ปัจจุบันความนิยมใช้จักรยานในการเดินทางมีเพิ่มขึ้น เพราะไม่เพียงดีต่อสุขภาพ แต่ยังเป็นพาหนะที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และนี่คือแนวทางที่กำลังเกิดขึ้นซึ่งอาจนำไปสู่การออกแบบจักรยานในอนาคต
1. น้ำหนักเบา
ปัจจัยเรื่องน้ำหนักเป็นสิ่งที่ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง นักปั่นหลายคนยกจักรยานขึ้นรถ ลงเรือ ขึ้นลงบันไดอยู่เป็นประจำ จักรยานน้ำหนักเบาจึงลดอุปสรรคในการทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้ บริษัท Humingbird Bike Company ผลิตจักรยานที่เบากว่าแมวโตเต็มวัย 2 ตัว ด้วยน้ำหนักเพียง 6.5 กิโลกรัม ทำจากวัสดุประเภทเส้นใยคาร์บอนที่มีน้ำหนักเบาแต่มีความแข็งแรงสูง เปิดตัวไปเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2558 และอ้างว่าเป็นจักรยานพับที่เบาที่สุด ในขณะที่ Road Bike แบรนด์คุ้นหูอย่าง Trek และ Bianchi นั้นก็มีจักรยานบางรุ่นที่มีน้ำหนักไม่ถึง 6 กิโลกรัมมาให้ขี่กันแล้ว
2. พับง่ายสุดๆ
แฟนจักรยานพับทุกคนน่าจะใจตรงกัน คือ อยากได้จักรยานที่พับง่าย ๆ และ Lucas Toledo, Eric Sevillia และ Agustín Agustinoy ก็จัดให้ กับจักรยานที่พับง่ายที่สุดในโลก จักรยานไฟฟ้า Gi Flybike ที่พวกเขาออกแบบใช้เวลาพับเพียง 1 ขั้นตอน ด้วยเวลา 1 วินาที มีลักษณะเหมือนการพับครึ่งจักรยาน ทั้งยังมีฟังก์ชั่นกันขโมยน่าใช้ควบคุมโดยแอปพลิเคชันในสมาร์ทโฟน สามารถล็อคจักรยานทั้งคัน เมื่อเจ้าของเดินห่างตั้งแต่ 5 เมตรออกไป ตัวเฟรมผลิตจากอลูมิเนียมรีไซเคิล จากการระดมทุนในเว็บไซต์ Kickstarter เมื่อต้นเดือนกันยายน 2559 มีผู้ให้ความสนใจเข้าร่วมทุนมากกว่า 426,980 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 15 ล้านบาท)
3. จักรยานฉบับกระเป๋า
การนำจักรยานใส่กระเป๋ามีข้อดี 2 อย่าง ได้แก่ ป้องกันจักรยานเมื่อไม่ได้ใช้ และสะดวกในการพกพา ที่ประเทศอินเดีย Lucid Design นำเอาแนวคิดจักรยานฉบับกระเป๋ามาออกแบบใหม่ให้เต็มไปด้วยสไตล์ในชื่อ Kit Bike จักรยานของพวกเขามีชิ้นส่วนทั้งหมด 21 ชิ้น รวมล้อ ยาง เบาะนั่ง และอุปกรณ์ต่อเชื่อม เพื่อให้ชิ้นส่วนมีจำนวนน้อยถอดประกอบง่าย Kit Bike จึงใช้ข้อต่อแบบเกลียวหมุนและล็อคแบบง่าย ถอดชิ้นส่วนใส่กระเป๋ากลมที่ถูกออกแบบมาให้มี 3 ช่อง เพื่อบรรจุทุกชิ้นส่วนได้อย่างพอดี ที่น่าเสียดายคือ Kit Bike ยังเป็นเพียง Conceptual Bike และกำลังรอการพัฒนาให้เกิดขึ้นจริง
4. เข็มทิศ LED
ทุกวันนี้แค่มีสมาร์ทโฟนก็ไปได้ทุกที่ แต่สำหรับนักปั่นการมองแผนที่ลายตาในจอสมาร์ทโฟนอาจรบกวนสมาธิ และยังอาจทำเกิดอุบัติเหตุขณะขับขี่ ดีไซน์สตูดิโอ MAP จากลอนดอน จึงออกแบบเข็มทิศสไตล์มินิมอลชื่อ BeeLine เพื่อนำทางนักปั่น โดยทำงานร่วมกับแอปพลิเคชัน และ GPS ของสมาร์ทโฟน ขณะปั่นจักรยานจึงไม่ต้องวุ่นวายยกโทรศัพท์ขึ้นมาดูแผนที่ และยังมีเวลาที่จะดื่มด่ำกับความสวยงามระหว่างทางเพิ่มขึ้นอีกด้วย
5. สีสเปรย์ช่วยชีวิต
บริษัทผลิตรถยนต์สัญชาติสวีดิชอย่าง Volvo ก็ห่วงใยในความปลอดภัยของนักปั่นอยู่ไม่น้อย เมื่อได้ผลิต Life Paint สเปรย์สะท้อนแสงขวดเล็กพกพาสะดวก สามารถฉีดพ่นลงบนเนื้อผ้า หมวกกันน๊อค หรือแม้แต่บนเฟรมจักรยาน เพื่อเปลี่ยนวัตถุสีเข้มให้สว่างอย่างชัดเจนเมื่อมีแสงตกกระทบ โปรเจครักษาความปลอดภัยให้นักปั่นนี้ Volvo ได้ร่วมงานกับ Albedo 100 ผู้ผลิตสีสเปรย์สะท้อนแสงสำหรับพ่นลงบนขนม้า และสัตว์เลี้ยง จึงเชื่อมั่นในความปลอดภัยต่อวัสดุที่จะนำมาพ่นสีได้เลย
6. ที่ล็อคจักรยานอ่านลายนิ้วมือ
มาถึงการป้องกันขโมยโดยใช้เทคโนโลยีเข้าช่วยบ้าง ไอเดียสุดเจ๋งจากคู่หูวิศวกรชาวแคนาเดียน ที่เพิ่งทำการระดมทุนผ่านเว็บไซต์ Kickstarter คือ ล็อคจักรยานสุดไฮเทคที่ใช้ลายนิ้วมือในการปลดล็อค เริ่มต้นจากเจ้าของจักรยานบันทึกลายนิ้วมือผ่านแอปพลิเคชันในสมาร์ทโฟน ซึ่งต่อกับล็อคจักรยานด้วย Bluetooth และสามารถเลือกระบบแบบมีผู้ใช้ร่วมหลายคนได้ เมื่อจะปลดล็อคก็เพียงจับที่ปลายล็อค เซนเซอร์จะทำการอ่านลายนิ้วมือและมีแสงสีเขียวเมื่อการปลดล็อคสำเร็จ และเป็นแสงสีแดงเมื่อไม่ใช่ลายนิ้วมือที่บันทึกไว้
จะเห็นว่าอีกไม่นานต่อจากนี้ จักรยานจะมาพร้อมไอเดียดี ๆ ที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิต เสริมการใช้งานด้วยเทคโนโลยี และสมาร์ทโฟน ทำให้วงการออกแบบจักรยานดูคึกคักและน่าสนใจไม่น้อย
ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก dezeen.com