หลังจากที่นำเสนอ Kenzo Tange สถาปนิกชาวญี่ปุ่น ผู้บุกเบิกแนวคิด Metabolism Architecture ไปเมื่อครั้งก่อน เพื่อให้เข้าใจถึงสถาปัตยกรรมแบบ Matabolism มากขึ้น วันนี้เราจะขอขยายความแนวคิดนี้ ผ่านเรื่องราวการออกแบบของสถาปนิกท่านหนึ่ง ซึ่งเชื่อได้เลยว่า ถ้าพูดถึง Metabolism Architecture หลายๆ คนต้องนึกถึงชื่อของ คิโช คุโรคาวะ (Kisho Kurokawa) อย่างแน่นอน
คุโรคาวะเริ่มต้นเส้นทางการเป็นสถาปนิกด้วยการเข้าศึกษาสถาปัตยกรรมระดับปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยเกียวโต และเข้าเรียนระดับปริญญาโทที่มหาวิทยาลัยโตเกียวภายใต้การดูแลของ Kenzo Tange หลังจากสำเร็จการศึกษาในปี ค.ศ.1959 ไม่นานเขามีโอกาสได้เข้าร่วมก่อตั้งขบวนการ Metabolist Movement ซึ่งในยุคนั้นถือเป็นกลุ่มแนวคิดสมัยใหม่สุดแหวกแนว ที่ผสานรูปแบบสถาปัตยกรรมไปพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงภายใต้บริบทของความเป็นเอเชีย
Nagoya City Art Museum , Aichi , Japan 1987
Photo Credit : www.pinterest.com
ในปี ค.ศ.1962 คุโรคาวะได้ก่อตั้งบริษัท Kisho Kurokawa Architect & Associates เป็นของตนเอง โดยมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในเมืองโตเกียว และมีสำนักงานสาขาย่อยมากมายทั่วโลกอย่าง โอซาก้า นาโกย่า นูร์-ซุลตัน กัวลาลัมเปอร์ ปักกิ่ง และลอสแองเจลิส
ไม่เพียงแต่เป็นสถาปนิกที่โด่งดังในด้านของ Metabolist เท่านั้น คุโรคาวะยังยึดหลักแนวคิดของสถาปัตยกรรมที่ยั่งยืนและคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม ทำให้ผลงานออกแบบของเขาโดดเด่นในเรื่องของสถาปัตยกรรมที่รองรับการขยายตัวของเมือง ซึ่งนำเอาเรื่องของวัฒนธรรมและธรรมชาติดั้งเดิมของญี่ปุ่นเข้ามาประยุกต์ใช้ได้อย่างน่าสนใจ
The National Art Center, Tokyo , Japan 2008
Photo Credit : en.wikipedia.org , live.staticflickr.com
การออกแบบสถาปัตยกรรมที่ ‘ไม่ถาวร’
ด้วยความที่วัสดุส่วนใหญ่ที่ใช้ก่อสร้างอาคารในประเทศญี่ปุ่นมักจะทำจากไม้และวัสดุจากธรรมชาติ เมื่อถึงคราวสงครามและผลกระทบจากภัยธรรมชาติอย่างแผ่นดินไหว พายุไต้ฝุ่น น้ำท่วมและภูเขาไฟระเบิด จึงทำให้สถาปัตยกรรมที่มีอยู่ในยุคนั้นถูกเผาเป็นเถ้าถ่านและหายไปอย่างน่าใจหาย
แนวคิดของสิ่งที่คงอยู่ไม่ถาวร สะท้อนให้เห็นในผลงานของคุโรคาวะในช่วงยุค Metabolism อาคารส่วนมากถูกสร้างขึ้นด้วยโครงสร้างที่แสดงถึงความ ‘ชั่วคราว’ โดยสามารถถอดและปรับเปลี่ยนได้ เพื่อแสดงถึงสถาปัตยกรรมที่ขยายตัวควบคู่ไปกับการเปลี่ยนแปลงของเมือง
Agricultural City, Aichi, Japan 1960
Photo Credit : archeyes.com
ซื่อตรงต่อความเป็น ‘วัสดุ’
