เมื่อเข้าสู่ฤดูร้อนที่เต็มไปด้วยแสงแดดและอุณหภูมิในอากาศที่มีความร้อนสูง นอกจากจะส่งผลทำให้เรารู้สึกไม่สบายตัวแล้ว แน่นอนย่อมส่งผลกระทบต่อต้นไม้สวยๆ ในพื้นที่การจัดสวนอันเป็นที่รักของเราเหมือนกัน ซึ่งหากเราไม่ได้เอาใจใส่ดูแลสวนเท่าที่ควรสีเขียวสดใจจากพรรณไม้ในสวนของเราอาจกลายเป็นสีน้ำตาลทองที่เหี่ยวเฉาก็เป็นได้ ดังนั้นเมื่อถึงฤดูร้อนเราจึงต้องดูแลเอาใจใส่พื้นที่ของการจัดสวนของเราให้เป็นพิเศษ เพราะพืชเป็นสิ่งมีชีวิตเหมือนคนจึงต้องการอาหาร ต้องการบำรุงรักษาและทะนุถนอมเช่นเดียวกัน
การรดน้ำอย่างสม่ำเสมอ
อุณหภูมิที่สูงขึ้นในหน้าร้อน ส่งผลให้พืชมีอัตราการคายน้ำที่สูงขึ้น ทำให้พืชต้องการน้ำทั้งจากใต้ดินและในอากาศมากขึ้น การให้น้ำต้นไม้จึงจำเป็นต้องให้มากขึ้นและการรดน้ำต้องให้มีความสม่ำเสมอมากเป็นพิเศษ ในหน้าร้อนควรรดน้ำต้นไม้ในเวลาช่วงเช้าประมาณไม่เกิน 6 โมง – 8 โมงเช้า ก่อนที่แสงแดดจะลง และช่วงเย็นประมาณ 5 โมงเย็นลงไปหลังจากแสงพระอาทิตย์หมด การให้น้ำควรจะให้น้ำเป็นละอองฝอย ทั่วทั้งบริเวณ เพื่อทำให้เกิดความชื้นในอากาศ และให้น้ำบนดินเพื่อให้มีความชุ่มชื่นบนพื้นดิน
Tips : เคล็ดลับที่จะทำให้พื้นดินมีความช่มชื่นนานมากเป็นพิเศษ คือการหาวิสดุคลุมดินที่ช่วยลดการระเหยของน้ำจากผิวดิน อย่างเช่น กาบมะพร้าวสับ ไว้บริเวณโคนของต้นไม้ เพื่อจะให้พื้นดินมีความช่มชื่นอยู่ได้นานยิ่งขึ้น
ตัดแต่งกิ่ง
การตัดแต่งทรงต้นไม้ ทำเพื่อให้ต้นไม้แข็งแรงและอายุยืน สามารถเริ่มต้นทำได้ตั้งแต่ต้นยังเล็ก โดยเลือกตัดเฉพาะกิ่งที่อ่อนแอ และเก็บกิ่งที่แข็งแรงไว้ ซึ่งขั้นตอนการตัดแต่งกิ่งนั้นไม่ได้มีจุดประสงค์ เพื่อความสวยงามเพียงอย่างเดียว แต่ยังตัดเพื่อกระตุ้นให้เกิดการออกผล ตัดเพื่อทำลายกิ่งที่เสียและป้องกันการลุกลามของโรค แมลงและศัตรุพืช อีกทั้งยังเป็นการย้อนวัยให้ต้นไม้กลับมาเป็นวัยรุ่น ผลิยอดอ่อน แตกกิ่ง ออกดอก ออกผลสมบูรณ์อีกครั้งสำหรับต้นที่อายุมาก นอกจากนั้นยังตัดเพื่อช่วยให้ขนย้ายต้นไม้ได้สะดวกขึ้น และยังช่วยต้นไม้ลดการคายน้ำทางใบออกมาด้วย โอกาสรอดก็จะสูงกว่าต้นที่ไม่ได้ลิดกิ่งก้านหรือใบออกเลย
