มาเลือกพรรณไม้ให้เหมาะกับบ้านไทยกันดีกว่า ใช้พรรณไม้ที่บ่งบอกถึงความเป็นสวนเมืองร้อน (Tropical Garden) โดยเลือกให้เหมาะกับสถานที่และการใช้งาน เพราะต้นไม้มิได้ใช้เพียงเพื่อประดับตกแต่ง แต่ยังช่วยสร้างบรรยากาศสวนให้สดชื่น พรางส่วนที่ไม่น่ามองและสร้างจุดเด่นในมุมที่ต้องการได้ ทั้งนี้เราต้องคำนึงถึงลักษณะรูปทรงต้น พุ่มใบ ลักษณะใบ และลักษณะนิสัยต้นไม้นั้นๆ มาดูพร้อมกันเลยดีกว่าครับ ว่าพรรณไม้อะไรเข้าท่าบ้าง
ลีลาวดี ( Plumeria spp.)
ไม้ยืนต้น สูง 6-8 เมตร แม้จะไม่ใช่ต้นไม้ที่มีถิ่นกำเนิดในบ้านเรา แต่ด้วยลีลาของกิ่งก้านที่แผ่กว้าง สวยงามเป็นธรรมชาติ ทำให้สามารถปลูกลั่นทมประดับคู่เรือนไทยได้โดยไม่ขัดกัน และหากปลูกกลางสวนไทยที่มักเป็นสนามหญ้าโล่ง จะยิ่งทำให้ลั่นทมต้นสวยกลายเป็นประติมากรรมธรรมชาติที่ดึงดูดสายตา ให้สวนบ้านไทยชวนมอง
พิกุล ( Mimusops elengi L.)
พิกุล ชื่อนี้ที่คนไทยคุ้นมานาน เป็นไม้ยืนต้นสูง 5-18 เมตร ลักษณะเด่นของพิกุลอยู่ที่ทรงพุ่มแน่นทึบ และมีรูปร่างค่อนข้างเป็นพุ่มกลม กอปรกับมีใบละเอียดเล็ก ทำให้ภาพรวมออกมาเป็นต้นไม้ที่มีรูปทรงเรขาคณิต หากปลูกพิกุลเรียงเป็นแนว จัดจังหวะให้สมมาตรในสไตล์คล้ายสวนฟอร์มัล จะช่วยส่งเสริมให้เห็นความสง่างามของเรือนไทย
หมากเขียว ( Ptychosperma macarthurii H.A. Wendl.)
ไม้พุ่ม สูงประมาณ 3-6 เมตร จัดอยู่ในกลุ่มวงศ์ปาล์ม-มะพร้าว ใบเป็นรูปขนนกดูพลิ้วไหว สวยงาม เมื่อนำปลูกลงดิน แตกกอใหญ่กึ่งทึบกึ่งโปร่ง โดยทั่วไปจึงนิยมนำมาปลูกเป็นแนวรั้วข้างบ้าน เพื่อปิดบังสิ่งไม่น่ามอง หรือปลูกเป็นฉากหลัง เป็นจุดจบสายตาในสวน บ้างก็ปลูกเป็นกอวางเข้ามุมเพื่อลบความแข็งกระด้างของเหลี่ยมมุมนั้น สำหรับเรือนไม้แบบไทยๆ ก็สามารถนำหลักการเดียวกันมาใช้ได้ ทำให้นึกหวนกลับไปที่ภาพเรือนไทยในอดีต ยกพื้นสูง ปลูกไม้ผลไม้กินได้รอบบ้าน โดยเฉพาะต้นหมากที่หน้าตาและเส้นใบคล้ายกัน
จั๋งจีน (Rhapis humilis Bl.)
ไม้พุ่ม สูง 2-4 เมตร มีลักษณะเด่นที่ใบประกอบเป็นรูปพัด พุ่มกอแน่นสวยงาม เป็นต้นไม้ที่มีถิ่นกำเนิดในเขตมรสุม ด้วยพื้นเพชาติกำเนิด จึงทำให้จั๋งจีนมักปรากฏร่วมอยู่คู่กับการตกแต่งสไตล์โอเรียนทัล เรือนไทยเองก็สามารถใช้ได้เช่นกัน และหากนำจั๋งจีนมาปลูกวางเป็นกอริมเชิงบันไดขึ้นเรือน นอกจากจะเพิ่มความนุ่มนวลชวนมองให้หน้าตัวเรือนแล้ว ยังเป็นพุ่มปิดบังช่องว่างไม่น่ามองใต้ชานพักบันไดได้อีกด้วย
พลับพลึง (Crinum asiaticum Linn.)