อย่างที่เราเห็นกันว่าชาวญี่ปุ่นพยายามใช้ประโยชน์จากพื้นผิวและสีตามธรรมชาติของวัสดุ โดยเผยให้เห็นในการออกแบบอาคาร ความซื่อสัตย์ในวัสดุนี้เกิดจากความคิดที่ว่าธรรมชาติมีความสวยงามในตัวเอง ด้วยความเชื่อของชาวญี่ปุ่นที่ว่าความเพลิดเพลินสูงสุดมักจะมาจากสภาพธรรมชาติ
การซื่อตรงต่อวัสดุ ยังคงมีให้เห็นในงานของคุโรคาวะ ไม่ว่าจะเป็นการใช้เหล็ก อลูมิเนียม หรือพื้นผิวคอนกรีตโดยธรรมชาติ อย่างเช่น Nakagin Capsule Tower ซึ่งจะไม่มีการใช้สีเทียม องค์ประกอบต่างๆ จะถูกเผยให้เห็นเนื้อแท้ของวัสดุ โดยมีการเปิดให้เห็นโครงสร้าง สะท้อนความคิดแบบ Modernism ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมในยุคสมัยนั้น
Hiroshima City Museum of Contemporary Art ,Hiroshima, Japan 1989
Photo Credit : www.hiroshima-navi.or.jp , www.japanvisitor.com
Nakagin Capsule Tower Tokyo, Japan 1972
แน่นอนว่า ผลงานแนว Metabolism ที่สร้างชื่อให้กับคุโรคาวะ คือ Nakagin Capsule Tower ซึ่งตั้งอยู่ในเขตชิมบาชิ กรุงโตเกียว เพื่อรองรับแนวคิดการเปลี่ยนแปลงของเมืองหลังยุคสงครามที่เราเล่าไปข้างต้น คุโรคาวะจึงตั้งใจออกแบบให้ Nakagin Capsule Tower เปรียบเสมือนต้นแบบของโรงแรมแคปซูลสมัยใหม่ ที่พร้อมถอด ประกอบและปรับเปลี่ยนได้ตามสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลง
Nakagin Capsule Tower Tokyo, Japan 1972
Photo Credit : www.bubblemania.fr
ด้วยความที่ Nakagin Capsule Tower มีฟังก์ชันเพื่อรองรับพนักงานออฟฟิศในราคาที่ย่อมเยา ขนาดห้องภายในจึงถูกลดลงเหลือเพียง 250 x 365 x 213 เซนติเมตร แต่ความเล็กนี้ไม่ได้เป็นปัญหา เพราะคุโรคาวะตั้งใจออกแบบให้พื้นที่สามารถขยายให้กว้างขึ้นได้ด้วยการนำแคปซูลแต่ละชิ้นมาประกอบเข้าด้วยกันด้วยการถอดออกและยึดเข้าใหม่ได้อย่างอิสระ โดยอาคารนี้เริ่มต้นด้วยการวางโครงสร้างเป็นคอนกรีตที่หนาและแข็งแรง เพื่อใช้ในการเป็นโครงสร้างหลัก (Main Structure) จากนั้นจึงค่อยๆ ใช้เครนยกแคปซูลแต่ละชิ้นเข้ามาประกอบเป็นชั้นๆ คล้ายคลึงกับระบบ Modular ทำให้แต่ละห้องเป็นเหมือนส่วนต่อเติมที่พร้อมรื้อออก โดยไม่กระทบกับห้องอื่นๆ นอกจากนั้น ระบบดังกล่าวยังทำให้อาคาร 13 ชั้นแห่งนี้สามารถก่อสร้างได้อย่างรวดเร็ว โดยใช้เวลาเพียง 30 วันเท่านั้น
Nakagin Capsule Tower Tokyo, Japan 1972
Photo Credit : www.bubblemania.fr
ในการออกแบบระบบ Modular นี้ สถาปนิกตั้งใจให้มีการเปลี่ยนแคปซูลใหม่ทุกๆ 25 ปี เพื่อให้ตึกสามารถดำรงอยู่ได้ในระยะยาว แต่อย่างไรก็ตาม ด้วยปัจจัยหลายๆ อย่างของการใช้งานที่เกิดขึ้นจริง เช่น การขายขาดห้อง ทำให้การตัดสินใจเปลี่ยนแคปซูลนั้นขึ้นอยู่กับเจ้าของห้อง รวมถึงการประสบปัญหาทางการเงินของเจ้าของอาคาร ไม่มีงบประมาณเพียงพอในการเปลี่ยนแคปซูล ทำให้ความตั้งใจของสถาปนิกในตอนแรกเป็นอันต้องยกเลิกไป
Nakagin Capsule Tower Tokyo, Japan 1972
Photo Credit : www.bubblemania.fr
