ประสบการณ์การเข้าพักโรงแรมยามเดินทางออกสู่ต่างจังหวัดแต่ละครั้งเกิดขึ้นจากบริบทที่แตกต่างกัน หลายครั้งที่เราเลือกพักโรงแรมเพราะงานออกแบบที่ดี เพราะบรรยากาศรายรอบที่สวยงามเป็นธรรมชาติ หรือเพราะเป็นเพียงแค่ทางผ่านสู่สถานที่ท่องเที่ยวปลายทายของจริง แต่กับ HOTEL LABARIS KHAO YAI โรงแรมแห่งนี้ยังเป็นผู้สร้างประสบการณ์การท่องเที่ยวเขาใหญ่รูปแบบใหม่ที่ใช้การเล่าเรื่องผ่านเทพนิยายและงานสถาปัตยกรรม
CHAT Architects และพันธมิตรด้านงานออกแบบครบทุกแขนง ได้แก่ อินทีเรียร์ดีไซเนอร์ C&C Interiors, ภูมิสถาปนิก Shma landscape architects, กราฟิกดีไซเนอร์ be>our>friend และไลติ้งดีไซเนอร์ gooodlux lighting design ร่วมกันเสกโรงแรมแห่งนี้ให้เป็นดินแดนแห่งมนตรา โดยเริ่มต้นจากคำถามสถาปนิกเอง ที่ทำการค้นคว้าหาคำตอบมานานว่า สถาปัตยกรรมท้องถิ่นคืออะไร?
จนเมื่อได้โจทย์เป็นเขาใหญ่ เขาก็ค้นพบว่าเขาใหญ่ในวันนี้ คือผลรวมของสิ่งแวดล้อมตามธรรมชาติผู้ครองพื้นที่ก่อนหน้า และงานออกแบบที่ต้องยอมรับว่าเหมือนกับยกยุโรปมาไว้ที่นี่แล้ว จากระบบนิเวศของเขาใหญ่ในทั้งสองเรื่อง CHAT Architects จึงทำการผสมผสานและแปลความหมายผ่านการสร้างประสบการณ์บนพื้นที่ โดยมี “เส้นเรื่อง” ช่วยเสริมทัพให้งานออกแบบแข็งแรงมากขึ้น
APPROACH – EXPERIENCE
เรื่องราวตั้งต้นของงานออกแบบเริ่มจากเขาวงกตที่มีฉากหลังเป็นภูเขา เชื่อมโยงไปสู่งานออกแบบโดยรวมของโครงการ ที่มีเขาวงกตแทรกอยู่ในทุกส่วน จนออกมาเป็นผังบริเวณทั้งหมด ด้วยจุดประสงค์ที่ต้องการให้ทุกพื้นที่บนนี้มีความหมายและประโยชน์ใช้สอย
โซนทั้งหมดแบ่งออกได้เป็น พื้นที่สาธารณะสำหรับผู้คนทั่วไปอย่างโซน Rabbit Cafe ด้านหน้าสุด ที่เป็นเหมือนโพรงถ้ำแวะจิบกาแฟ ก่อนเข้าสู่พื้นที่พักสำหรับแขก
ผ่านทางล็อบบี้กลางสวนที่จะพาคุณเข้าสู่ที่พัก ซึ่งเป็นกลุ่มอาคารเส้นตรงที่คั่นกลางด้วย Cloister Garden หรือสวนพื้นที่ส่วนกลางระหว่างอาคาร ซึ่งความน่าสนใจอยู่ตรงที่ทุกห้องจะมีสวนเป็นส่วนหนึ่งของห้องตัวเองด้วยเช่นกัน เพื่อสร้างประสบการณ์ให้ห้องพักทั้ง 48 ห้องให้มีความพิเศษเฉพาะที่ไม่เหมือนกัน
จากนั้นจึงส่งต่อผ่านประตูปริศนาและเขาวงกตไปสู่ห้องพัก Pool Villa ซึ่งเป็นห้องพักแบบส่วนตัวพร้อมสระว่ายน้ำ และเขาวงกตที่กลายมาเป็นสวนส่วนตัวของวิลล่า
เส้นทางสู่พื้นที่ถัดมาคือ ห้องประชุม และห้องอาหารหรือโรงครัวที่เสิร์ฟอาหารแบบ Thai Cuisine and Grill Bar อาหารไทยจากภาคต่างๆ พร้อมกับอาหารฝรั่งเลิศรส ภายใต้หลังคาทอดยาวล้อไปกับบริบทรายล้อมที่เป็นภูเขาขนาบสองข้าง ก่อนส่งต่อสู่พื้นที่สุดท้ายปลายสุดเป็นสระว่ายน้ำ Infinity Pool กับดีไซน์คดเคี้ยวที่หยอกล้อเชื่อมต่อไปกับลำธารธรรมชาติที่อยู่เคียงข้าง ราวกับการว่ายน้ำต่อเนื่องในเมืองแห่งความฝันที่ไม่มีวันสิ้นสุด
APPEARANCE – ARCHITECTURE
