OPENING HOURS: MONDAY – SUNDAY: 10.00 AM TO 8.00 PM

info@sitename.com | 987654321

Design Makes A Better Life.

Design Makes A Better Life.

6 Tips เลือกอุปกรณ์ส่องสว่างรอบบ้านให้ลงตัวคุ้มค่า

ใครๆ ก็อยากมีบ้านที่ทั้งสวยงามและปลอดภัย มากไปกว่านั้นหากเป็นบ้านที่ช่วยประหยัดพลังงานได้ด้วย ก็คงจะเป็นบ้านในฝันของทุกคน โดยเฉพาะกับเรื่องแสงสว่างรอบบ้านที่ผู้คนมักให้ความสำคัญน้อย อาจเป็นเพราะเป็นสิ่งที่มาท้ายสุด อีกทั้งยังเป็นบริเวณที่ไม่ได้ใช้งานตลอดเวลา จึงเกิดการละเลยในส่วนนี้ได้

6 Tips นี้ กำลังจะบอกคุณว่า การออกแบบแสงสว่างรอบบ้านนั้นสำคัญกว่าที่คิด เพราะนอกจากความสวยงามลงตัวที่จะเสริมให้บ้านของเราสมบูรณ์แล้ว ยังเป็นเรื่องของความปลอดภัยและการใช้งานที่เหมาะสมด้วย เพียงคิดถึง 6 ข้อที่เป็นหัวใจนี้ รับรองว่าบ้านของคุณจะสวยงามลงตัว ไม่ว่าตอนกลางวันหรือกลางคืน

(สถานที่ : บ้านคุณ วีระพล และคุณธนพร เลิศรัตนชัย / สถาปนิก – ตกแต่งภายใน : คุณ รักศักดิ์ สุคนธะตามร์ Green Dwell)

– 1 – 

เลือกโคมไฟที่ติดตั้งง่าย ทำเองภายหลังก็ได้

ไม่ว่าจะเป็นบ้านเก่าหรือใหม่ การติดตั้งระบบไฟฟ้าที่ภายนอกบ้าน ทั้งรั้ว ทางเดิน หรือผนังภายนอก มักเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นเมื่องานก่อสร้างใกล้แล้วเสร็จเสมอ ทางเลือกหนึ่งที่จะสามารถตัดปัญหานี้ไปได้ หากยังไม่ได้เดินสายไฟหรือไม่สะดวกจะเดินสายไฟแล้ว คือการเลือกโคมไฟที่ไม่ต้องใช้ไฟฟ้า หรือใช้แบตเตอร์รี่ในตัวเอง ก็จะเป็นการลดความยุ่งยากไปได้มาก

(ภาพสถานที่ : Balcony Sea Side Sriracha)

– 2 –

เลือกโคมและหลอดไฟที่สวยงาม แม้ยามไม่เปิดไฟ

แม้ว่าโคมไฟจะมีหน้าที่หลักในตอนกลางคืนหรือเวลาที่แสงน้อย แต่เมื่อยามกลางวัน โคมไฟเหล่านี้ก็ยังคงอยู่และเผยหน้าตาของมันให้เห็นได้อย่างชัดเจน ฉะนั้นรูปร่างหน้าตาจึงเป็นสิ่งสำคัญ เลือกโคมไฟที่มีหน้าตาเข้ากับสไตล์ของบ้าน โดยเลือกสีที่เป็นสีกลางอย่างสีขาว ดำ เทา หรือ ครีม เพื่อให้สามารถเข้าได้กับบ้านหลากหลายสไตล์ได้ไม่ยาก

– 3 –

ส่องพื้นต้องเลือกไฟ Down Light (ส่องลง)

หลายครั้งที่เราพบว่าโคมไฟที่ติดบริเวณทางเดินนอกบ้านนั้น ส่องขึ้นมาแยงตาคนเดินไปมา นั่นเป็นเพราะการเลือกประเภทโคมไฟผิด โดยหากต้องการส่องทางเดินเพื่อให้คนเดินอย่างสะดวก ควรเลือกไฟที่ส่องลง หรือ Down Light โดยไม่ควรติดตั้งสูงจากพื้นมากเกินไป ทั่วไปติดตั้ง สูงจากพื้นทางเดิน 60 – 120 เซนติเมตร ซึ่งไฟที่ส่องขึ้น (Up Light) นั้น เหมาะสำหรับการเน้นโครงสร้างหรือฝ้าที่อยู่เหนือศีรษะขึ้นไป ทำให้ฝ้าหรือห้องดูกว้าง โปร่งสบายมากขึ้น

– 4 –

เลือกไฟอัจฉริยะ ชีวิตจะง่ายขึ้น

นอกจากรูปแบบของโคมไฟและหลอดไฟที่ใช้ในพื้นที่รอบบ้านแล้ว ระบบการใช้งานนั้นก็เป็นสิ่งที่สำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเป็นการทำงานระบบอัตโนมัติ ก็จะยิ่งช่วยให้ผู้อยู่อาศัยคลายความกังวลในการใช้งานไปได้อีกระดับหนึ่ง บวกกับไลฟ์สไตล์ของผู้คนในปัจจุบัน ที่ต้องการความสะดวกสบาย และในชีวิตประจำวันอาจมีเรื่องอื่นๆที่ต้องทำอีกมาก การปล่อยให้ระบบไฟรอบบ้านสามารถทำงานได้อัตโนมัติ ก็จะเป็นเรื่องดีไม่ใช่น้อย