ไม้พุ่ม สูงประมาณ 1-2 เมตร ดอกเป็นช่อขนาดใหญ่ สีขาวหรือม่วงแดง มีกลิ่นหอมและสวยงาม ทรงต้นสวยด้วยแผ่นใบเรียวยาวรูปดาบ เรียงสลับเวียนรอบต้น แม้ปลูกเพียงต้นเดียวริมสวนก็ เป็นจุดเด่นและจุดพักสายตาที่ชวนมองได้เป็นอย่างดี ยิ่งถ้าได้ปลูกริมตลิ่ง จะเข้ากันได้ดีกับสวนน้ำ จึงเป็นอีกหนึ่งพรรณไม้ที่อยากแนะนำให้ปลูกคู่บ้านไทย
เอื้องหมายนาด่าง ( Costus speciosus “Marginatus” )
เป็นไม้พุ่ม ขึ้นเป็นกอสวยงาม สูงประมาณ 1-2 เมตร ใบยาวรีปลายใบแหลม สีเขียวสด ขอบใบสีเหลืองนวล แตกเวียนรอบลำต้น ออกดอกสีขาวที่ยอด จากสีใบที่ค่อนข้างสว่างเมื่อนำมาประดับใส่ในกระถางใบสวย วางตั้งประดับบนเรือน จะช่วยดึงบรรยากาศเรือนไม้ที่เข้มขรึม ให้ดูสบายตาและอ่อนโยนลง
ปาล์มไผ่ ( Chamaedorea erumpens H.E. Moore)
เป็นปาล์มที่มีขนาดเล็กเจริญเติบโตช้า สูงประมาณ 2 – 3 เมตร แตกกอสวยงาม ดูอ่อนช้อยคล้ายกอไผ่ และเหมาะดีกับการตกแต่งสไตล์โอเรียนทัล รวมทั้งสไตล์ไทย เมื่อปลูกใส่กระถางวางประดับหน้าฝาบ้านสามารถลดความแข็งกระด้างของแผ่นไม้ให้ดูอ่อนช้อยลงได้ทันตา
เสน่ห์จันทน์แดง ( Homalomena rubescens Kunth)
ไม้พุ่ม สูงประมาณ 0.5-1 เมตร ด้วยลักษณะทรงพุ่มต้น และใบที่มีสีเขียวเป็นมัน เส้นใบจมเป็นลอนเห็นชัดเจน และก้านใบสีแดงเข้ม ทำให้เสน่ห์จันทน์แดงเป็นต้นไม้ที่มีเสน่ห์สมชื่อ ชอบอยู่ในที่ร่มรำไร จึงสามารถปลูกเป็นไม้กระถางประดับในตัวเรือน ตั้งวางให้โดดเด่น เป็นจุดพักสายตา สร้างจังหวะของแนวระเบียงหรือฝาเรือนได้เป็นอย่างดี
เดหลี ( Spathiphyllum sp.)
เดหลีเป็นไม้พุ่ม สูงประมาณ 0.3-0.5 เมตร ใบมีสีเขียวเข้มมันเป็นวาว ตัดกับดอกสีขาว อาจปลูกเรียงรอบเสาบ้านแถวใต้ถุนเรือน สีขาวของดอกตัดกับสีเข้มของเสาไม้ ทำให้มุมนั้นดูสว่างสดใส มีชีวิตชีวา หรืออาจนำไปปลูกลงกระถางเคลือบใบสวย วางตามมุมห้องหรือข้างตั่งไม้สไตล์ไทย เป็นการนำสีเขียวเข้ามาไว้ในบ้าน สร้างความชุ่มชื่นได้อีกแบบ
พลูด่าง (Epipremnum aureus Engl.)
เป็นไม้เลื้อยที่หลายบ้านชอบปลูก อาจปลูกเป็นแปลงไม้คลุมดิน ทนร่มได้ดี จึงเหมาะกับสวนไทยที่ร่มครึ้ม เพราะแปลงพลูด่างจะช่วยเพิ่มความสว่างขึ้นมาได้ด้วยสีใบด่าง เขียวแกมขาวหรือเหลือง หรืออาจตัดปลูกใส่กระถางใบเตี้ยแช่น้ำให้ทอดเลื้อย วางประดับบนโต๊ะไม้ ช่วยให้บรรยากาศในบ้านไทยสว่าง ดูสดใส
ขอบคุณข้อมูลจาก นิตยสารบ้านและสวน