“ผนังเบา” หรือ “ผนังภายใน” เป็นสิ่งที่เพิ่มความเป็นห้อง เพิ่มความเป็นส่วนตัวให้เหมาะสมสำหรับการอยู่อาศัยภายในบ้านมากขึ้น สำหรับบ้านที่กำลังก่อสร้าง การแบ่งพื้นที่ห้องภายในเป็นสิ่งจำเป็นที่จะต้องคิดถึงเป็นอันดับต้นๆ ส่วนบ้านที่ต้องการจะปรับปรุงหรือกั้นห้องใหม่ การเลือกใช้วัสดุและจัดพื้นที่ใหม่เป็นสิ่งสำคัญ ลองมาดูกันว่ามีอะไรที่เราควรรู้ก่อนทำการกั้นห้องเพื่อบ้านแสนรักของเรา

1. ผนังเบา ไม่ต้องมีคานรองรับ
ผนังเบาในที่นี หมายถึงผนังที่มีโครงเคร่าไม้ อลูมิเนียม หรือเหล็กเป็นโครงสร้างหลัก และปิดทับ
ด้วยวัสดุแผ่นผนังไม่ว่าจะเป็นแผ่นยิปซัม แผ่นไฟเบอร์ซีเมนต์บอร์ด ที่มีน าหนักเบา เป็นต้น เมื่อขึนชื่อว่าผนังเบาก็ต้องมีน าหนักที่เบากว่าผนังก่ออิฐฉาบปูนแบบทั่วไป เพราะโดยปกติแล้วตามแนวของผนังที่เป็นก่ออิฐฉาบปูนต้องรองรับด้วยแนวคานเพื่อความแข็งแรง แต่ผนังเบานี ไม่จ าเป็นต้องมีคานรองรับ จึงเหมาะส าหรับการต่อเติมเปลี่ยนแปลงห้องภายหลัง
ด้วยวัสดุแผ่นผนังไม่ว่าจะเป็นแผ่นยิปซัม แผ่นไฟเบอร์ซีเมนต์บอร์ด ที่มีน าหนักเบา เป็นต้น เมื่อขึนชื่อว่าผนังเบาก็ต้องมีน าหนักที่เบากว่าผนังก่ออิฐฉาบปูนแบบทั่วไป เพราะโดยปกติแล้วตามแนวของผนังที่เป็นก่ออิฐฉาบปูนต้องรองรับด้วยแนวคานเพื่อความแข็งแรง แต่ผนังเบานี ไม่จ าเป็นต้องมีคานรองรับ จึงเหมาะส าหรับการต่อเติมเปลี่ยนแปลงห้องภายหลัง

2. อิฐมวลเบา ที่ไม่เบา
บางคนคิดว่าอิฐมวลเบานั้นคือผนังเบาชนิดหนึ่ง แต่ในความจริงผนังอิฐมวลเบานั้นไม่เบาอย่างที่คิด มันมีน้ำหนักใกล้เคียงกับผนังก่ออิฐฉาบปูน เพราะต้องมีการฉาบเพื่อแต่งผิวเหมือนกัน ผนังอิฐมวลเบาจึงเหมาะสำหรับการใช้กับผนังภายนอก เพราะจะมีคุณสมบัติที่แข็งแรง กันเสียง กันความร้อนได้ดีกว่าผนังเบา
3. ผนังเบา ต้องมีโครงที่แข็งแรง
ควรใช้โครงเคร่าเหล็กชุบสังกะสี ที่มีความหนาอย่าง น้อย 0.55 มิลลิเมตร และมีขนาดหน้าตัดเล็กที่สุด 52 x 30 มิลลิเมตร และใหญ่ที่สุด 94 x 30 มิลลิเมตร ทั้งโครงเคร่าตัวตั้งและตัวนอน แผ่นยิบซั่มหรือไฟเบอร์ซีเมนต์ที่นำมาติดตั้งอย่างน้อย หนา 12 มิลลิเมตร ระยะห่างโครงเคร่าไม่ควรเกิน 60 เซนติเมตร โครงเคร่าเหล็กชุบสังกะสี ต้องได้มาตรฐานอุตสาหกรรม โดยตรวจสอบกับบริษัทผู้ผลิตที่เชื่อถือได้ สำหรับพุกที่ใช้ยึดกับโครงสร้างอาคารหรือพื้น ควรเป็นพุกเหล็ก EXPANSION BOLT หากต้องการความแข็งแรงมากขึน ก็สามารถเลือกใช้โครงเคร่าเหล็กที่มีขนาดหน้าตัดที่ใหญ่ขึ้น หรืออาจเพิ่มความหนาของแผ่นผนังเป็น 15 มิลลิเมตร นอกจากนี ยังสามารถร่นระยะห่างโครงเคร่าจาก 60 เซนติเมตร เป็น 40 เซนติเมตร