โดยปัจจุบันมีโคมไฟที่สามารถกักเก็บพลังงานได้จากแผงโซล่าร์เซลล์ที่ติดอยู่ด้านบน แล้วนำมาใช้งานในยามค่ำคืน อีกทั้งยังมีระบบเซ็นต์เซอร์ตรวจจับความเคลื่อนไหว เมื่อมีคนเดินผ่าน ไฟก็จะติดโดยอัตโนมัติ และดับเองเมื่อเซนเซอร์ไม่พบความเคลื่อนไหวบริเวณนั้น

– 5 –

อุปกรณ์ต้องมีความทนทาน กันน้ำ ทนแดดได้ดี

ขึ้นชื่อว่าเป็นอุปกรณ์นอกบ้าน ต้องมีการกันน้ำที่ดี โดยมาตรฐานการกันน้ำนั้นสามารถดูได้จากค่าที่แสดงข้างกล่องสินค้า เช่น IP65 เป็นค่าการกันน้ำที่ดีที่สามารถใช้งานนอกบ้านได้อย่างไร้กังวล รวมถึงวัสดุตัวโคมไฟนั้นต้องสามารถทนทานต่อแสงแดดได้เป็นอย่างดี ผลิตจากวัสดุที่คงทน ใช้งานได้ในระยะยาวจริงๆ

– 6 –

ประหยัดพลังงาน ยิ่งใช้พลังงานแสงอาทิตย์ยิ่งดี

ใครที่สนใจระบบแผงโซล่าร์เซลล์ หรือ พลังงานหมุนเวียน อาจเป็นที่รู้กันดีว่าเป็นการลงทุนในระยะยาวที่ใช้เงินค่อนข้างสูง และหากไม่ได้ติดตั้งในพื้นที่ที่มากพอ อัตราการรับแสงแดดเพื่อสร้างพลังงานก็ยิ่งน้อยลง ได้ไฟฟ้าน้อยลง หรือเรียกว่าไม่คุ้ม หรือกว่าจะคืนทุนก็นานแสนนาน แต่กับอุปกรณ์นอกบ้านที่เราอาจไม่ได้ให้ความสนใจมากเท่าอุปกรณ์ในบ้านที่อยู่ใกล้ชิดเรา การเลือกอุปกรณ์ที่สามารถสร้างพลังงานได้เองจากพลังงานความร้อนและแสงแดด อาจเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจก็เป็นได้

ครั้งนี้เราจึงมีโคมไฟที่น่าสนใจชิ้นหนึ่งมาแนะนำครับ ด้วยแนวคิดแล้วอาจจะไม่ได้ใหม่อะไร แต่ที่น่าสนใจมากๆคือ ความง่ายในการใช้งานและการติดตั้ง เจ้าโคมไฟชิ้นนี้ก็คือ LED Solar Sensor จาก Lamptan นั่นเอง 

LED Solar Sensor จาก Lamptan เป็นการผสมผสานระหว่างหลอดประหยัดไฟ LED, Solar Panel แบบพิเศษชนิด Monocrystalline Silicon Solar และ Radar Sensor อัจฉริยะ โดยโคมไฟจะเปิด อัตโนมัติเมื่อมีการเคลื่อนไหว และจะทำงานเฉพาะเวลาที่มีแสงสว่างไม่เพียงพอเท่านั้น ซึ่งจะช่วยประหยัดไฟฟ้าได้เป็นอย่างดี เพราะใช้ไฟจากแบตเตอรี่ Lithium และสามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 9 ชั่วโมง ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง

ด้วยหลักการทำงานนั้นอาจไม่ต่างจากหลอดไฟตามถนนทางหลวง ที่มีแผงโซล่าร์เซลล์จิ๋วๆติดไว้ด้านบน เก็บสะสมพลังงานเอาไว้ในตัว เมื่อถึงเวลาใช้งานก็ดึงพลังงานนี้มาใช้ เป็นการเลือกใช้พลังงานทดแทนที่สร้างขึ้นได้เอง ทั้งประหยัดพลังงานโลก และยังไม่ต้องวุ่นวายค่อยเปิดปิดไฟเองด้วย

ส่วนการติดตั้งนั้นก็เรียกได้ว่าง่ายมากๆ โดยในกล่องนั้นประกอบด้วยตัวโคมไฟ LED Solar Sensor พร้อมอุปกรณ์ในการติดตั้ง ขั้นตอนง่ายๆเพียง มาร์คจุดที่ต้องการติดตั้ง เจาะรูบนผนังคอนกรีต ฝังพุกพลาสติกและขันสกรูให้เหลือหัวสกรูโผล่ออกมาเล็กน้อยเพื่อทำการแขวนโคมไฟ เท่านี้ก็เป็นอันเสร็จสิ้น

(คลิปสาธิตการใช้งาน)

สนใจ LED Solar Sensor โดย Lamptan เข้าไปดูเพิ่มเติมได้ที่ LED Solar Sensor

สอบถามเพิ่มเติม
Customer Service : 02-451-2968-9 ต่อ 15-16
Line add : @lamptan
www.lamptan.co.th