พวรนดินและใส่ปุ๋ย
ปัญหาหลักของดินในหน้าร้อน คือความร้อนจะทำให้น้ำในดินระเหยหายไปอย่างรวดเร็ว ทำให้ดินแห้ง ซึ่งก็แก้ได้ด้วยการหมั่นพรวนดิน เพื่อให้ร่วนซุยมากขึ้น โดยเฉพาะบริเวณโคนต้นไม้ เพื่อให้น้ำและอากาศไหลลงสู่พื้นดินเพื่อหล่อเลี้ยงรากของต้นไม้ได้ดียิ่งขึ้น และใส่ปุ๋ย เพื่อเพิ่มพูนอินทรีย์วัตถุในดิน ยิ่งดินอุดมสมบูรณ์ ก็จะดูดน้ำได้ดียิ่งขึ้น แต่ก็ควรระมัดระวังเรื่องของการใส่ปุ๋ยเคมี ไม่ควรที่หว่านปุ๋ยให้ไปตกหล่นบริเวณใบของต้นไม้ เนื่องจากความร้อนและสารเคมีจะทำให้ใบของต้นไม้เกิดการไหม้ได้ ควรให้ปุ๋ยบริเวณโคนของต้นไม้และให้รดน้ำตามเพื่อให้ปุ๋ยละลายลงสู่พื้นดิน
ศัตรูพืช
เมื่อถึงฤดูร้อนทีไร สภาพบรรยากาศมีความชื้นต่ำติดต่อกันหลายเดือน เป็นสภาพที่เหมาะสมต่อการ ระบาดและเพิ่มปริมาณของแมลงศัตรูพืชซึ่งมีอยู่หลายชนิดด้วยกัน ชนิดของแมลงศัตรูที่พบระบาดในหน้าแล้ง ได้แก่ เพลี้ยไฟ เพลี้ยแป้ง แมลงหวี่ขาว และไรแดง ซึ่งสามารถทำความเสียหายให้กับพืชที่ปลูกได้ จึงต้องหมั่นดูแลต้นไม้อย่างใกล้ชิด หากพบการระบาดในระยะเริ่มแรกซึ่งยังมีปริมาณน้อย ให้กำจัดโดยวิธีใช้มือขยี้ทำลาย หรือฉีดพ่นด้วยน้ำในตอนเช้า เพราะพวกมันจะไม่ลงในที่เปียกๆ แต่ถ้าเรารดน้ำกลางคืน พอเช้าขึ้นใบแห้ง ต้นไม้ของเราก็จะโดนพวกแมลงทำลายหมด
แดดที่เปลี่ยนทิศ
จากหน้าหนาวที่พระอาทิตย์จะอ้อมใต้ แต่พอมาหน้าร้อน แดดจะลงตรงๆ ไม่มีอะไรบัง ถ้าเป็นไม้ที่ไม่ชอบแดดก็ต้องจับย้ายที่ โดยหาไม้กระถางที่ชอบแดดมาตั้งบัง ซึ่งจะทำให้ภาพสวนเปลี่ยนไป ดูแปลกตาขึ้น เป็นการเปลี่ยนมุมสวนไปในตัว สำหรับดินที่เป็นดินทรายในช่วงหน้าร้อนตั้งแต่เวลาตีสามถึงบ่ายสามโมงเย็น จะสะสมความร้อนระอุเอาไว้มาก เพราะฉะนั้นไม่ควรรดน้ำในช่วงเวลาดังกล่าว ทางที่ดีควรรดน้ำตั้งแต่ตอนเช้ามืดไปจนถึงตีสอง และตอนบ่ายสี่โมงถึงตอนกลางคืน
ขอบคุณรูปภาพจาก Pinterest และข้อมูลจาก thaikasetsart