ควรใช้โครงเคร่าเหล็กชุบสังกะสี ที่มีความหนาอย่าง น้อย 0.55 มิลลิเมตร และมีขนาดหน้าตัดเล็กที่สุด 52 x 30 มิลลิเมตร และใหญ่ที่สุด 94 x 30 มิลลิเมตร ทั้งโครงเคร่าตัวตั้งและตัวนอน แผ่นยิบซั่มหรือไฟเบอร์ซีเมนต์ที่นำมาติดตั้งอย่างน้อย หนา 12 มิลลิเมตร ระยะห่างโครงเคร่าไม่ควรเกิน 60 เซนติเมตร โครงเคร่าเหล็กชุบสังกะสี ต้องได้มาตรฐานอุตสาหกรรม โดยตรวจสอบกับบริษัทผู้ผลิตที่เชื่อถือได้ สำหรับพุกที่ใช้ยึดกับโครงสร้างอาคารหรือพื้น ควรเป็นพุกเหล็ก EXPANSION BOLT หากต้องการความแข็งแรงมากขึน ก็สามารถเลือกใช้โครงเคร่าเหล็กที่มีขนาดหน้าตัดที่ใหญ่ขึ้น หรืออาจเพิ่มความหนาของแผ่นผนังเป็น 15 มิลลิเมตร นอกจากนี ยังสามารถร่นระยะห่างโครงเคร่าจาก 60 เซนติเมตร เป็น 40 เซนติเมตร

4. แขวนของหนัก ต้องเพิ่่มความแข็งแรง
ผนังเบาที่มีการแขวนสิ่งของหนักเช่นโทรทัศน์ กรอบรูปขนาดใหญ่ หรือชั้นวางของที่มีน้ำหนักมากๆ ต้องมีการคิดถึงเรื่องโครงสร้างภายในผนังเบานั้นด้วย โดยควรเสริมโครงเคร่าให้ถี่ขึ้น จากเดิมห่างกัน 60
เซนติเมตรเป็น 40 หรือ 30 เซนติเมตร โคร่งเคร่าแนวนอนก็เช่นกันควรเสริมในบริเวณที่มีการแขวนรูปดังกล่าวห่างกันประมาณ 40 หรือ 30 เซนติเมตร เช่นกัน ส่วนการยึดก็ทำการยึดสิ่งที่แขวนกับโครงเคร่าไม่ใช่ยึดกับวัสดุปิดผิวของผนังเบา
เซนติเมตรเป็น 40 หรือ 30 เซนติเมตร โคร่งเคร่าแนวนอนก็เช่นกันควรเสริมในบริเวณที่มีการแขวนรูปดังกล่าวห่างกันประมาณ 40 หรือ 30 เซนติเมตร เช่นกัน ส่วนการยึดก็ทำการยึดสิ่งที่แขวนกับโครงเคร่าไม่ใช่ยึดกับวัสดุปิดผิวของผนังเบา
5. แบ่งผิด ชีวิตเปลี่่ยน
การกันห้องนั้นต้องคำนึงถึงการใช้งานเป็นหลัก เช่นหากเรามีพื้นที่ห้องที่ใหญ่มากและต้องการแบ่งพื้นที่เป็นห้องเล็กๆ สิ่งที่ต้องคำนึงถึงคือ เรื่องของขนาดห้องที่ไม่เล็กหรือใหญ่เกินไปเหมาะสมกับการใช้งานและจำนวนคน 3 x 3 เมตรเป็นอย่างน้อยสำหรับห้องนอน, การเข้าถึงห้องนั้นๆ นั่นก็คือทางเดินภายในบ้านนั่นเอง โดยอย่างน้องต้องกว้าง 1 เมตร, ช่องหน้าต่างที่จะเกิดขึ้นเมื่อทำการแบ่งห้องแล้ว แต่ละห้องควรมีหน้าต่างที่สามารถเปิดออกสูภายนอกเพื่อระบายอากาศและรับแสงสว่างได้