คงพูดได้ว่า อาคารแห่งนี้ ถือเป็นหนึ่งในภาพจำที่คนญี่ปุ่นต่างรู้จักกันดีในบทบาทของสถาปัตยกรรมแบบ Modernism ซึ่งกำลังมาแรงในยุคสมัยที่ญี่ปุ่นฟื้นตัวหลังจากโดนถล่มแพ้ย่อยยับในสงครามโลกครั้งที่สอง สถาปัตยกรรมที่มีแนวคิดอันชัดเจนนี้จึงเป็นเครื่องพิสูจน์ให้เห็นว่าไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนับสิบๆ ปี แต่แนวคิดของการออกแบบยังคงทิ้งร่องรอยเอาไว้ให้คนรุ่นหลังศึกษาอยู่เสมอ
ในปัจจุบันบางแคปซูลของ Nakagin Capsule Tower ยังคงเปิดให้เช่ารายเดือน และมีการจัดแสดงให้ผู้สนใจสามารถเข้าเยี่ยมชมสถาปัตยกรรมภายในของอาคารได้ โดยค่าใช้จ่ายจากการเข้าชมจะนำไปใช้เพื่อการอนุรักษ์และฟื้นฟูให้อาคาร Nakagin Capsule Tower มีชีวิตอยู่ต่อไป
Nakagin Capsule Tower Tokyo, Japan 1972
Photo Credit : live.staticflickr.com
Expo’70 Takara Beautilion, Osaka, Japan 1968-1970
อาคารแห่งนี้เป็นการออกแบบสำหรับงานจัดแสดงสินค้าระดับโลกที่เรียกว่า EXPO ’70 โดยจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในญี่ปุ่น ผลงานรูปลักษณ์แหวกแนวที่แม้มองดูในปัจจุบันก็ยังคงความล้ำสมัยให้เราเห็น เป็นอีกหนึ่งผลงานที่แสดงแนวคิด Metabolist ของคุโรคาวะ ได้เป็นอย่างดี
เพื่อแสดงถึงความไม่สมบูรณ์ของโครงสร้างภายในประเทศญี่ปุ่นที่กำลังฟื้นตัวจากสงคราม คุโรคาวะยังคงตั้งใจให้การออกแบบอาคารอยู่ในรูปแบบของโมดูลาร์แยกส่วน สะท้อนแนวคิดความ ‘ไม่ถาวร’ เพื่อระลึกถึงกระบวนการทางสถาปัตยกรรมที่มักจะมีการรื้อและสร้างขึ้นใหม่ วนเวียนไปอย่างไม่รู้จบ
Expo’70 Takara Beautilion, Osaka, Japan 1968-1970
Photo Credit : www.bubblemania.fr
อาคารนี้ประกอบไปด้วยชั้นใต้ดิน 1 ชั้นและบนดินอีกทั้งหมด 4 ชั้น โดยโครงสร้างทั้ง 4 ชั้นจะถูกประกอบกันขึ้นด้วยท่อเหล็กขึ้นรูป คล้ายต้นไม้ที่ยื่นออกไปทุกทิศทาง โดยความพิเศษของโครงสร้างเหล่านี้ คือ สามารถขยายออกหรือต่อซ้ำไปมาได้ทั้งแนวนอนและแนวตั้งขึ้นอยู่กับความจำเป็นในการใช้พื้นที่
Expo’70 Takara Beautilion, Osaka, Japan 1968-1970
Photo Credit : www.bubblemania.fr
อาคารรูปร่างล้ำสมัย แปลกตาที่เราเห็น ล้วนมาจากแนวคิดของสถาปนิกรุ่นเก๋า ซึ่งพร้อมจะทุ่มเทเพื่อสร้างสถาปัตยกรรมช่วยยกระดับเมือง สังคมและความเป็นอยู่ให้ดีขึ้น เช่นเดียวกับผลงานการออกแบบของ Kisho Kurokawa ที่ยังคงเอกลักษณ์ และสะท้อนแนวคิดของการเปลี่ยนแปลงเมืองอันชัดเจน จึงไม่น่าแปลกใจเลย ที่ในปัจจุบัน ผลงานของเขายังคงโดดเด่น และน่าติดตาม ด้วยรูปลักษณ์อันล้ำสมัย เหนือกาลเวลา ควรค่าแก่การอนุรักษ์ไว้ให้คนรุ่นหลังศึกษาต่อไป
ขอบคุณที่มาข้อมูลจาก:
www.wallpaper.com , features.japantimes.co.jp , www.nakagincapsuletower.com , arcspace.com/architect/ , www.independent.co.uk , www.kisho.co.jp