ใครเบื่อห้องเดิมที่ว่างเปล่ายกมือขึ้น… หลายคนคิดในใจ แต่ยังลังเล ว่าจะตกแต่งหรือเปลี่ยนแปลงอย่างไรดี ครั้งนี้เรามีแนวทางการเปลี่ยนห้องสีขาวธรรมดา
ให้กลายเป็นห้องสุดชิค ที่ไม่ว่าจะพักผ่อนหรือใช้เป็นห้องอเนกประสงค์สำหรับครอบครัว ก็สามารถทำได้ง่ายๆ ลองไปชมกันเลยครับ
ห้องก่อนทำการเปลี่ยนแปลง เจ้าของต้องการให้ห้องนี้เป็นห้องนั่งเล่นสำหรับครอบครัว เดิมนั้นเป็นห้องสีขาว พื้นลามิเนตลายไม้ โทนสีวอลนัท มีหน้าต่างและประตูบ้านเลื่อนที่ด้านข้างเพื่อเดินออกไปสู่ระเบียงได้ โดยมีโจทย์เรื่องการเพิ่มแสงสว่างให้ห้อง (เดิมแสงไฟที่ติดตั้งนั้นค่อนข้างน้อยและไม่สว่าง) และอยากเพิ่มบรรยากาศแห่งการพักผ่อน รวมถึงความแปลกใหม่
แนวทางในการปรับปรุง
เนื่องจากเป็นบ้านใหม่อายุ 1 ปีกว่าๆ สภาพของห้องทุกอย่างยังใหม่และสามารถใช้งานได้ดี เรื่องการซ่อมแซมจึงไม่มีความจำเป็น มาดูในเรื่องของแสงสว่าง พบว่าไฟดาวน์ไลท์เดิมนั้นมีจำนวน 4 ดวงด้วยกัน และติดตั้งที่ 4 มุมของห้อง พบว่าบริเวณกลางห้องนั้นจะเป็นจุดที่ไม่มีแสงสว่างส่องถึงเท่าไรนัก บวกกับความต้องการของเจ้าของ ที่อยากเพิ่มบรรยากาศแห่งการพักผ่อนและดูแปลกใหม่ แต่ยังคงความโมเดิร์นอยู่ ทั้งหมดถูกตีโจทย์และทำการปรับปรุงดังนี้
/ ต้องการเพิ่มแสงสว่างภายในห้อง โดยมองหาโคมไฟที่เปลี่ยนสีได้ จึงเลือกติดตั้งไฟส่องสว่างเพิ่มเติมด้วย LED Smart Speaker Ceiling Lamp Galaxy ที่มาพร้อมลำโพงในตัว สามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนผ่านแอพ สั่งการเปิดปิด ปรับความสว่าง เลือกสีของไฟ LED และสั่งเล่นเพลงได้ ในเวลาเดียวกัน
/ ติดตั้ง Wallpaper ลายต้นไม้ ที่สื่อถึงความเป็น Tropical ที่ผนังด้านหลัง
/ จัดวางเฟอร์นิเจอร์สไตล์โมเดิร์นที่มีกลิ่นอายของความลอฟท์เล็กๆ สีดำของหนังที่นำมาบุโซฟา ทำให้ภาพรวมดูเข้มและได้ลุคเท่ๆ
/ จัดวางพรมและของตกแต่ง โดยเน้นที่ความเรียบง่ายแต่เท่
ทำไมต้อง LED Smart Speaker Ceiling Lamp Galaxy จาก Lamptan
เมื่อไปสำรวจตลาดตอนนี้ โคมไฟที่สามารถเปลี่ยนสีได้นั้นมีหลายยี่ห้อก็จริง แต่ของ Lamptan นั้นสามารถเปลี่ยนสีได้หลากโทนสีมากที่สุด และเรื่องของเสียงจากลำโพงนั้นก็มีคุณภาพที่ดีกว่ายี่ห้ออื่นๆ เมื่อได้ลองสินค้าที่ร้านขายวัสดุก่อสร้างแล้ว จึงไม่ลังเลเลยที่จะเลือกใช้ LED Smart Speaker Ceiling Lamp Galaxy จาก Lamptan
ขั้นตอนการติดตั้ง LED Smart Speaker Ceiling Lamp Galaxy
1. กำหนดตำแหน่งของ LED Smart Speaker Ceiling Lamp Galaxy และแนวทางการเดินสายไฟ
โดยหลักการแล้ว LED Smart Speaker Ceiling Lamp Galaxy คือโคมไฟ ฉะนั้นจึงจำเป็นต้องมีสวิตช์เป็นของตัวเอง โดยถ้ามีโคมไฟซาลาเปาอยู่แล้ว ก็สามารถถอดโคมไฟซาลาเปาออก แล้วติด LED Smart Speaker Ceiling Lamp Galaxy เข้าไปแทนได้เลย
