ร้านอาหารนั่งชิวที่ตกแต่งแบบ Industrial Loft มีแนวคิดเก๋ๆ ด้วยการใช้วัสดุตกแต่งดิบเท่ และตัวร้านรูปทรงสะดุดตาทรงจั่ว ให้ความรู้สึกเหมือนได้กลับมากินข้าวที่บ้านอีกครั้ง
Fattory by Park2bar
Architect : คุณพรชัย ชั่งจินดา
Location : 8/26 Sukhumvit 66, Bang Na, Bangkok
Story & Photo : Dsign Something
ใครจะคิดว่าซอยสุขุมวิท 66 ที่อยู่บนถนนสุขุมวิทที่เกือบจะออกบางนา จะมีร้านอาหารเท่ๆ อย่างร้าน Fattory ซ่อนตัวอยู่ในซอยตัน บรรยากาศเงียบสงบ แต่โดดเด่นด้วยโครงสร้างเหล็กรูปบ้านทรงจั่ว มีกิมมิกเก๋ๆ และตกแต่งแบบ Industrial Loft Style
ก่อนจะมาเป็น Fattory…
จุดเริ่มต้นมาจาก คุณโบว์ หนึ่งในหุ้นส่วนร้าน ต้องการทำอะไรสักอย่างกับที่ดินบริเวณนี้ ซึ่งเดิมเป็นธุรกิจบ้านเช่าของครอบครัว แต่เมื่อคนเช่าย้ายออกไป จึงกลายเป็นที่ดินเปล่า เลยเกิดคำถามว่าแล้วเราจะใช้ประโยชน์จากที่ดินตรงนี้ยังไงดี ? ประกอบกับคุณโบว์เป็นคนชอบทานอาหาร มีโอกาสได้ลองลิ้มชิมรสอาหารมามากมายและเคยมีประสบการณ์ขายอาหารกับเพื่อนมาก่อน เลยคิดว่าเปิดร้านอาหารนี่แหละเหมาะกับเราสุด !
Fattory ชื่อนี้มีแต่ความอร่อย
ชื่อนี้ได้มาจากความที่ตนเองและเพื่อนๆ ชอบทานอาหาร เลยคิดว่าเรามาสร้างโรงงานผลิตของอร่อยกันดีกว่า จึงนำคำว่า Fat มารวมกับ Factory เกิดเป็นชื่อร้าน Fattory
ร้านสะท้อนตัวตน
…ถ้าเปรียบร้านเป็นคน คุณโบเจ้าของร้านบอกกับเราว่า อยากให้ร้านแทนดั่งผู้หญิงเท่ๆ แนวๆ แต่มีเสน่ห์ปลายจวัก ทำให้กลายเป็นคาแรคเตอร์เฉพาะตัวที่น่าค้นหาแห่งนี้
เมื่อมองจากหน้าร้านจะเห็นโครงสร้างรูปบ้านหลังคาจั่วขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นโครงโรงรถเดิม แต่ปรับหลังคาใหม่ให้จั่วมีความแหลมชันขึ้น แลดูเป็นบ้านมากขึ้น โดยการตกแต่งทั้งหมดได้คุณพรชัย ชั่งจินดา เป็นคนช่วยออกแบบ โดยตั้งโจทย์ว่าอยากได้สไตล์ที่ไม่เหมือนกับร้าน The 66 Cottage คาเฟ่วินเทจของญาติคุณโบว์ที่ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้าม บวกกับความชอบส่วนตัวที่ชอบสไตล์ดิบๆ แต่ก็ยังอยากให้ดูซอฟต์ๆ เพราะหุ้นส่วนร้านเป็นผู้หญิงกันหมด จึงได้ข้อสรุปว่าตกแต่งในสไตล์ Industrial Loft แต่เบรคความเท่ด้วยสีสันสดใสน่ารักสไตล์ผู้หญิง
โรงรถที่ไม่มีรถ
พอเดินเข้ามาในร้านก็สัมผัสได้ถึงความเท่ในทันที เพราะโดดเด่นด้วยวัสดุหลากหลายชนิดทั้งอิฐ เหล็ก กระจก ไม้ กระเบื้องลายโราณ และยังสร้างกิมมิกให้ร้านด้วยของตกแต่งสไตล์ American Garage อย่างป้ายทะเบียนรถ ป้ายไฟต่างๆ ซึ่งเป็นของสะสมของสามีคุณโบว์ เดิมทีตัวร้านมี 2 ชั้น แต่เพิ่มพื้นที่ส่วนเอ้าท์ดอร์เข้าไปเพื่อรองรับลูกค้าได้มากขึ้น
