ความเรียบง่าย ความลงตัวของสถาปัตยกรรม มีผลต่อการใช้ชีวิตของคนอย่างไร หลายครั้งที่เราแอบตั้งคำถามว่า เราสามารถรับรู้และสัมผัสได้ถึงความงามของความตั้งใจเหล่านั้นได้มากน้อยเพียงใด วันนี้เรากำลังจะพาทุกคนไปหาคำตอบกับ “Less is more” ในนิยามการออกแบบของ NOBLE Ploenchit แห่งนี้
Noble Ploenchit กับการออกแบบตามปรัชญา “Less is more” ด้วยแนวคิด Architecture of Future Living เปรียบเสมือนสถาปัตยกรรมแห่งชีวิตอนาคต ออกแบบด้วยแนวคิดที่เรียบง่าย เส้นสายที่น้อยแต่ลงตัว รวมถึงโครงสร้างที่สร้างมิติแสงและเงาได้อย่างน่าสนใจ เป็นโครงการที่ Dsign Something จะพาไปชมต่อจากนี้ครับ
– เมืองแห่งอนาคต ชีวิตแนวตั้งที่แท้จริง –
ทั้ง Canary Wharf ประเทศอังกฤษ, Roppongi Hills ประเทศญี่ปุ่น, La Defense ประเทศฝรั่งเศส ทั้งหมดเป็นเมืองแนวตั้งที่เกิดขึ้นจากแนวคิดของสถาปนิกผู้มีอิทธิพลมากที่สุดคนหนึ่งของโลกนั่นคือ Le Corbusier ที่ได้เสนอแนวคิดเรื่องการออกแบบเมืองที่ตอบสนองความต้องการของคนอย่างยั่งยื่นและมั่นคง หรือ Vertical Garden City ที่ว่าด้วยเรื่องการจัดสรรพื้นที่ใช้งานของเมืองที่สัมพันธ์กับ ความสุข ในการอยู่อาศัยของผู้คน
Le Corbusier (ภาพจาก www.jung.de)
Le Corbusier เห็นความสำคัญของ “พื้นที่สีเขียว” มาก โดยมองว่าเมืองที่ดีนั้น ควรมีองค์ประกอบที่ครบถ้วนทั้งเรื่องของเศรษฐกิจ สังคม ความสัมพันธ์ คุณภาพชีวิตที่ดี และความเป็นส่วนตัวของผู้อยู่อาศัย ทั้งนี้พื้นที่สีเขียวยังหมายรวมถึงพื้นที่เปิดโล่งจากพื้นขึ้นไปสู่ท้องฟ้าโดยไม่มีอะไรปิดกั้น นั่นแสดงว่า หากต้องการให้มีประชากรจำนวนมากอยู่อาศัยได้อย่างปลอดภัย ไม่อึดอัด และยังคงความเป็นส่วนตัว การออกแบบอาคารให้ขึ้นทางแนวตั้ง และเน้นให้มีพื้นที่สีเขียวมากที่สุด จึงน่าจะเป็นทางเลือกที่เหมาะสม Le Corbusier กับทฤษฎีของเขาถูกตีพิมพ์เป็นหนังสือหลายต่อหลายครั้ง จนเป็นแนวคิดที่คนทั่วโลกยอมรับและมุงพัฒนาเมืองให้เข้าใกล้กับแนวคิดนี้มากที่สุด
Noble เล็งเห็นว่าแนวคิดข้างต้นนั้น เป็นสิ่งที่ผ่านการพิสูจน์มาแล้วว่าดีจริง ด้วยหลายเมืองที่ทำ จึงได้วางแนวคิดหลักของ Noble Ploenchit คอนโดมิเนียมใจกลางเมืองให้สอดคล้องกับคำว่า Vertical Garden City เช่นกัน โดยแบ่งอาคารออกเป็น 3 อาคาร และออกแบบอาคารให้มี Foot Print (พื้นที่ใช้สอยสัมผัสดิน) น้อยที่สุด ซึ่งการแบ่งเป็นอาคารย่อยๆนั้น ก็เป็นการเปิดโอกาสให้สวนสีเขียวพร้อมต้นไม้ร่มรื่น ได้แทรกตัวเข้าในภายในได้มากที่สุด
และด้วยทำเลที่ตั้งของ Noble Ploenchit ที่อยู่ใจกลางเมืองพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นอาคารสำนักงาน ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร สถานพยาบาล โรงเรียน และการเดินทางที่สะดวกสบาย ทำให้ไม่ต้องเสียเวลาในการเดินทางเพื่อทำกิจกรรมในชีวิตประจำวัน เป็นชีวิตแนวตั้งที่เป็นเมืองในอุดมคติของ Le Corbusier โดยแท้จริง
– เส้นสาย แห่งความเรียบง่าย –
