OPENING HOURS: MONDAY – SUNDAY: 10.00 AM TO 8.00 PM

info@sitename.com | 987654321

Design Makes A Better Life.

Design Makes A Better Life.

ผสมผสานความในใจ ผ่านบ้านที่ทึบนอกแต่โปร่งใน และตรงใจผู้อยู่อาศัยมากที่สุด

Owner : คุณประกิต กองอำนวยสุข
Architect : คุณศตวรรษ ด้วงช้าง จาก JAI Architect & Interior
Interior designer : คุณสุชน ใบสมุทรา
Photograph : คุณศุภกร ศรีสกุล

 

 

หากลองจินตนาการถึง’บ้านในฝัน’ เชื่อว่าหลายๆคนคงมีแบบบ้านในใจของตัวเองอยู่แล้ว ไม่เพียงแต่ความสวยงามที่ตรงใจเท่านั้น แต่การตอบโจทย์ความต้องการในการอยู่อาศัยยังเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่คนให้ความสำคัญเพื่อให้การอยู่อาศัยเป็นไปอย่างสมบูรณ์แบบมากที่สุด เช่นเดียวกันกับบ้านในใจของคุณประกิต กองอำนวยสุขและครอบครัว ที่ไว้ใจให้คุณศตวรรษ ด้วงช้าง สถาปนิกจาก JAI Architect & Interior มาทำหน้าที่ตีโจทย์ความต้องการในใจให้เกิดขึ้นจริงตามที่คาดหวังไว้อย่างดีที่สุด

จุดเริ่มต้นจากความต้องการสร้างอพาร์ทเมนท์ และบ้านพักอาศัยสองชั้นสไตล์โมเดิร์นภายใต้ที่ดินที่แคบและยาว โดยมีโจทย์การออกแบบบ้านพักอาศัยสำหรับสมาชิก 5 คน นั่นคือ คุณพ่อ คุณแม่ ลูกสาวสองคน และคุณย่า ว่า “ต้องการความเป็นส่วนตัวแต่ต้องไม่รู้สึกอึดอัด” นั่นเป็นเหตุผลที่สถาปนิกตัดสินใจออกแบบหน้าบ้านที่มีทิศตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นทิศที่รับแดดตลอดวัน และติดกับอพาร์ทเมนท์(ที่จะสร้างขึ้นในอนาคต) ให้มีความทึบตันเพื่อสร้างความเป็นส่วนตัว ปิดบังมุมมองสายตาจากภายนอกและกรองแสงแดดที่สาดส่องมาในบ้านเกือบทั้งวัน

“ส่วนนี้ผมมองว่าเป็นการออกแบบที่ค่อนข้างท้าทายเพราะหากเราสร้างผนังที่ปิดทึบไปเลย 100% มันช่วยเรื่องความเป็นส่วนตัวก็จริง แต่เมื่อเข้าไปอยู่ภายในบ้านมันอาจจะดูทึบตันเกินไปหรือป่าว หากมีแขกไปใครมา คนในบ้านจะสอดส่องดูแลกันอย่างไร อันนี้เป็นเหมือนโจทย์หลักที่ต้องแก้ปัญหาให้เจ้าของบ้านเขาอยู่แล้วแฮปปี้ที่สุด”

ด้วยโจทย์นี้ทำให้สถาปนิกออกแบบผนังหน้าบ้านในรูปแบบ Double Skin หรือแบ่งผนังบ้านออกเป็นสองเลเยอร์ด้วยกันโดยมีทางเดินระหว่างผนัง ด้านนอกเป็นผนังสีเทาทึบที่เจาะช่องสี่เหลี่ยมผืนผ้าเล็กน้อย ส่วนด้านในเป็นผนังทึบครึ่งหนึ่งและหน้าต่างกระจกใสครึ่งหนึ่ง ซึ่งจะเกิดมุมมองช่องว่างเล็กๆ ที่คนในบ้านสามารถสอดส่องสายตาออกมาภายนอกได้

แม้ภายนอกจะให้ความรู้สึกทึบตัน แต่เมื่อเปิดประตูบ้านเข้าไปภายในกลับให้ความรู้สึกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง เพราะพื้นที่ภายในถูกวางผังแบบ Open plan เชื่อมต่อฟังก์ชันต่างๆไว้ด้วยกันอย่างห้องรับแขก ส่วนรับประทานอาหาร และส่วนจัดเตรียมอาหาร คือคนในบ้านสามารถเชื่อมโยงได้ถึงกันโดยที่ไม่มีส่วนใดปิดกั้น ไม่ว่าจะทำอะไรหรืออยู่ส่วนใดของบ้าน ก็สามารถรับรู้ถึงกิจกรรมของกันและกันได้

ภาพแปลนชั้น 1 ของบ้าน Credit: JAI Architect & Interior

โดยส่วนรับประทานอาหารถูกออกแบบให้เป็นโถงสูง หรือ Double Space นอกจากจะเพิ่มความโปร่งโล่งให้กับตัวบ้านแล้ว ยังเชื่อมต่อพื้นที่ระหว่างชั้นล่างและชั้นบนเข้าด้วยกันอีกด้วย