ความสะดุดตาแรกเห็นของงานสถาปัตยกรรม คือจั่วอาคารทรงชะลูดสูงต่ำลดหลั่นสลับกัน เหมือนกับหมวกแม่มดที่วางต่อกัน แท้จริงแล้วที่มาของกลุ่มอาคารเหล่านี้เกิดจากความต้องการผสานบริบทแบบอาคารบ้านเรือนไทย สิ่งแวดล้อมที่รายรอบด้วยภูเขา และตัวเมืองเขาใหญ่ปัจจุบัน ที่เต็มไปด้วยอาคารทรงยุโรป ทั้งหมดถูกผสมผสานกันในแง่ของรูปลักษณ์ และลดทอนเส้นสายกลายเป็นภาพใหญ่ของกลุ่มอาคารในโรงแรม ซึ่งมีหลังคาเป็นเส้นโค้งต่อเนื่องกัน และกลายเป็นภาพจำหลักของ Hotel Labaris ในทันที
อีกส่วนคือกลุ่มอาคารเส้นตรงส่วนห้องพัก ตัวสถาปัตยกรรมประกอบขึ้นโดยมีแพตเทิร์นของฟาซาดทรงโค้งและระเบียงอยู่ภายใต้ชายคาจั่วสูงต่ำต่างระดับ ซึ่งเกิดจากการลดทอนอาคารหินแบบยุโรปเข้ามาให้เหมาะกับสภาพอากาศร้อนชื้นแบบไทยๆ ด้วยรูปทรงที่ดูเพรียวสูงชะลูด ร่วมกับหน้ามุขและจั่วหลังคาที่ทำหน้าที่เป็นเหมือนชายคาป้องกันแดดและฝนแรง
นอกจากนั้นแล้วแต่ละห้องยังซ่อนดีเทลเล็กๆ ที่แตกต่างกันไปทั้งหมด อย่างหน้าบานประตูแซมองค์ประกอบที่ดูไทยนิดๆ ฝรั่งหน่อยๆ แต่ทั้งหมดไม่มีบานไหนที่เหมือนกันเลย หรือภายในห้องที่ตกแต่งด้วยแพตเทิร์นที่ดูเรียบหรูแบบยุโรปแต่สบายตาเพื่อการพักผ่อน
APPRECIATION – STORY TELLING
ศาสตร์การเล่าเรื่องหรือ Story Telling ถูกนำมาใช้เพื่อเติมเต็มประสบการณ์การใช้งานโรงแรมแห่งนี้ให้เป็นมากกว่าการเข้าพักในโรงแรมแบบธรรมดาทั่วไป ด้วยการเนรมิตเทพนิยายและตัวละครหลักในเขาวงกต คือ คิงมิโนทอร์ ผู้ปกครองและสร้างสรรค์เมืองเวทย์มนตร์แห่งนี้จากจินตนาการให้เกิดขึ้นจริง แขกผู้มาเยือนในฐานะตัวละครสัตว์เล็กสัตว์น้อย ซึ่งการสร้างเรื่องราวไม่ได้เป็นเพียงเรื่องราวสนุกๆ เท่านั้น หากแต่ยังเป็นแก่นสำหรับยึดโยงงานออกแบบทุกศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นสถาปัตยกรรม งานออกแบบภายใน ไลติ้ง และแลนด์สเคป ให้ร้อยเรียงสอดคล้องเป็นเรื่องราวเดียวกันหมดทั้งโครงการ
อีกส่วนที่เติมเต็มให้การเล่าเรื่องดินแดนแห่งเวทย์มนตร์แห่งนี้สมบูรณ์แบบขึ้น คือการใส่รายละเอียดลงในงานก่อสร้าง เพราะสัมผัสแม้เพียงเล็กน้อยก็ช่วยเติมเต็มประสาทสัมผัสรอบด้านได้ โดยเฉพาะกับสถาปัตยกรรมหิน ซึ่งเป็นโจทย์หลักที่ถูกกำหนดขึ้นตั้งแต่เริ่มต้น โดยสถาปนิกได้แปลงร่างหิน ที่เคยดูหนาหนักให้เข้ากับบริบทเมืองร้อนแบบประเทศไทย ด้วยการใช้เศษหินอ่อนภายในท้องถิ่นปากช่องเป็นส่วนหนึ่งในงานตกแต่งอาคาร ร่วมกับการใช้ระเบียงผ่านช่องเปิดแบบโค้งเพื่อป้องกันแดดร้อนและลมฝนพัดพาเข้าถึงห้องพัก
ความสนุกของการมาเยือนที่นี่จึงไม่ได้หยุดอยู่เพียงแค่การผจญภัยออกท่องโลกเหนือจินตนาการเท่านั้น หากแต่ยังเป็นการสัมผัสและรับรู้ได้ถึงรายละเอียดต่างๆ ที่ซ่อนอยู่ทุกซอกทุกมุมผ่านงานออกแบบที่สร้างประสบการณ์ ซึ่งนับว่า HOTEL LABARIS KHAO YAI เป็นตัวอย่างที่ดีในการบูรณาการศาสตร์ด้านต่างๆ และความคิดสร้างสรรค์เข้าไว้ด้วยกัน เพื่อแสดงคุณค่าของงานดีไซน์ผ่านทางประสาทสัมผัสครบถ้วนทุกส่วน
HOTEL LABARIS KHAO YAI
9/9 หมู่ 4 ถนนธนะรัชต์ กม.16 ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา 30450
โทร. 06-3190-1900, 0-4430-0999