แต่ในกรณีของห้องนี้ เดิมนั้นมีการติดตั้งไฟดาวน์ไลท์อยู่แล้วจำนวน 4 ดวง แยกสวิตช์ออกเป็น 2 สวิตช์ เปิด-ปิด แยกกัน เพื่อความสะดวก และไม่ต้องทำการกรีดผนังเพื่อเพิ่มสายไฟใหม่ จึงทำการสลับสายต่อดาวน์ไลท์เดิม ให้เป็น 1 สวิตช์ เปิด-ปิด 4 ดวง และให้อีก 1 สวิตช์ นั้นเป็นของ LED Smart Speaker Ceiling Lamp Galaxy
(ในกล่องของ LED Smart Speaker Ceiling Lamp Galaxy ประกอบด้วย ตัวโคมไฟ สกรู และพุกปีกผีเสื้อ)
2. วัดระยะตำแหน่งโคมไฟ
วัดระยะกึ่งกลางห้อง เพื่อกำหนดจุดติดตั้งตัว LED Smart Speaker Ceiling Lamp Galaxy โดยการวัดระยะนั้นสามารถทำได้หลายวิธี ทั้งการวัดโดยตรงที่ผืนฝ้า (แต่วิธีนี้อาจต้องให้คนช่วยจับสายวัดเพื่อความเที่ยงตรง) หรือใช้อุปกรณ์ช่วยวัดอย่างเครื่องวัดเรเซอร์ ซึ่งสามารถทำงานคนเดียวได้อย่างสะดวก
หลังจากได้ตำแหน่ง ทำการเจาะฝ้าเป็นวงกลมเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 12 เซนติเมตร เพื่อเป็นช่องว่างให้สามารถทำการดึงสายไฟมายังจุดนี้ได้
3. ติดตั้ง LED Smart Speaker Ceiling Lamp Galaxy กับฝ้า
กำหนดจุดที่จะทำการติดตั้ง โดยให้โคมไฟอยู่กึ่งกลางตำแหน่งที่เราเจาะฝ้าไว้ก่อนหน้านี้
Tip : ที่ต้องใช้พุกผีเสื้อในการยึดติด (พุกผีเสื้อมีมาให้ในกล่อง) ก็เพื่อเพิ่มความแข็งแรงให้กับโคมไฟ และสามารถติดตั้งได้กับตัวแผ่นฝ้าเลย ไม่ต้องยิงติดกับโครงคร่าวฝ้าเพดาน
ใช้สกรูเจาะฝ้าในจุดที่ได้ทำเครื่องหมายเอาไว้ เจาะให้ทะลุฝ้าเพดาน โดยอาจใช้นิ้วอีกข้างเอื้อมไปรอไว้ เพื่อไม่ให้ปลายน็อตที่ทะลุไปนั้น ไปโดนงานระบบอื่นๆ หรือฉนวนกันความร้อนเกิดความเสียหายได้
เมื่อได้รูแล้ว ดันพุกผีเสื้อเข้าไปในรูที่เราได้เจาะไป โดยปลายอีกด้านของพุกจะบานออก เพื่อช่วยในการยึดเกาะ เพิ่มแรงต้านให้สามารถรับน้ำหนักได้มากขึ้น
นำแผ่นฐานโคม ยึดติดกับฝ้าเพดานด้วยน็อต โดยยึดเข้ากับพุกผีเสื้อที่เราได้ติดตั้งไปก่อนหน้านี้ ให้สายไฟที่เกินรูฝ้าออกมา 15 เซนติเมตรนั้น รอดออกมาทางรูที่ฐานของโคมไฟ
4. ต่อสายไฟกับ LED Smart Speaker Ceiling Lamp Galaxy
ต่อสายไฟให้ตรงตามสีคือ สีฟ้า สีน้ำตาล และสีเหลือง (สายสีน้ำตาลจะเป็นเส้นที่มีไฟฟ้าวิ่ง สายสีฟ้าจะเป็นเส้นของนิวตรอน และสีเหลืองเป็นเส้นของสายดิน) ควรติดตั้งให้ครบทั้ง 3 เส้น (รวมถึงสายดินด้วย) เพื่อความปลอดภัยสูงสุดในการใช้งาน
การต่อสายไฟทำได้โดยการเปลือยสายไฟให้เห็นเส้นทองแดงประมาณ 1.5 เซนติเมตร ก่อนจะสอดเข้าไปให้ทำการคลายน็อตเล็กน้อย ก่อนสอดเข้าไปยังช่องสอดสายไฟ และทำการขันน็อตให้แน่นตามเดิม
ทดสอบการใช้งานโดยยังไม่ต้องปิดฝาครอบ LED
ปิดฝาครอบโดยการหมุนจนแน่น และจัดระยะให้ตรงกึ่งกลางพอดี (สังเกตและเล็งได้จากลำโพง ที่จะอยู่กลางรูของฝาครอบพอดี)
การติดตั้งเป็นอันเสร็จสิ้น… หากใครคิดจะทำเองต้องระมัดระวังเรื่องไฟฟ้านะครับ และทำตามขั้นตอนเหล่านี้ รับรองว่าสามารถทำได้ ไม่พลาดแน่นอน
ต่อมาเรามาดูเรื่องการใช้งานกันบ้าง โดยการใช้งานนั้นก็แสนง่ายครับ เพียงดาวโหลดแอพ iLight สำหรับ iOS และ iLight Pro สำหรับ android (หน้าตาแอพเป็นแบบในรูปด้านล่างนี้เลยครับ)
การเชื่อมต่อแอพผ่านระบบ ios