ความเรียบง่ายในที่นี้ หมายถึง การลดทอนความซับซ้อนของเส้นสายและองค์ประกอบต่างๆที่เกินความจำเป็น โดยยังคงการใช้งานที่ครบถ้วนอยู่ แต่มากไปกว่านั้นคือ ความน้อยแต่ลงตัวเหล่านี้เป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่แสดงถึงความถ่อมตน การสามารถเข้าได้กับบริบทรอบข้างที่ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเพียงใด ความงามที่ปรากฏ ณ วันแรกที่สถาปัตยกรรมแล้วเสร็จ ก็ยังคงอยู่และจะเป็นเช่นเดิมตลอดไป
การเกิดซ้ำของเส้นสายอาคาร ช่องเปิด หรือองค์ประกอบทางสถาปัตยกรรม คือ รูปแบบในอุดมคติที่สถาปนิกหรือคนในยุคโมเดิร์นนั้นใฝ่ฝันถึง ในที่นี้เราอาจเรียกว่า “เอกภาพ” เป็นความลงตัวที่เกิดจากการกลั่นกรองครั้งแล้วครั้งเล่า เริ่มจากการวางแปลนของโครงการที่เรียบง่ายตรงไปตรงมา เข้าใจง่าย ใช้งานได้สะดวก ก่อตัวเป็นผนังและพื้นชั้นต่อไป Treat รูปด้านและองค์ประกอบต่างๆให้เรียบง่ายที่สุด ลดทอนส่วนที่ไม่จำเป็น จึงเกิดสถาปัตยกรรมที่หมดจดทั้งการใช้งานและรูปแบบของอาคาร
– พื้นที่สีเขียว ใจกลางเมือง –
และหนึ่งความเรียบง่ายของชีวิตนั้นคือการกลับสู่ธรรมชาติ ที่นี่จึงมีพื้นที่สีเขียวกว้างใหญ่กว่า 4 ไร่ ถือว่าเป็นธรรมชาติที่แฝงตัวอยู่ในเมืองที่จะคอยสร้างออกซิเจนและความสดชื่นให้กับผู้ที่อยู่อาศัยได้เป็นอย่างดี พื้นที่สีเขียวได้แทรกตัวเข้าไปยังพื้นที่ว่างระหว่างอาคารอย่างลงตัว สวนรูปทรงเรขาคณิตตรงไปตรงมา ให้ความรู้สึกที่เรียบง่ายและร่มรื่น
โดยการออกแบบและจัดสวนที่เต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่นั้น มีภูมิสถาปนิกมาเลือกสรรพืชพันธุ์ไม้ให้เหมาะกับสภาพอากาศแบบไทย เพื่อสร้างภูมิทัศน์ภายนอกให้สอดคล้อง กลมกลืนกับพื้นที่ภายในโครงการ อีกทั้งยังก่อเกิดประโยชน์ในการใช้งานมากที่สุดอีกด้วย
และนอกจากสวนร่มรื่นที่กระจายตัวไปยังส่วนต่างๆของโครงการแล้ว สระว่ายน้ำสำหรับลูกบ้านที่มีความยาวถึง 45 เมตร ยังเป็นอีกหนึ่ง Landscape ที่สามารถสร้างบรรยากาศแห่งการพักผ่อนได้เป็นอย่างดี ด้วยดีไซน์ขอบสระแบบน้ำล้น ผืนน้ำสะท้อนสีและบรรยากาศรอบข้างเอาไว้ บวกกับเส้นสายเรียบง่ายทำให้บริเวณสระว่ายน้ำนี้ เป็นโลกอีกใบที่เหมาะแก่การพักผ่อนอย่างยิ่ง
– จุด เส้น ระนาบ –
สถาปนิกได้ออกแบบให้สถาปัตยกรรมมีการเชื่อมโยงถึงกันในทุกๆระนาบ ตามหลักการเกิดสถาปัตยกรรม กล่าวคือ จุดก่อเกิดเส้น เส้นก่อเกิดระนาบ ทุกๆหลักการถูกนำมาใช้ได้อย่างน่าสนใจ เห็นชัดได้จากการ Treat รูปด้านอาคารให้มีเส้นตั้งและนอนตัดกัน ในจังหวะที่ออกแบบไว้และเหมาะสมกับการใช้งานภายในจริงๆ รวมถึงการเลือกใช้วัสดุที่ส่งเสริมให้สามารถรับรู้ถึงระนาบต่างๆได้ชัดเจนขึ้น
แต่ความ “น้อย” เหล่านี้ “มาก” ไปด้วยรายละเอียดเกินกว่าที่ตาเราจะมองเห็น ทั้งหมดถูกคิดมาอย่างดี เพื่อให้การใช้งานนั้นยังคงอยู่ในรูปแบบหน้าตาอาคารที่เรียบง่ายหมดจด ทางรูปธรรม เรามองเห็นความเป็นระเบียบเรียบร้อย และในทางนามธรรม เรารู้สึกได้ถึงความสงบนิ่งและผ่อนคลาย
