่นก็ไม่ใช่สิ่งการันตีว่าสถาปัตยกรรมทรงคุณค่านี้จะคงอยู่ได้นาน เราก็ได้แต่หวังว่าอนาคตมันจะกลายเป็นหนึ่งในตำนานไอคอนิกเช่นเดียวกันกับ Villa Savoye ของ Le Corbusier หรือ Fallingwater ของ Frank Lloyd Wright ที่กลายเป็นมรดกทางสถาปัตยกรรมชิ้นสำคัญของโลกใบนี้ไปแล้ว
แหล่งอ้างอิงข้อมูลและภาพถ่าย
MIRAI KUROKAWA DESIGN STUDIO Co., Ltd.: https://miraikurokawa.jp/
Hidden Architecture: http://hiddenarchitecture.net/capsule-house-k/
Time Out Tokyo: https://www.timeout.com/tokyo/hotels/kisho-kurokawas-metabolist-masterpiece-capsule-house-k-is-being-restored-into-a-holiday-villa
The Spaces: https://thespaces.com/kisho-kurakawas-capsule-house-k-is-set-to-reopen-to-the-public-in-japan/
Designboom: https://www.designboom.com/architecture/kisho-kurokawa-nakagin-capsule-tower-building/
CHRONIQUES D’ARCHITECTURE: https://chroniques-architecture.com/le-metabolisme-construit-avant-garde-japonaise/
dezeen: https://www.dezeen.com/2022/04/12/nakagin-capsule-tower-demolition-begins-tokyo/
รับข่าวสารเรื่องการออกแบบ สถาปัตยกรรม ไลฟ์สไตล์
ทางอีเมล ที่จะส่งตรงถึงคุณทุกเดือน ลงทะเบียนได้ที่ด้านล่างนี้เลย!