หน้าร้านเป็นหน้าต่างบานใหญ่ ทำให้ร้านดูโปร่ง หลังคาเจาะช่องแสงติดกระจกใสแต่ไม่กว้างมาก เพื่อรับแสงธรรมชาติในตอนกลางวัน แต่ไม่ห้อยโคมไฟเพราะดูเหมือนร้านอื่นๆทั่วไป เลยติดไฟ LED ที่ขื่อทรงสามเหลี่ยมคว่ำเข้าไปแทน ซึ่งขื่อนี้ก็เป็นหนึ่งในหลักฮวงจุ้ยที่เจ้าของร้านเชื่อ และยังสามารถใช้ประโยชน์เป็นของตกแต่งร้านได้อีกด้วย
ในสไตล์ Industrial Loft สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยคืออิฐบล้อคแต่จะใช้อิฐธรรมดาก้อนเล็กๆก็ดูดาษดื่นไม่น่าตื่นเต้นเลยสั่งทำเป็นอิฐก้อนใหญ่เพื่อสร้างเอกลักษณ์ให้กับร้าน
แอร์เปลือย นอกจากจะดูแลรักษาง่ายแล้ว ยังกลายเป็นของตกแต่งร้านได้อีกด้วย
เฟอร์นิเจอร์บางอย่างในร้านได้มาจากของเหลือใช้ในบ้านเช่า เอามารีไซเคิลให้เกิดประโยชน์ อย่างโต๊ะทานข้าว ท้อปโต๊ะได้มาจากบานประตูไม้เซาะร่อง ขาโต๊ะและม้านั่งติดผนัง ได้มาจากเศษไม้เอามาต่อๆกัน ทาสีและขัดสีให้ดูวินเทจ เพิ่มของตกแต่งอย่างหมอน และเก้าอี้ Tolix สีสันสดใส ปูกระเบื้องลายชิโนโปรตุกีสสีเทา ทำให้ร้านดูซอฟต์ขึ้น
Bar ด้านข้าง เปิด–ปิดโดยใช้วิธีชักรอก ดูเก๋ไก๋แปลกตา แต่เมื่อใดที่โซ่ฝืด ก็สร้างความลำบากในการเปิดปิดอยู่ไม่น้อย เพราะต้องออกแรงมากเป็นพิเศษ
ชั้น 2 ด้านข้างร้าน ถึงแม้ตอนนี้จะไม่ได้เปิดให้บริการลูกค้า เพราะห่วงเรื่องความปลอดภัยในการขึ้นลงบันไดที่ไม่มีราวกันตก แต่ในอนาคตอาจจะเปิดให้ใช้บริการในโซนนี้อย่างแน่นอน
สุนัขพันธุ์ French Bulldog ของคุณโบว์ มาสคอตประจำร้าน ถือว่าเป็นสีสันอีกอย่างหนึ่งของร้านเลยก็ว่าได้ เพราะบางทีลูกค้ามาทานข้าวก็ถามถึงเจ้าหมาน้อยตัวนี้
สวนข้างร้าน พื้นที่เอ้าท์ดอร์ต่อเติมทีหลังเพื่อรองรับลูกค้าที่มากขึ้นให้อารมณ์เหมือนมาทานข้าว ปาร์ตี้สังสรรค์กับเพื่อนที่สวนหลังบ้าน
กลับบ้านมากินข้าวกันเถอะ
อย่างที่กล่าวข้างต้น คุณโบว์เน้นอาหารรสชาติอร่อย จึงทำเป็นอาหารไทยฟิวชั่น ที่ผสมผสานความอร่อยจากหลายรสชาติ โดยเลือกเมนูอาหารไทยโบราณเป็นหลัก เพราะให้ความรู้สึกหาทานได้ยาก อยากได้รสชาตินี้ต้องกลับมาทานที่บ้านเท่านั้น แต่แต่งจานให้สวย ทำให้อาหารดูหน้าตาดี สามารถถ่ายรูปอัพลงโซเชี่ยลอวดเพื่อนๆได้
ข้าวแมว เมนู Recommend ของร้าน ใครๆต่างก็ต้องสั่งเมนูนี้ ข้าวสวยร้อนๆ ทานคู่กับปลาทูที่ทอดจนกรอบ สามารถทานได้ทั้งหัวและกระดูก อร่อยจนอยากแย่งแมวทานกันเลยแหละ
กุ้งทอดซอสต้มยำ เมนูทานเล่นที่ทางร้านแนะนำ กุ้งทอดกรอบๆ วางบนเครื่องต้มยำ เสริฟบนจานกระเบื้องหินกาบพร้อมซอสรสต้มยำ ทานเล่นๆเพลินๆอร่อยเชียวแหละ
สลัดแซลม่อนจานนี้รับประกันความสดของวัตถุดิบอย่างแน่นอนเพราะใส่ลูกฟิกส์ที่ทางร้านปลูกเองจากไร่ที่ปากช่อง
“สิ่งที่แฮปปี้ที่สุดคือ การทำอาหารให้ลูกค้ากิน แล้วเค้ากินหมด ก็แปลว่าอาหารเราอร่อย”
ส่วนใครที่อยากไปลองชิมอาหารไทยฟิวชั่นสไตล์โฮมเมดก็เดินทางไปได้ง่ายๆ ลง BTS อุดมสุข ออกทางออก 2 เห็นป้ายซอยสุขุมวิท 66 ก็เดินเข้าไปได้เลยหรือถ้าขับรถมาก็มีที่จอดรถบริการค่ะ
ขอขอบคุณ Fattory by park2bar