การออกแบบ คิดถึงการรับรู้ระนาบในรูปแบบที่ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นเสา ผนัง ฝ้า ทุกองค์ประกอบมีความชัดเจน แบ่งขาดจากกัน โดยการตัดกันของวัสดุทั้ง 2 หรือ 3 ระนาบ ทำให้เกิดความเรียบง่าย เข้าใจง่าย และดูลงตัวในทุกๆมุมมอง
ในเส้นสายที่เรียบง่ายนั้น ยังคงมีความเป็นธรรมชาติซ่อนอยู่ ไม่ว่าจะเป็นพื้นทางเดิน บันได และองค์ประกอบต่างๆ ล้วนมีความตรงไปตรงมา แต่ไม่น่าเบื่อด้วยลูกเล่นที่แอบซ่อนให้เห็นในทุกๆจุด เพิ่มเติมความเป็นธรรมชาติ ต้นไม้สีเขียวสดเข้าไป ทำให้ภาพรวมนั้นเป็นโครงการที่ร่มรื่นที่สุด ในรูปแบบของสถาปัตยกรรมที่ร่วมสมัยมากที่สุดเช่นกัน
– สถาปัตยกรรมที่เล่นกับความรู้สึก –
สถาปัตยกรรม เป็นสิ่งที่ว่าด้วยเรื่องสเปซและวัสดุ รวมถึงแสงและเงาที่เกิดตามธรรมชาติ ทั้งหมดจะเข้ามาประสานกันในแง่มุมใดแง่มุมหนึ่ง เพื่อให้เกิดสเปซ หรือพื้นที่สำหรับใช้สอย ทั้งนี้ทั้งนั้น ผู้ออกแบบจะคิดถึงความรู้สึกของผู้ใช้งาน พร้อมจินตนาการว่าผู้ใช้อาคารนั้นจะรู้สึกอย่างไร และควรจะรู้สึกอย่างไร
โดยจะเห็นได้จากการออกแบบภาษาของอาคาร ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันทั้งหมดของโครงการ และเล่นกับเรื่องระยะที่ทำให้ผู้ใช้งานอาคารรับรู้ได้ถึงความโมเดิร์นทันสมัย ไม่ว่าจะเป็นความสูงของหลังคาบริเวณสวนกลางโครงการ ที่ยกสูงหลายเมตรเพื่อเปิดพื้นที่ให้โล่งสบาย และ Detail หลังคา ช่วยให้หลังคาไม่ทึบหนัก หรือจะเป็นการใช้วัสดุหินอ่อนที่มีลายและสีสวยงามคุมโทน โดยเลือกใช้ในตำแหน่งที่เป็นจุดหมายตาสำคัญ ทำให้บริเวณนั้นมีความพิเศษขึ้น
การคงระยะของผนังบริเวณรอบอาคาร เพื่อให้รูปด้านเห็นเป็นเส้นตรงตารางสีเหลี่ยมผืนผ้า เป็นเรื่องของการรักษาระยะที่เหมาะกับสเกลของคน เพื่อให้ผู้ใช้งานรู้สึกมีความเป็นส่วนตัว ในขณะเดียวกันก็ยังทำให้รูปด้านที่มีความเรียบง่ายลงตัว และยังเป็น Shading ให้อาคารเพื่อบังแดดลดปริมาณความร้อนที่จะเข้าสู่ตัวห้องได้อีกด้วย
– เสพวิวสวย กับเส้นขอบฟ้า –
ความสุขเรียบง่ายอีกสิ่งหนึ่ง คือการได้เสพวิวที่งดงามของกรุงเทพฯ แบบไร้สิ่งกีดขวางทางสายตา ได้มาอยู่ในมุมสูงที่สามารถมองเห็นอะไรได้กว้างไกลที่ชั้นบนสุดของอาคาร สามารถมานั่งพักผ่อน พูดคุยกับเพื่อนฝูง หรือนั่งดูพระอาทิตย์ตกกับคนรู้ใจก็น่าจะโรแมนติกไม่น้อย
– ความสะดวก คือความเรียบง่ายชนิดหนึ่ง –
นอกจากการออกแบบที่น่าสนใจ ที่นี่ยังเรียกได้ว่าสะดวกสบายมากๆ เพราะอยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้า BTS เพลินจิต โดยมีทางเชื่อมที่สามารถเดินจากสถานีเข้าสู่โครงการได้เลย อีกทั้งยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกอาทิ คาเฟ่ ร้านอาหาร และร้านค้าที่จะคอยบริการที่บริเวณอาคารด้านหน้าที่ติดถนนใหญ่
และสำหรับใครที่อยากสัมผัสความลงตัวที่เกิดจากการออกแบบที่ละเอียดอ่อนแบบนี้ สามารถเข้ามาชมโครงการและห้องตัวอย่างได้ครับ หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://goo.gl/eSLd73