OPENING HOURS: MONDAY – SUNDAY: 10.00 AM TO 8.00 PM

info@sitename.com | 987654321

Design Makes A Better Life.

Design Makes A Better Life.

7 สิ่งน่าทึ่งเกี่ยวกับ GAYSORN TOWER

อีกไม่นานนัก จะมีอาคารใหม่สร้างเสร็จเพื่อเติมเต็มพื้นที่ธุรกิจอย่างย่านราชประสงค์ ให้เป็นพื้นที่สุดยอดแห่งการลงทุน และน่าทำงานที่สุดย่านหนึ่งในประเทศไทย อาคารนั้นก็คือ Gaysorn Tower หรือ เกษร ทาวเวอร์ ไปดูกันครับ กับ 7 สิ่งน่าทึ่งเกี่ยวกับ GAYSORN TOWER

 

01

1.อาคารเกษร ทาวเวอร์ จะเชื่อมเมืองด้วย Sky Walk

โครงการเกษร ทาวเวอร์นี้ ยังเป็นอาคารที่ริเริ่มและผลักดันให้เกิดทางเดินลอยฟ้า หรือ Ratchaprasong Walk ที่จะเชื่อมไปถึงบริเวณประตูน้ำ สามารถเดินได้อย่างต่อเนื่องเข้าถึง 18 อาคารภายในย่านราชประสงค์ ภายใน 3-5 นาที

gaysorn-tower-exteriorgaysorn-tower-gaysorn-walk-cocoon

2.สุดยอดนักออกแบบระดับประเทศ

โครงการ เกษร ทาวเวอร์ ออกแบบโดย บริษัท สถาปนิก 49 จำกัด หรือ A49 บริษัทชั้นนำด้านการออกแบบสถาปัตยกรรมของประเทศไทย กับแนวคิด “Refined Quality Lifestyle” สร้างจุดเด่นให้กับตัวอาคาร ในส่วนของ Façade บริเวณชั้น 1-4 ถูกออกแบบให้มีความต่อเนื่องเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับศูนย์การค้าเกษร ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Pleats หรือ สไบ” รวมถึงการใช้ Horizontal fin shading ที่ยื่นออกมาจากตัวอาคารตั้งแต่ชั้น 5 ขึ้นไป เพื่อแบ่งขอบเขตระหว่างชั้นอย่างชัดเจน ซึ่งนอกจากจะสร้างเอกลักษณ์ให้อาคารมีความสวยงามขึ้นแล้วยังช่วยป้องกันแสงแดดและความร้อน ที่จะเข้าสู่ตัวอาคารได้อีกด้วย  ด้านการออกแบบภายใน รออกแบบโดย บริษัท CL3 จากประเทศฮ่องกง เน้นสร้างประสบการณ์การใช้งานอาคารที่ต่อเนื่องและการเชื่อมต่อพื้นที่ต่างๆ ให้เข้ากันได้อย่างลงตัว

05

ด้านการออกแบบภูมิสถาปัตยกรรมของโครงการ ดำเนินการออกแบบโดย บริษัท แลนด์สเคป อาร์คิเทค 49 จำกัด หรือ L49 โดยเน้นการใช้พื้นที่สีเขียวที่ประดับด้วยไม้ยืนต้น และไม้พุ่ม เพื่อสร้างจุดเด่นให้กับพื้นที่โดยรอบบริเวณอาคาร141104_CL3_Gaysorn II Presentation.pdf

3.อาคารนี้มี LEED Gold Cetificate รับรอง

อาคารนี้ยังก่อสร้างขึ้นด้วยนวัตกรรมและวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และช่วยอนุรักษ์ทรัพยากรทางธรรมชาติอย่างยั่งยืน และได้รับมาตรฐานระดับสากลอย่าง LEED Gold Certificate อาทิ

  • มีการใช้แผงกันแดด Horizontal fin shading กั้นบริเวณ Façade ของอาคารตั้งแต่ชั้น 5 ขึ้นไป นอกจากจะเพิ่มความสวยงาม ยังช่วยป้องกันแสงแดดและความร้อนจากดวงอาทิตย์ที่จะเข้ามาสู่ภายในอาคาร
  • รวมถึงการใช้ Low E-Coated Insulated Glass with High Visual Light Transmission Performance กระจกที่มีคุณสมบัติกันความร้อนและสะท้อนแสงอาทิตย์ ที่ทำให้อากาศภายในอาคารเย็นสบายตลอดทั้งวัน แม้อยู่ริมหน้าต่าง ซึ่งมีส่วนสำคัญในการใช้ประโยชน์จากพื้นที่ใช้สอยภายในสำนักงานได้เต็มประสิทธิภาย
  • นอกจากนี้ยังมีระบบ Pre-Cooled Fresh Air Intake with Heat Recovery Wheel ระบบควบคุมคุณภาพการหมุนเวียนอากาศ ที่จะเปลี่ยนอากาศเสียภายในอาคารให้เป็นอากาศบริสุทธิ์เข้ามาแทนที่
  • มีการนำระบบ Central Chilled Water System เข้ามาใช้ ซึ่งเป็นระบบปรับอากาศที่มีประสิทธิภาพสูง ใช้พลังงานจากน้ำ ช่วยประหยัดไฟฟ้าและพลังงาน

gaysorn-tower-l19-landscape

4.พื้นที่สำนักงานที่อุดมไปด้วยความสุข

เพราะที่นี่มี เอาท์ดอร์ กรีนเนอรี่ สกาย การ์เด้น (Outdoor Greenery Sky Garden) หรือสวนหย่อมบนชั้น 19 ของอาคาร สไตล์ทรอปิคอลรีสอร์ท ที่สร้างบรรยากาศของอาคารให้ดูสดชื่นและมีชีวิตชีวา จะช่วยให้ผู้ที่ทำงานในอาคารนี้รู้สึกผ่อนคลาย สามารถใช้เป็นพื้นที่สำหรับเปลี่ยนบรรยากาศในการทำงานท่ามกลางธรรมชาติ สร้างแรงบันดาลใจ หรือจัดกิจกรรมพิเศษ ในรูปแบบต่างๆ ได้