การกันห้องนั้นต้องคำนึงถึงการใช้งานเป็นหลัก เช่นหากเรามีพื้นที่ห้องที่ใหญ่มากและต้องการแบ่งพื้นที่เป็นห้องเล็กๆ สิ่งที่ต้องคำนึงถึงคือ เรื่องของขนาดห้องที่ไม่เล็กหรือใหญ่เกินไปเหมาะสมกับการใช้งานและจำนวนคน 3 x 3 เมตรเป็นอย่างน้อยสำหรับห้องนอน, การเข้าถึงห้องนั้นๆ นั่นก็คือทางเดินภายในบ้านนั่นเอง โดยอย่างน้องต้องกว้าง 1 เมตร, ช่องหน้าต่างที่จะเกิดขึ้นเมื่อทำการแบ่งห้องแล้ว แต่ละห้องควรมีหน้าต่างที่สามารถเปิดออกสูภายนอกเพื่อระบายอากาศและรับแสงสว่างได้

6. เลือกแผ่นผนังให้เหมาะสม
นอกจากวัสดุอย่างแผ่นไม้อัด กระเบื้องซีเมนต์ แผ่นเซโลกรีต หรือกระเบื้องแผ่นเรียบที่นิยมใช้มานานแล้ว ปัจจุบันก็มีวัสดุที่มีความยืดหยุ่นสูง ติดตั้งง่าย และราคาเหมาะสมให้เลือกใช้ ไม่ว่าจะเป็นแผ่นไฟเบอร์ซีเมนต์ ซึ่งเป็นวัสดุที่ผสมระหว่างซีเมนต์และเส้นใยธรรมชาตินำมาอัดเป็นแผ่น ในแผ่นมีผิวเรียบและผิวหยาบตามความต้องการว่าจะใช้หน้าไหน มีหลายขนาดและความหนาให้เลือกใช้ แผ่นวูดซีเมนต์ ซึ่งผลิตโดยการนำไม้ปลูกโตเร็วมาสกัดย่อยเป็นชิ้นละเอียด ผสมกับซีเมนต์ให้เป็นเนื้อเดียวกัน แล้วนำมาขึ้นรูปเป็นแผ่น โดยให้ส่วนผสมละเอียดอยู่บนผิวหน้า จึงเรียบเนียนละเอียดสวยงาม แผ่นยิปซัมบอร์ด วัสดุที่เป็นที่นิยมมานาน ด้วยคุณสมบัติที่ผิวเรียบเพราะกระดาษ กันเสียงและความร้อนได้ดี แต่อาจมีปัญหาเรื่องปลวกเพราะกระดาษที่นำมาทำผิวหน้านั่นเอง
7. ผนังเบาเหมาะส าหรับบางห้องเท่านัน
ห้องที่ไม่เหมาะกับผนังเบาคือ ห้องน้ำ เพราะน้ำอาจซึมเข้าไปภายในโครงเคร่าทางรอยต่อระหว่างแผ่นได้ ซึ่งแม้จะมีการปูกระเบื้องทับและทากันซึมดีอย่างไร เมื่อเวลาผ่านไป น้ำก็มีโอกาสที่จะซึมผ่านเข้าไปและทำให้โครงเคร่าเสียหายได้ และห้องที่มีการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิและอุณหภมิต่างกันมากระหว่างภายในและนอก หรือห้องที่มีความชื้นมาก เช่น ห้องแช่ไวน์ เป็นต้น
ห้องที่ไม่เหมาะกับผนังเบาคือ ห้องน้ำ เพราะน้ำอาจซึมเข้าไปภายในโครงเคร่าทางรอยต่อระหว่างแผ่นได้ ซึ่งแม้จะมีการปูกระเบื้องทับและทากันซึมดีอย่างไร เมื่อเวลาผ่านไป น้ำก็มีโอกาสที่จะซึมผ่านเข้าไปและทำให้โครงเคร่าเสียหายได้ และห้องที่มีการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิและอุณหภมิต่างกันมากระหว่างภายในและนอก หรือห้องที่มีความชื้นมาก เช่น ห้องแช่ไวน์ เป็นต้น

8. ผนังเบาแบบอื่นๆ
ผนังเบายังหมายถึงฝากกันพื นที่ในแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นแบบ PVC อลูมิเนียม หรือบานเหล็ก มี