การตกแต่งภายในเป็นไปอย่างเรียบง่าย ในสไตล์โมเดิร์นที่เจ้าของชื่นชอบและตั้งโจทย์ไว้ตั้งแต่แรก โดยผนังเน้นโทนสีขาวสะอาดตา เข้าคู่กับเฟอร์นิเจอร์ทั้งบิ้วอินและลอยตัวในรูปแบบทันสมัย หน้าต่างกว้างเปิดรับวิวสวนบนพื้นที่ข้างบ้านเล็กๆและป่าธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ในทิศตะวันตกเฉียงเหนือได้อย่างเต็มที่ ทำให้บรรยากาศภายในบ้านดูร่มรื่นมากยิ่งขึ้น

นอกเหนือจากหน้าต่างภายในบ้านที่ถูกออกแบบให้มีขนาดกว้างเพื่อเปิดรับแสงและลมธรรมชาติเข้ามาทำให้บ้านดูโปร่งและอยู่สบายแล้ว บันไดยังเป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบที่ถูกออกแบบให้ดูเบาลอย โดยใช้โครงเหล็กขึ้นรูปทั้งหมดและปิดผิวด้วยไม้เพื่อให้การตกแต่งไปในทิศทางเดียวกัน พร้อมทั้งเลือกใช้ราวกันตกเป็นกระจกใส เพื่อให้ความรู้สึกที่โปร่งที่สุด

ความพิเศษของการออกแบบบ้านหลังนี้ คือมีห้องนั่งเล่นทั้งหมด 2 ห้องด้วยกัน ชั้นล่างหนึ่งห้องและชั้นบนหนึ่งห้อง ซึ่งเป็นความต้องการของตัวเจ้าของบ้านเองที่มักจะมีเพื่อนๆนักกีฬาทีมชาติเพนท์บอลมาเยี่ยมเยียนอยู่บ่อยครั้ง เมื่อคุณพ่อมีแขกพื้นที่ด้านล่างก็สามารถรองรับได้อย่างสะดวกสบาย ในขณะที่คุณแม่และลูกๆหากต้องการความเป็นส่วนตัวก็สามารถขึ้นไปใช้พื้นที่ห้องนั่งเล่นด้านบนได้ โดยห้องนั่งเล่นชั้นสองที่มีส่วนเชื่อมต่อกับลานเด็กเล่น ซึ่งสถาปนิกออกแบบให้เป็นระเบียงกว้าง มีระแนงไม้ปกคลุมด้านบน

ห้องนั่งเล่นและลานเด็กเล่นในชั้นสอง

ห้องนอนในชั้นสองถูกตกแต่งให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันนั่นคือมีความโมเดิร์นเรียบง่าย
หน้าต่างกว้างเพื่อเน้นให้แสงธรรมชาติเข้าสู่พื้นที่ภายในได้

ไม้ เป็นอีกหนึ่งวัสดุที่ช่วยเติมเต็มความสวยงามในส่วนต่างๆของบ้าน ไม่ว่าจะเป็นผนังหรือฝ้า ทั้งภายในและภายนอก ซึ่งที่ไปที่มาของไม้เหล่านี้มาจากโรงไม้เก่าที่เคยตั้งอยู่ภายในพื้นที่ก่อนทำการก่อสร้างบ้านหลังนี้ โดยสถาปนิกนำมาประยุกต์ใหม่เพื่อทำให้บ้านดูมีชีวิตชีวา อบอุ่น และโฮมมี่มากยิ่งขึ้น

“เราเห็นลูกค้ามีความสุข เราก็รู้สึกมีความสุข เพราะว่าความสุขของเราก็เกิดจากการที่ลูกค้ามีความสุขอยู่ในบ้านที่เราออกแบบ ทุกคนมีบ้านอยู่ในใจของตัวเองอยู่แล้ว สถาปนิกอย่างเราก็มีหน้าที่ใช้ความรู้ความสามารถ เพื่อไปช่วยทำให้เขามีบ้านในใจของเขาได้ตามที่เขาหวังไว้” ความในใจของคุณศตวรรษ ในฐานะสถาปนิกผู้ออกแบบบ้านหลังนี้ ที่ให้ความสำคัญกับโจทย์ความต้องการในใจของเจ้าของบ้าน นั่นคือ ปกปิดและปลอดโปร่ง แม้จะฟังดูคล้ายขั้วตรงข้ามแต่สุดท้ายบ้านหลังนี้ก็แสดงให้เราเห็นแล้วว่า ความหมายของความเป็นส่วนตัวของบ้าน นอกจากการปกปิดมุมมองสายตาจากคนภายนอกแล้ว อีกหนึ่งความหมายก็คือ บ้านเป็นสถาปัตยกรรมเฉพาะ(ส่วน)ตัวของผู้อยู่อาศัย ถ่ายทอดผ่านฝีมือการออกแบบของสถาปนิกที่แปรเปลี่ยน ‘ความต้องการในใจ’ ให้กลายเป็นบ้านที่เหมาะสมกับผู้อยู่อาศัยอย่างแท้จริง