“ข้างขึ้นข้างแรมของพระจันทร์ สู่ความหมายของเส้นสายทางสถาปัตยกรรมที่นุ่มละมุนตา”
Sala Samui Chaweng Beach Resort
Location: หาดเฉวง, เกาะสมุย, สุราษฎร์ธานี
Architects: onion คุณศิริยศ ชัยอำนวยและคุณอริศรา จักรธรานนท์
Photographs: Wworkspace
การออกแบบที่เริ่มต้นจากการตั้งคำถาม… ว่าผู้คนที่หลั่งไหลไปยังสถานที่นั้นๆ ปรารถนาจะสัมผัสกับอะไรมากที่สุด ภาพเส้นสายอันโค้งละมุนของสถาปัตยกรรมริม “หาดเฉวง” ที่ปรากฏออกมานี้ เป็นอีกหนึ่งคำตอบที่ “Onion” บริษัทสถาปนิกผู้ออกแบบโรงแรมในเครือ Sala Hospitality Group มาอย่างยาวนาน สร้างสรรค์ออกมาเป็น “Sala Samui Chaweng Beach Resort” บนเกาะสมุย เกาะที่ถูกขนานนามว่าเป็นดั่งสวรรค์กลางอ่าวไทย
Sala Samui Chaweng Beach Resort ตั้งอยู่ที่หาดเฉวง เกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ครอบคลุมพื้นที่ด้วยกันทั้งหมด 2 เฟส ซึ่งในเฟสแรกที่อยู่ค่อนมาทางชายหาดสร้างเสร็จสมบูรณ์แล้ว ประกอบไปด้วยห้องพักแบบ Pool villa ทั้งหมด 52 ห้อง ส่วนอีกเฟสคาดว่าจะเสร็จภายในปลายปีนี้
– เรื่องเล่าของพระจันทร์ –
แสงสะท้อนจากปรากฏการณ์ธรรมชาติที่เกิดขึ้นในท้องฟ้ายามค่ำคืน ทำให้เราอดคิดถึง “พระจันทร์” ไม่ได้ ซึ่งคุณป้อ-ศิริยศ ชัยอำนวย และคุณออ-อริศรา จักรธรานนท์ สถาปนิกจาก Onion ได้บรรจุแนวคิดหลักในการออกแบบอย่าง “ความสัมพันธ์ของแสงและช่วงวันเวลา” ของพระจันทร์นี้ ลงไปในองค์ประกอบทางสถาปัตยกรรมได้อย่างละมุนละม่อม และรูปร่างที่แตกต่างของพระจันทร์ในแต่ละค่ำคืน ตั้งแต่พระจันทร์เต็มดวง ไปจนถึงพระจันทร์เสี้ยวในข้างแรม การตกกระทบของแสงบนพื้นผิวและเงานั้น ยังถูกนำมาใช้สร้างความหมายบางอย่างในบริเวณต่างๆของโรงแรมอีกด้วย
Drop off ที่สร้างส่วนโค้งเว้า เพื่อเว้นต้นสะเดาอินเดียที่มีอยู่เดิม เชื่อมต่อไปยังพื้นที่อีกเฟส
การตกแต่งภายในล็อบบี้
อย่างพื้นที่ส่วนกลางที่มีสระว่ายน้ำวงกลมกลางแจ้งขนาดใหญ่ ค่อนไปทางชายหาด ที่เป็นเสมือนพระจันทร์เต็มดวง เต็มไปด้วยความเคลื่อนไหวของผู้คนที่หลั่งไหลเข้ามาใกล้ชิดกับทะเล ในขณะที่ขยับเข้าสู่ความเป็นส่วนตัวมากขึ้นเรื่อยๆไปจนถึงส่วนของสถาปัตยกรรมที่เป็นห้องพัก เปรียบได้ดั่งพระจันทร์ที่กำลังโคจรไปจนถึงคืนแรม
แปลนภายในพื้นที่เฟสหนึ่ง
งานกราฟิกบนร่มบริเวณสระว่ายน้ำ ที่ออกแบบให้มีความแตกต่างกันแต่ละอัน สื่อถึงลักษณะของพระจันทร์ในวันข้างขึ้นข้างแรม แตกต่างกันไป
– ให้ธรรมชาติ เป็นผู้นำพา –
เมื่อมี ทะเล แสงแดด และสายลม ล้วนแล้วแต่เป็นภาพจำของเกาะสมุย สถาปนิก จึงตั้งใจถ่ายทอดการออกแบบให้ Open Space หรือพื้นที่เปิดโล่งส่วนกลางเป็นดั่งจุดสำคัญของโรงแรม โดยเริ่มต้นจากการวางเลเอ้าท์อาคารห้องพักเป็นตัว U เพื่อโอบล้อมพื้นที่ตรงกลาง ซึ่งมีสระว่ายน้ำรูปวงกลมขนาดใหญ่ ห้องพักที่โอบล้อมทุกห้องสามารถสัมผัสทัศนียภาพอันสวยงามของชายหาดเฉวงไว้ให้ได้มากที่สุด