07

5.ห้องประชุมที่ยื่นออกมากลางอากาศ

ใช่แล้ว ที่นี่มี เกษร คริสตัล บอลรูม (Gaysorn Crystal Ballroom) ห้องจัดประชุมและสัมมนาลอยฟ้าบริเวณชั้น 19 ขนาด 370 ตารางเมตร โครงสร้างเหล็กยื่นลอยออกมาจากตัวอาคาร สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของกรุงเทพได้กว้างไกล รองรับการจัดประชุม สัมมนา งานแถลงข่าว และงานเลี้ยงรูปแบบต่างๆ ได้

gaysorn-tower-l19-meeting-collaboration-space

6.พื้นที่ส่วนกลางสำหรับพนักงานแบบไม่กั๊ก

ที่นี่ถือเป็นอาคารสำนักงานที่คิดถึงเรื่องคุณภาพชีวิตของคนที่จะเข้ามาใช้งานเป็นหลัก เพราะมีทั้งพื้นที่ผ่อนคลาย บังเทิง สร้างสรรค์ รวมถึงมีพื้นที่สำหรับความปลอดภัยหรือการรักษาพยาบาล โดยหากใครก็ตามที่เจ็บป่าว ที่นี่มีห้องและพยาบาลที่สามารถรักษาอาการได้เบิ้องต้น ก่อนที่จะพิจารณาทำการรักษาส่งต่อไปยังโรงพยาบาล เรียกว่าทำงานที่นี่ เหมือนเป็นเมืองที่มีสวัสดิการที่ดีสุดๆเมืองหนึ่งเลยก็ว่าได้

gaysorn-tower-office-lobbygaysorn-tower-l19-meeting-collaboration-space-1gaysorn-tower-retail

7.ความสูงฝ้าส่วนสำนักงาน สูงถึง 2.95 เมตร

นำเสนอเอกลักษณ์ในการออกแบบพื้นที่แบบ Better Product, Better Flexibility ซึ่งแบ่งย่อยพื้นที่ ออกเป็นขนาดต่างๆ เพื่อให้เหมาะสมกับธุรกิจหลากหลายประเภทเริ่มต้นจากขนาดเล็กสุด 120 ตารางเมตร ไปจนถึง ขนาดใหญ่สุด 1,800 ตารางเมตร รวมถึงการออกแบบพื้นที่ให้ไม่มีเสากั้นระหว่างกลางหรือ “Column Free Design” นอกจากนี้พื้นที่เช่ายังมีความสูงจากพื้นถึงเพดานมากกว่ามาตรฐานถึงกว่า 2.95 เมตร ถือว่าสูงมากๆ

06%e0%b8%84%e0%b8%b8%e0%b8%93%e0%b8%9f%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b8%9f%e0%b8%b7%e0%b9%89%e0%b8%99-%e0%b9%80%e0%b8%95%e0%b9%87%e0%b8%a1%e0%b8%9a%e0%b8%b8%e0%b8%8d%e0%b9%80%e0%b8%81%e0%b8%b5%e0%b8%a2%e0%b8%a3

นอกจากนั้นยังมีพื้นที่ที่น่าสนใจอาทิ

  • ศูนย์การค้า (Lifestyle Retail) เริ่มตั้งแต่ ชั้นใต้ดิน – ชั้น 4 โดยมีพื้นที่รวมทั้งหมด 5,000 ตารางเมตร เชื่อมโยงระหว่างศูนย์การค้าเกษร และอาคารเกษรทาวเวอร์ด้วย “Gaysorn Walk” บริเวณชั้น  2 ของอาคาร
  • ชั้นจอดรถ (Parking) ตั้งแต่ชั้น 5 – 8 รวมพื้นที่ทั้งหมด 14,000 ตารางเมตร สามารถจอดรถยนต์ได้ทั้งสิ้น 370 คัน
  • เกษร เออร์เบิน รีทรีท (Gaysorn Urban Retreat) ศูนย์บริการด้านความงามและสุขภาพ ตั้งแต่ชั้น 9 – 12 บนพื้นที่ชั้นละ 1,500 ตารางเมตร รวมพื้นที่ทั้งหมด 6,000 ตารางเมตร

การออกแบบอาคารเพื่อธุรกิจ ไม่จำเป็นต้นแสวงหาผลประโยชน์เสมอไป โดยลืมไปว่าสิ่งสำคัญที่สุดคือ “มนุษย์” ที่จะมาใช้งานอาคาร อาคารเกษร ทาวเวอร์นี้ แสดงให้เห็นว่าการออกแบบนั้นต้องตอบสนองความต้องการผู้ใช้งานมากที่สุด นอกจากปัจจัยในการอยู่อาศัยแล้ว เรื่องความรู้สึก ความสุขก็สำคัญไม่แพ้กัน ทั้งหมดได้สะท้อนออกมาถึงรูปแบบอาคารทั้งหมดได้เป็นอย่างดี