OPENING HOURS: MONDAY – SUNDAY: 10.00 AM TO 8.00 PM

info@sitename.com | 987654321

อีก 23 ปี ญี่ปุ่นจะมี “ตึกไม้ที่สูงที่สุดในโลก”

ทุกวันนี้โลกของเราพัฒนาไปค่อนข้างมาก มีเทคโนโลยีต่างๆที่เข้ามาทำให้เราสามารถสร้างอาคารที่สูงขึ้นไปได้อย่างไม่หยุดยั้ง แต่หากพูดถึงอาคารสูงที่ทำด้วยไม้ คนส่วนใหญ่คงนึกภาพไม่ออก เพราะหาได้ไม่มากในปัจจุบัน แต่ล่าสุดกำลังจะมีอาคารสูงที่สร้างด้วยไม้เพิ่มขึ้นอีกหนึ่งที่บนโลก

แนวคิดบริษัท Sumitomo Forestry ผู้ผลิตอุตสาหกรรมไม้รายใหญ่ในญี่ปุ่น กำลังมีแผนสร้างตึกที่มีชื่อว่า “W350” ในกรุงโตเกียวที่สร้างโดยการใช้ไม้เป็นหลัก มีความสูงถึง 70 ชั้น หรือ 350 เมตร ตั้งใจว่าในอีก 23 ปีข้างหน้า (ปี2041) นอกจากจะเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 350 ปีในการก่อตั้งบริษัทแล้ว W350 จะกลายเป็นตึกไม้ที่สูงที่สุดในโลกอีกด้วย

– พลิกปัญหา ให้เป็นโอกาส –

เริ่มต้นจากปัญหาของบริษัท Sumitomo Forestry ซึ่งโดยปกติไม้ของบริษัทนั้นจะถูกนำไปใช้ในการสร้างบ้าน แต่เนื่องด้วยจำนวนและการอพยพของประชากรที่น้อยลง ทำให้การสร้างบ้านใหม่เกิดขึ้นไม่มากนัก การพลิกปัญหาในครั้งนี้ให้เป็นโอกาส จึงเกิดแนวคิดในการนำไม้ มาเนรมิตให้กลายเป็นตึกสูง หลากหลายฟังก์ชั่น ไม่ว่าจะเป็น โรงแรม ออฟฟิศ ร้านค้าและที่พักอาศัย โดยสัดส่วนทั้งหมดของอาคารจะใช้ไม้เป็นหลัก และใช้เหล็กเพียง 10% หรือในสัดส่วน9:1 เท่านั้น

– เปลี่ยนเมือง ให้เป็นป่า –

“เป้าหมายคือการสร้างเมืองที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และใช้ประโยชน์จากไม้ สร้างป่าไม้ โดยผ่านสถาปัตยกรรมไม้ที่สูงที่สุดในโลก” Sumitomo Forestry กล่าว

คอนกรีต เป็นหนึ่งในวัสดุที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจก หรือมี Carbon footprint ในปริมาณที่สูง ดังนั้น การใช้ไม้เป็นองค์ประกอบหลักของอาคาร W350 จึงเกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยกว่าการสร้างอาคารด้วยคอนกรีต

อาคารหลังนี้ มีการใช้วัสดุธรรมชาติอย่างไม้ในปริมาณมากถึง 185,000 ลูกบากศ์เมตร ซึ่งเพียงพอสำหรับการรองรับ 8,000 ครอบครัว ไม้ที่นำมาใช้นั้น ส่วนใหญ่มาจากต้นไม้ที่ปลูกเป็นระยะเวลานานตั้งแต่สงครามโลก สมควรแก่การตัดก่อนที่จะปล่อยให้ตายหรือเน่าไปอย่างน่าเสียดาย

สุดท้ายแล้วไม้ที่เหลือในการก่อสร้างสามารถรีไซเคิลได้อีกด้วย โดยนำมาเป็นเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้า(biomass power generation) จึงนับว่าเป็นการทำลายธรรมชาติให้น้อยที่สุด นอกจากนี้ยังมีการออกแบบให้เต็มไปด้วยพื้นที่สีเขียว ทั้งภายในและภายนอกอาคาร โดยร่วมมือกับ “Nikken Sekkei” บริษัทสถาปนิกในญี่ปุ่น

– ความอบอุ่นและอ่อนโยน ภายใต้ความแข็งแรง –

โครงสร้างภายนอกอาคาร ภาพผืนป่าอันเขียวชะอุ่มถูกสร้างจากไม้เนื้อแข็ง และการปลูกต้นไม้ที่สามารถทนไฟได้ล้อมรอบระเบียงทั้ง 4 ด้าน เชื่อมต่อกันตั้งแต่ชั้นล่างสุดไปยันชั้นบนสุดของอาคาร ทำให้องค์ประกอบของอาคารน่าสนใจมากยิ่งขึ้น

ส่วนโครงสร้างภายในทั้งเสาและคาน เป็นไม้เนื้ออ่อน ซึ่งให้ความรู้สึกที่อบอวลไปด้วยความอบอุ่นและความอ่อนโยนของไม้ แต่ในขณะเดียวกันต้องมีความแข็งแรง และสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามความต้องการได้

นอกเหนือจากโครงสร้างหลักที่เป็นไม้ ยังมีโครงสร้างพิเศษอย่าง “Brace tube structure” หรือโครงสร้างท่อเหล็ก ที่เชื่อมติดกับเสาและคานไม้ในแนวทะแยง เพื่อช่วยค้ำยันอาคารให้มีความแข็งแรงมากขึ้น และป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดจากแรงลม รวมถึงจากแรงสั่นสะเทือนในเหตุการณ์แผ่นดินไหวด้วย

Sumitomo Forestry คาดว่าอาคารแห่งนี้จะมีมูลค่า 4.2 พันล้านปอนด์ หรือเกือบสองเท่าของอาคารสูงทั่วไปที่สร้างด้วยเทคโนโลยีในปัจจุบัน แต่อย่างไรก็ตาม บริษัทก็กำลังดำเนินการเพื่อลดต้นทุนเหล่านี้ด้วยการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ นอกจากนี้ยังมีความประสงค์ที่ต้องการให้อาคาร W350 นี้ เป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันการใช้ไม้ในเขตเมืองเพื่อ “เปลี่ยนเมืองให้เป็นป่า” อย่างกว้างขวางนั่นเอง

 Something More

  • ปัจจุบันอาคารไม้ที่สูงที่สุดในโลกอยู่เมืองแวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดา ซึ่งเป็นหอพักนักศึกษา 18 ชั้น สูง 53 เมตร
  • สหรัฐอเมริกามีแพลนที่จะก่อสร้างอาคารที่สร้างจากไม้อย่าง River Beach Tower ที่มีขนาดความสูง 80 ชั้น หรือตึกที่มีความสูงประมาณ 244 เมตร เช่นกัน

 

ขอบคุณข้อมูลจาก treehugger , inhabitat และ retalkasia