ด้วยความที่รูปร่างในส่วน Open Space ทั้งสระว่ายน้ำ พื้นที่นั่งเล่นที่เป็นวงกลม และมุมโค้งขององค์ประกอบต่างๆที่จัดวางอยู่ ทำให้แขกผู้เข้าพักสามารถสร้างอิสระในการเลือกเดินได้เอง ไม่มีทางบังคับว่าจะต้องเดินแบบนั้นแบบนี้ เหมือนให้ธรรมชาติเป็นผู้นำพาไปสู่สิ่งที่ใจปรารถนา ซึ่งทำให้เกิดความรู้สึกที่ผ่อนคลายมากกว่า
– เส้นโค้ง ความละมุนที่เกิดจากมิติของแสงและเงา –
ภาพแสงเงาที่พาดผ่านสถาปัตยกรรมสีขาวสะอาดตา 3 ชั้น ที่วางลดหลั่นเพื่อสร้างร่มเงาให้แก่กันและกันอยู่นั้น ทำให้เราเห็นความสวยงามของมิติอาคารหลังนี้ชัดขึ้น ด้วย Facade ที่มีเส้นสายความโค้งแบบarch ขนาดเล็กใหญ่ซ้อนกันเลเยอร์กันอยู่ เป็นสิ่งที่สถาปนิกออกแบบตามแนวคิดเรื่องราวของข้างขึ้นข้างแรมของพระจันทร์
มีแนวระแนงพาดเรียงรายอยู่เหนือของ Pool ส่วนตัว เมื่อแสงตกกระทบบนระนาบนี้ จะทำให้เกิดลายแนบลงบนผนังสีขาว และจะเคลื่อนที่ไปตามองศาแสงที่ตกกระทบ เป็นอีกหนึ่งมิติที่ทำให้อาคารนี้มีความสวยงามมากขึ้นตามช่วงเวลาที่แตกต่างกัน
รวมถึงการเจาะช่องโค้งในส่วนการออกแบบภายในห้องพักแต่ละห้อง เพื่อสร้างลำดับการเข้าถึงด้วยเลเยอร์ของผนังเจาะช่องโค้ง ทำให้รู้สึกถึงความแตกต่างการเปลี่ยนผ่านพื้นที่ และแบ่งสัดส่วนให้พื้นที่มีความชัดเจนในการใช้งาน ในขณะที่ยังเชื่อมต่อกันผ่านสายตาไปสู่ท้องทะเลที่สวยงาม โดยลักษณะความโค้งทั้งหมดจัดองค์ประกอบความสวยงามแบบ Random ทำให้แต่ละห้องพักมีคาแรกเตอร์ที่แตกต่างกัน
หน้าประตูทางเข้าห้องพัก
นอกจากนี้ เส้นโค้งของสถาปัตยกรรม ยังถูกถ่ายทอดลงในพื้นที่ทางเดินต่างๆภายในโรงแรมอีกด้วย
– ลดมุม นุ่มนวล และเป็นธรรมชาติ –
“พอเราได้มีโอกาสออกแบบสเกลและดีเทลให้เชื่อมต่อกันเป็นหนึ่งเดียวทั้งหมด มันไม่ได้มีสโคปกั้นระหว่างสถาปัตยกรรม อินทีเรียและฮาร์ดสเคป มันรวมกันเป็นหนึ่ง ต้องคิดเสมอว่าถ้าอยู่ตรงนี้จะเห็นมุมมองออกไปเป็นอย่างไร” คุณป้อกล่าวกับเราเมื่อถามถึงการตกแต่งภายในที่มีการเชื่อมแนวคิดการออกแบบให้ไปในแนวทางเดียวกัน ของที่จะนำมาใช้ตกแต่งภายในจึงได้ถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาใหม่เองเกือบทั้งหมด อย่างเฟอร์นิเจอร์ โคมไฟ อ่างอาบน้ำ โต๊ะข้างเตียง หมอน จะมีการลบมุม เพื่อทำให้ทุกอย่างดูนุ่มนวลละมุนตาขึ้น อีกทั้งยังแฝงการใช้วัสดุธรรมชาติอย่างไม้ กะลา เชือกหวาย เพื่อความรู้สึกอบอุ่นและกลมกลืนกับบริบทมากขึ้นอีกด้วย
เฟอร์นิเจอร์ภายในห้อง เป็นไม้ทำให้บรรยากาศดูอบอุ่น
ร้านอาหารริมชายหาดมีโครงสร้างแบบเต้นท์ ส่วนผนังเป็นไม้เพื่อความกลมกลืนกับธรรมชาติ มีการแต่งแต้มสีสันบ้างปะปลายเพื่อทำให้พื้นที่ดูสดใส มีชีวิตชีวา เรือตกปลาหมึกที่กลายมาเป็นแรงบันดาลใจในการติดไฟในส่วนนี้ ซึ่งออกแบบใหม่ให้เป็นกะลาห้อยลงมา ส่วนโคมสานนั้นออกแบบเองให้ความรู้สึกอบอุ่นเป็นกันเอง และใกล้ชิดธรรมชาติ
ปรากฏการณ์ธรรมชาติ เป็นเรื่องใกล้ตัวที่เราคุ้นชิน การเปลี่ยนแปลงในแต่ละช่วงเวลาที่เกิดขึ้นซ้ำๆ จนกลายเป็นเรื่องธรรมดา ซึ่ง Onion ได้นำสิ่งนี้มาถ่ายทอดให้มีความหมายมากยิ่งขึ้น ผ่านงานออกแบบที่ใส่ใจในทุกๆองค์ประกอบ มีความสวยงาม และเติมเต็มประสบการณ์ดีๆให้กับผู้มาเยือนได้อย่างแยบยล