ทังแบบบานเลื่อน บานเฟี ยมและบานเปิด ทังหมดเป็นแบบกึ่งส าเร็จรูป การติดตังจ าเป็นที่จะต้องมาที่หน้าไซท์งานและค านวณเปรียบเทียบกับชิ นงาน ว่าสามารถติดตังได้พอดีหรือไม่ ต้องเพิ่มชิ นส่วนใดเพื่อให้การกันห้องนันสมบูรณ์
ทังแบบบานเลื่อน บานเฟี ยมและบานเปิด ทังหมดเป็นแบบกึ่งส าเร็จรูป การติดตังจ าเป็นที่จะต้องมาที่หน้าไซท์งานและค านวณเปรียบเทียบกับชิ นงาน ว่าสามารถติดตังได้พอดีหรือไม่ ต้องเพิ่มชิ นส่วนใดเพื่อให้การกันห้องนันสมบูรณ์
9. สำคัญที่รอยต่อแผ่นผนัง
ที่รอยต่อแผ่นผนังจะเป็นจุดที่เกิดการแตกร้าวมากที่สุด เนื่องจากหลายสาเหตุทั้งการหดและขยายตัวของวัสดุ การทรุดตัวของโครงสร้าง และการกระทบกระเทือนจากแรงภายนอก หากเป็นผนังเบาที่ต้องการให้ผนังเรียบเนียนทั้งผืนก็ต้องให้วัสดุยาแนวที่เหมาะสม เช่น วอลพุตตี้ (Wall Putty) เป็นผลิตภัณฑ์อะคลิลิคพิเศษมีความยืดหยุ่นสูง ยึดเกาะดี ขัดแต่งเนื้อผิวได้ง่าย เหมาะสำหรับการซ่อมแซมโดยการฉาบโป๊วอุด รอยเจาะตะปู รอยต่อ รอยแตกร้าว รอยแตกลายงาของผนังปูนฉาบ เพื่อให้พื้นผิวผนังหน้างานเรียบเนียน สวยงาม ก่อนการทาสีทับหรือจะใช้อะคลิลิคยาแนวสำหรับร่องเล็กก็ได้ และทำการทาสีทับภายหลัง
ที่รอยต่อแผ่นผนังจะเป็นจุดที่เกิดการแตกร้าวมากที่สุด เนื่องจากหลายสาเหตุทั้งการหดและขยายตัวของวัสดุ การทรุดตัวของโครงสร้าง และการกระทบกระเทือนจากแรงภายนอก หากเป็นผนังเบาที่ต้องการให้ผนังเรียบเนียนทั้งผืนก็ต้องให้วัสดุยาแนวที่เหมาะสม เช่น วอลพุตตี้ (Wall Putty) เป็นผลิตภัณฑ์อะคลิลิคพิเศษมีความยืดหยุ่นสูง ยึดเกาะดี ขัดแต่งเนื้อผิวได้ง่าย เหมาะสำหรับการซ่อมแซมโดยการฉาบโป๊วอุด รอยเจาะตะปู รอยต่อ รอยแตกร้าว รอยแตกลายงาของผนังปูนฉาบ เพื่อให้พื้นผิวผนังหน้างานเรียบเนียน สวยงาม ก่อนการทาสีทับหรือจะใช้อะคลิลิคยาแนวสำหรับร่องเล็กก็ได้ และทำการทาสีทับภายหลัง

10. เพิ่มคุณสมบัติให้ผนังเบา
ผนังเบามีคุณสมบัติในการป้องกันความร้อนและเสียงน้อยการผนังก่ออิฐฉาบปูน การเพิ่มฉนวนกันความร้อนซึ่งส่วนใหญ่จะทำหน้าที่กันเสียงได้ด้วย เข้าไปที่ช่องว่างระหว่างโครงเคร่าและปิดทับด้วยวัสดุผนังตามปกติ ก็จะช่วยให้ภายในบ้านเย็นขึ้นและกันเสียงได้มากขึ้น หากต้องการผนังสองชั้นเพื่อเพิ่มช่องอากาศระหว่างผนังเพื่อเป็นฉนวน ก็สามารถทำได้ง่ายกว่าการทำผนังก่ออิฐฉาบปูน โดยการทำผนังเบาที่ด้านในของห้องด้านที่แสงแดดส่องมากที่สุดอย่างทิศใต้หรือทิศตะวันตก